โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ท่องเที่ยว

เส้นทางนั่งรถไฟทั่วโลก ชวนดูวิวภูเขาน้อยใหญ่และธรรมชาติเขียวๆ | Gogetlost

Gogetlost

เผยแพร่ 11 ก.ค. 2564 เวลา 23.06 น. • Gogetlost

**Ticket to Scenic Train Journeys

ชวนมานั่งรถไฟดูวิวภูเขาน้อยใหญ่และธรรมชาติเขียวๆ**

เคยมีคนพูดว่า “การเดินทางท่องเที่ยวสนุกตั้งแต่เตรียมการเดินทางแล้ว”
แน่นอนว่าการเดินทางแต่ละแบบมีเสน่ห์แตกต่างกันออกไป ถ้าเดินทางด้วยเครื่องบินก็แปปเดียวถึง ถ้า Road Trip ก็สะดวกสบายดี อยากแวะไหนก็แวะ ส่วนการเที่ยวด้วยรถไฟ ถึงแม้จะช้าหน่อย แต่ระหว่างทางเราจะได้เห็นวิถีชีวิตผู้คนสองข้างทาง นั่งริมหน้าต่างมองวิวธรรมชาติไปเรื่อยๆ ได้อิ่มท้องกับอาหารขึ้นชื่อของแต่ละสถานี หรือถ้ายิ่งกว่านั้นคืออาจจะได้เพื่อนใหม่ระหว่างเดินทางอีกด้วย : )

ช่วงนี้ถ้าจะเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศก็ยังต้องรอกันไปอีกหน่อย ยิ่งทำให้คิดถึงการนั่งรถไฟเที่ยวต่างประเทศมากๆ คิดถึงบรรยากาศตลอดสองข้างทางที่รถไฟวิ่งผ่านวิวต้นไม้ วิวภูเขา บ้านเมือง และชีวิตผู้คน จนอดไม่ได้ที่จะขอรวบรวมสายรถไฟที่ขับผ่านวิวธรรมชาติสวยๆ มาฝากทุกคนกัน
ไว้ถ้าได้ไปเที่ยวต่างประเทศได้อีกครั้งเมื่อไร เราอยากชวนทุกคนให้ลองนั่งรถไฟเที่ยวที่ต่างประเทศกันดูสักครั้ง รับรองว่าต้องติดใจแน่นอนเพราะตั้งแต่ต้นทาง จนถึงจุดปลายทางเหมือนได้เที่ยวอยู่ตลอดเวลา ได้ใช้เวลาช้าๆ ปล่อยตัว ปล่อยใจกับวิวสองข้างทาง แค่นี้ก็ถือว่าได้ชุบชูใจมากๆ แล้ว

ฉึกฉักๆ
จะมีทางรถไฟสายไหนบ้าง ตามมาดูกันเลย

•  Kandy to Ella Railway, Sri Lanka

ทางรถไฟที่วิ่งผ่านหุบเขาที่เป็นแหล่งปลูกชาชั้นยอดของประเทศศรีลังกา

รถไฟสีฟ้าสดใสที่เห็นกันนี้ถูกเรียกว่า “รถไฟสายชา” เพราะวิ่งผ่านแหล่งปลูกชาชั้นยอดของประเทศศรีลังกานั่นเอง โดยทางรถไฟสายนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 1864 แรกเริ่มสร้างไว้สำหรับใช้ขนส่งเมล็ดกาแฟ แต่ภายหลังธุรกิจกาแฟไปไม่รอด จึงเปลี่ยนจากไร่กาแฟมาเป็นไร่ชาแทนจนกลายเป็นแหล่งปลูกชาที่ดังไปทั่วโลก ทางรถไฟสายนี้จึงใช้ขนชาตั้งแต่นั้นมา

เรียกว่าเป็นทางรถไฟอีกสายที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเลยก็ว่าได้ เริ่มตั้งแต่เมืองแคนดี (Kandy) สู่เมืองเอลลา (Ella) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 ชั่วโมง ระหว่างทางจะผ่านไร่ชาบนเนินเขา ผ่านหมู่บ้านที่จะได้เห็นความเป็นชนบทแบบศรีลังกา ผ่านหุบเขา สะพานข้ามแม่น้ำ ป่าเขียวขจี ป่าสน มีหมอกปกคลุมเป็นบางช่วง และถ้าไต่ระดับสูงขึ้นไปอีกเรื่อยๆ ระหว่างทางเราก็จะได้ชมความน่ารักของดอกกุหลาบพันปีกันด้วย

