ว้า เสียดายจัง! เรื่องจี๊ด ๆ สมัยวัยรุ่น ที่เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่แล้วกลับต้องเปลี่ยนมุมมอง

วัยรุ่น วัยคึกคะนอง เราต่างก็มีวีรกรรมหรือสิ่งที่เคยทำแล้วคล้ายจะพลาดหรือคล้ายจะไม่เวิร์ค สิ่งที่ตอนนั้นคิดว่าทำแล้วมันเจ๋งสุด ๆ แต่โตมาถึงได้รู้ว่า ไม่น่าใช่นะ! ในอดีตอาจจะทำสิ่งที่ไม่น่ารักไว้ หรือสิ่งที่โตมาแล้วคิดเสียดายว่าตอนนั้นน่าจะทำดีกว่า ใด ๆ ก็แล้วแต่ ชีวิตคือการเรียนรู้ และชีวิตคือปัจจุบัน เพราะฉะนั้นสิ่งที่พลั้งไปก็นำมาเป็นบทเรียน ออกแบบชีวิตเสียใหม่ก็ยังไม่สาย ว่าแต่จะมีอะไรเด็ด ๆ บ้าง ไปดูกันเลย

1.รอยสัก 

ต้องยอมรับว่าคนรอบข้างมีอิทธิพลต่อเราอย่างมากในช่วงชีวิตหนึ่ง เลือดวัยรุ่นมันแตกซ่าน เห็นใครเท่ ใครคูลเราก็อยากจะเป็นแบบเขา หลาย ๆ คนอาจจะเริ่มต้นความชิค ๆ ด้วยแฟชันการแต่งกายตามเทรนด์ ที่เห็นได้มากไม่แพ้กันคือ รอยสัก ต้องบอกก่อนว่าการสักลายไม่ใช่เรื่องผิดแต่อย่างใด มันเป็นความชอบและรสนิยมเฉพาะตัว แต่ในอีกมุมหนึ่งของบ้านเราก็ต้องยอมรับว่าในอดีตรอยสักอาจยังไม่ได้รับการยอมรับในวงกว้างมากเท่าปัจจุบัน เด็ก ๆ บางคนไปสักตามเพื่อน มีทั้งกลางอก กลางหลัง บางคนสักนอกร่มผ้า ทำให้มีผลต่อการทำงานเมื่อโตขึ้นมา ผู้ที่มีรอยสักค่อนข้างเป็นปัญหาสำหรับงานบางแขนง เช่น การรับราชการ ทำให้บางคนต้องสูญเสียโอกาสตรงนี้ไป หรืออาจจะต้องไปลบรอยสักออก ซึ่งเสียเงินมากมายไม่แพ้กัน ถ้าย้อนเวลากลับไปได้บางคนก็อาจไม่อยากสักแล้วก็เป็นได้ 

2.ไม่ตั้งใจเรียน 

เข้าใจว่าวัยรุ่นมันไฟแรง ก็ต้องมีบ้างที่ตอนเรียนไม่ตั้งใจ โดดเรียนบ้าง ไปสายบ้าง สอบตกบ้าง มันก็สีสันหนึ่งในชีวิตที่สามารถเอาตัวรอดมาได้ แต่สำหรับบางคนอาจจะพลาดแล้วพลาดเลย การไม่ตั้งใจเรียนส่งผลให้เรียนไม่จบ ขาดวุฒิการศึกษาซึ่งต้องยอมรับตรง ๆ ว่ามีส่วนสำคัญในการดำรงชีพในปัจจุบันค่อนข้างมาก แต่ทุกวันนี้ก็ยังพอมีหนทางให้ศึกษาเล่าเรียนกันได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการศึกษานอกห้องเรียนต่าง ๆ ไม่มีใครแก่เกินเรียน หากรู้ว่าในอดีตได้พลาดไปแล้วก็ยังพัฒนาตัวเองทันเสมอนะคะ

3.คลั่งรัก 

ป้าดดด! เชื่อว่าใครก็เคยเป็น มีความรักทั้งทีก็เต็มที่สุด ๆ เทียวรับเทียวส่ง โทรศัพท์หากันทั้งคืน หลับคาสายแบบนั้นเลย พอต้องเลิกกันก็ร้องไห้จะเป็นจะตาย กินไม่ได้ นอนไม่หลับกันเลยทีเดียว เหมือนโลกทั้งใบล่มสลาย พังหมดแล้วชีวิตวัยรุ่น ถามว่าผิดไหม ไม่ผิดเลยจ้า ไม่ต้องเสียใจไปว่าเคยคลั่งรักขนาดนั้น แต่ว่าด้วยวัยที่โตขึ้นก็ทำให้เรียนรู้ความรักได้มากขึ้นว่าควรรักใคร ควรรักษากันและกันอย่างไร อาจไม่หวานจ๋อยเหมือนตอนวัยรุ่น แต่ยั่งยืนกว่าแน่นอน และเมื่อผิดหวังก็รู้ทางหนีทีไล่ในการรักษาหัวใจตัวเองมากขึ้นแล้วโดยไม่รู้ตัวนะ ความรักมันสวยงามเสมอ

4.ฟุ่มเฟือย 

ความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงของช่วงชีวิตหนึ่งคือการไม่วางแผนการเงิน ตอนวัยรุ่นเราอาจจะสนุกกับการใช้เงิน ไม่ว่าจะเป็นเงินที่พ่อแม่ให้มา เงินเก็บ หรือเงินที่หาได้เองก็ตาม ความสุขของวัยรุ่นคือการใช้ชีวิตไปตามใจฝัน สนุกสุดเหวี่ยง เรื่องเงินก็เช่นกันใช่ไหมล่ะ อยากได้อะไรก็ซื้อ ยังไม่มีภาระอะไรต้องจัดการ กลายเป็นติดนิสัยฟุ่มเฟือยนั้นมาจนถึงวัยทำงาน กว่าจะรู้ตัวและปรับเปลี่ยนการใช้จ่ายก็เกือบจะสายไปเสียแล้ว พูดก็พูดว่า ภาระ(หนี้)มา ปัญญาก็เกิดทันใด

5.เมาปลิ้น 

ในบางมุมเราก็ใช้ชีวิตเปลื๊องเปลือง เรียนเสร็จ ทำงานเสร็จเป็นอันต้องปาร์ตี้ วันไหนไม่ได้สังสรรค์นี่ร่างกายเหมือนจะขาดรสชาติ เอาเถอะค่ะ ไลฟ์สไตล์คนเราย่อมไม่เหมือนกัน แต่ครั้นจะเมาแอ๋ทุกคืนก็ดูจะทำลายสุขภาพไปหน่อยนึงนะ เผลอ ๆ บางคนอาจจะเมาจนเดือดร้อนเพื่อนอยู่เรื่อย ๆ อีก แบบนี้อาจไม่ดีเท่าไหร่นะ ยิ่งถ้าถามว่าหมดเงินไปกับเรื่องปาร์ตี้เท่าไหร่ล่ะก็ อาจจะไม่อยากนับนิ้วเลยก็ได้ ขนลุกไปหมด! โตขึ้นก็เพลา ๆ ลงไปเยอะ เพื่อสุขภาพที่ดีอะเนอะ

6.ไม่เชื่อฟังพ่อแม่ 

เรื่องแสนละเอียดอ่อนนี้อาจใช้ไม่ได้กับทุกบ้าน แต่เชื่อว่าส่วนมากแล้วการเชื่อฟังพ่อแม่จะนำพามาซึ่งความสบายใจระดับหนึ่งได้ แน่นอนว่าวัยรุ่นก็ต้องมีวันที่ดื้อกันบ้าง ทะเลาะกับที่บ้านบ้าง เข้าใจผิดกันบ้าง วัยกำลังโตอะนะ ไม่แปลกเลยค่ะ แต่เรื่องบางเรื่องพ่อแม่พร่ำสอน แล้วรู้สึกว่าเมกเซนส์ เข้าใจได้ ก็เอาไปใช้บ้างเถิดไม่เสียหายหรอก ดีกว่าโตมาแล้วนั่งเสียใจว่า ทำไมตอนนั้นไม่เชื่อฟังพ่อแม่หนอ หรือถ้าเชื่อพ่อแม่ก็คงได้ดีไปแล้ว อย่างที่บอกล่ะค่ะ รู้อะไรไม่สู้ รู้งี้!