ทางรถไฟสายนี้ดังมากๆ ในศรีลังกาจนนักท่องเที่ยวหลายคนยกให้เป็น The World’s Most Beautiful Train Trip กันเลย ถ้าใครมีโอกาสไปเที่ยวศรีลังกา ลองออกไปสำรวจด้วยการนั่งนถไฟสายนี้กันดูนะ รับรองว่าได้เห็นความเป็นศรีลังกาแบบเต็มอิ่มแน่นอน

 

•  Jungfrau Railway, Switzerland

ทุ่งหญ้าสีเขียว น้องวัว ภูเขา และรถไฟสีแดง นี่แหละสวิตเซอร์แลนด์

ว่ากันว่าถ้าจะให้ครบความเป็นสวิตเซอร์แลนด์ต้องได้เดินเขา ถ่ายรูปน้องวัว และได้นั่งรถไฟสีแดง วันนี้เลยอยากแนะนำ Jungfrau Railway สายรถไฟที่จะพาทุกคนขับผ่านวิวสวยพีคๆ ของสวิตเซอร์แลนด์

เริ่มต้นการเดินทางจากสถานีอินเตอร์ลาเคน ออส (Interlaken Ost) มุ่งหน้าสู่เส้นทางรถไฟซึ่งมีปลายทางคือสถานียุงเฟรายอค (Jungfraujoch) สถานีรถไฟที่สูงที่สุดในทวีปยุโรป ความสูง 3,454 เมตรจากระดับน้ำทะเล เมื่อมาถึงแล้วทุกคนก็จะได้พบกับยอดเขายุงเฟรา ยอดเขาที่โด่งดังที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ที่มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปีนั่นเอง

ส่วนถ้าใครอยากแวะระหว่างทางก่อนถึงยุงเฟรา เราขอแนะนำสถานี Eigergletscher จุดนี้สามารถมาการเดิน Trek เส้นทาง Eiger Trail ได้ ซึ่งมีรถไฟ ภูเขา ทุ่งหญ้า และน้องวัว เป็นฉากหลังของการเดินเขา เส้นทางนี้ถ้าใครกำลังมองหาวิวสวยๆ เดินชิวสบายๆ ในวันหยุดพักผ่อนที่สวิส
ขอบอกว่าเหมาะแก่การไปปล่อยตัวปล่อยใจ ไปสูดออกซิเจนให้เต็มปอดเป็นที่สุด 

ถ้าใครอยากชมวิวสวิสแบบสวยพีคแน่นอน Jungfrau Railway ถือว่าตอบโจทย์มากๆ เรียกว่าสวยตั้งแต่ต้นสถานียันปลายทางเลยทีเดียว

 

•  Alishan Forest Railway, Taiwan

รถไฟที่จะพาคุณชมความหลากหลายของป่าในไต้หวัน

ถ้าพูดถึงรถไฟสายโรแมนติก ชมวิวธรรมชาติสวยๆ หลายคนคงนึกถึงที่ญี่ปุ่น หรือทางรถไฟทรานส์ – ไซบีเรียใช่ไหม แต่ขอบอกว่าที่ไต้หวันก็มีรถไฟที่สวยๆ มากๆ เหมือนกันอยู่นั่นก็คือ Alishan Forest Railway นั่นเอง

โดยทางรถไฟสายอาลีซานนี้ เริ่มตั้งแต่นครเจียอี้ (สถานีรถไฟเจียอี้) – จนสิ้นสุดที่สถานีรถไฟอาลีซาน โดยรถไฟขบวนนี้ค่อยๆ ไต่ระดับความสูงขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ 30 เมตรจากระดับน้ำทะเล จนถึงเฟิ่นชีหู ที่สูงความสูง 1,403 เมตรจากระดับน้ำทะเล ซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขา สถานี Alishan เป็นสถานีปลายทางสุดท้ายของรถไฟสายภูเขาสายนี้ ถ้าใครจะไปป่าสนอาลีซานก็ต้องต่อรถบัสไปอีกหน่อย