7.ตามเพื่อนจนไม่เป็นตัวเอง 

สังคมเพื่อนเป็นเรื่องใหญ่มากของวัยสะรุ่นเลยจริง ๆ ทำยังไงก็ได้ให้เพื่อนคบ ทำยังไงก็ได้ให้เพื่อนยอมรับ หลายคนจึงอาจสูญเสียความเป็นตัวเองไปโดยไม่รู้ตัวเพราะมัวแต่ตามเพื่อน เติบโตมากับความรู้สึกแปลกแยกในตัวเอง กว่าจะค้นพบตัวตนก็ช้าไปมาก แต่อย่าเพิ่งเสียกำลังใจ หากวันนี้เรารู้ตัวว่าชอบอะไร แม้จะไม่เข้ากับเพื่อนได้ทั้งหมด แต่ก็จำเป็นต้องโฟกัสที่ตัวเองบ้างแล้วล่ะค่ะ จะได้ไม่เสียดายทีหลังอีกน้า ชอบอะไรก็ทำโลด!

8.สนใจแต่เรื่องเรียน 

เรียนคือสำคัญ มีหลาย ๆ คนมุ่งมั่นตั้งใจเรียนอย่างมากจนประสบความสำเร็จ แต่บางครั้งโตขึ้นมากลับรู้สึกบางอย่างขาดหายไป ความรู้สึกนั้นคือการได้ลองทำอะไรที่นอกเหนือจากร่ำเรียนไปบ้าง โดยเฉพาะกิจกรรมต่าง ๆ ที่เพื่อนวัยเดียวกันเขาทำกัน เช่น ลองทำงานพาร์ทไทม์, ไปแลกเปลี่ยนต่างประเทศ, เข้าชุมนุม, ทำค่ายอาสา ฯลฯ ก็ต้องยอมรับเช่นกันว่ากิจกรรมนอกห้องเรียนเหล่านั้นช่วยสร้างประสบการณ์ชีวิตที่แตกต่างในเราได้ไม่แพ้การเรียน หรือจะเรียกว่าการเรียนรู้นอกตำราก็ว่าได้จ้า

9.ทำผิดกฎระเบียบ

ก้าวที่พลาดของแต่ละคนอาจแตกต่างกัน แต่ที่เหมือนกันแน่นอนคือ ทำสิ่งผิดระเบียบ หรือหนักกว่านั้นคือผิดกฎหมาย พลาดอย่างมีบทเรียน หากในอดีตคุณอาจเคยทำเรื่องไม่ดีไว้จนกลายเป็นคดีความติดตัว ไม่เป็นไร ตราบใดที่วันนี้พร้อมเปลี่ยนแปลงตนเอง เรียนรู้ชีวิตทางใหม่ ขอให้ตั้งใจใช้มันอย่างดีที่สุด ไม่ก้าวกลับไปเส้นทางมืดดำแบบเดิม อย่ามัวแต่ทดท้อ คนเราเปลี่ยนแปลงได้เสมอนะคะ ขอแค่ไม่ทำผิดซ้ำเดิมก็พอแล้ว

10.ใช้ชีวิตไปวัน ๆ 

การไม่วางแผนชีวิตเผื่ออนาคตอาจจะทำให้ชีวิตเรายากกว่าคนอื่นก็ได้นะคะ เข้าใจว่าวิถีของแต่ละคนย่อมต่างกัน การแพลนเป้าหมายก็ย่อมต่างไปด้วย ในช่วงวัยรุ่น การใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่าไม่ใช่เรื่องเสียหายเลย กิน-เที่ยว-เรียน เป็นปกติสามัญกันมาก แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งอาจจะต้องเริ่มวาดเส้นทางอนาคตไว้บ้างแล้ว เช่น บางคนร่างโครงสร้างไว้ว่าอายุเท่านี้จะเริ่มเก็บเงิน, อายุเท่านี้จะเริ่มปักหลักกับงานประจำ, บางคนอยากมีธุรกิจส่วนตัว แล้วแต่แบล็กกราวน์ความสะดวกสบายของชีวิต การมีแผนบาง ๆ ย่อมดีกว่าการใช้ชีวิตไปเรื่อยเปื่อยอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว เชื่อสิว่า วางแผนดี มีชัยไปกว่าครึ่ง

อ่านแล้วอย่าเพิ่งเครียดไปนะคะ ชีวิตคนเราไม่เหมือนกัน เรื่องบางเรื่องอาจเกิดขึ้นแล้วดีกับเราก็ได้ ไม่มีอะไรตายตัวทั้งนั้น ขอยืนยันคำเดิมว่า เราสามารถดีไซน์ชีวิตแบบใหม่ได้ทุกวัน ไม่มีคำว่าสายสำหรับการเริ่มต้นอีกครั้ง เก็บทุกอย่างมาเป็นบทเรียนค่ะ สู้ตาย! 

.