ด้วยความที่รถไฟสายนี้วิ่งไต่ระดับความสูงขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างทางเราเลยจะได้เห็นป่าไม้ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ตั้งแต่ป่าเขตร้อนไปจนถึงป่าดิบชื่นในเขตอบอุ่นใครที่ชอบนั่งรถไฟชมสิ่งเขียวๆ นี่ไม่ควรพลาดเลย

 

 

•Tadami Line, Japan

เส้นทางรถไฟที่ขึ้นชื่อว่าสวยและโรแมนติกที่สุดของประเทศญี่ปุ่น

ถ้าใครมีโอกาสมาเที่ยวประเทศญี่ปุ่น เราอยากให้ลองนั่งรถไฟเที่ยว ชมวิวกันดูสักครั้ง นอกจากตารางเวลาสุดเป๊ะแล้ว ความสวยก็พีคไม่แพ้กันเลย
ภาพรถไฟที่วิ่งผ่านสะพานข้ามแม่น้ำ รอบข้างรายล้อมไปด้วยหิมะขาวโพลนทำให้เราอยากหยิบเจ้า Tadami Line มาเล่าให้ทุกคนฟัง โดยรถไฟสายนี้เปิดบริการตั้งแต่ ค.ศ. 1942 ระยะทางประมาณ 135.2 กิโลเมตร เป็นรถไฟขบวนท้องถิ่น (Local Train) เชื่อมการเดินทางระหว่างสถานีไอซุ-วะกะมัทสึ (Aizu-Wakamatsu Station) เมืองไอซุวะกะมัทสึ (Aizu-Wakamatsu) จังหวัดฟุคุชิมะ (Fukushima) กับสถานีโคะอิเดะ (Koide Station) เมืองอุโอะนุมะ (Uonuma) จังหวัดนีงะตะ (Niigata)

ตลอดทางที่รถไฟสายนี้วิ่งผ่านจะรายล้อมไปด้วยภูเขาสูงและทะเลสาบกว้างใหญ่ มาเที่ยวได้ทุกฤดูเลย ความสวยจะแตกต่างกันออกไปตามแต่ฤดูกาล เช่น ถ้ามาฤดูหนาวตลอดทางก็จะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ ถ้ามาฤดูใบไม้ผลิก็จะได้เห็นดอกซากุระและทุ่งดอกคะตะคุริบานสะพรั่ง ถ้ามาฤดูใบไม้ร่วงก็จะพบกับต้นไม้สีเหลือง สีส้มตลอดทาง ถ้ามีฤดูร้อนก็ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่สวยนะ เพราะตลอดแนวเทือกก็เขียวชอุ่ม ชุ่มฉ่ำอยู่ตลอด

ใครมาเส้นทางรถไฟสายนี้แวะเที่ยวได้หลายจุดเลย มีครบหมดทั้งปราสาท วัด ออนเซ็น น้ำตก หรือถ้าไม่แวะเที่ยวอยากชมวิวไปเรื่อยๆ เราก็ว่าคุ้มมากที่จะเอ็นจอยไปกับวิวสองข้างทางไปเรื่อยๆ

ยังไงเที่ยวญี่ปุ่นครั้งหน้าลองเก็บ Tadami Line ไว้เป็นไอเดียกันดูน้า

 

• Trans–Siberian Railway

ข้ามผ่าน 2 ทวีปด้วยเส้นทางรถไฟสายที่ยาวที่สุดในโลก Trans-Siberian Railway

มันก็จะมีอยู่ที่ๆ นึง ที่ได้ยินแล้วใจเต้นแรง ที่ๆ ถึงจะต้องเก็บเงินวนไปแต่ก็ต้องไปให้ได้ซักครั้งในชีวิต
ของคนอื่นเป็นไงไม่รู้ แต่ของเราคือเส้นทางรถไฟสายทรานส์ไซบีเรีย! เป็นอีกทริปที่สุดแสนจะประทับใจของเรา 

Trans–Siberian Railway เป็นสายรถไฟที่ยาวที่สุดในโลก จุดเริ่มต้นของเส้นทางสายนี้คือสถานีรถไฟยาโรสลาฟ ( (Yaroslavsky Rail Terminal) ไปสิ้นสุดที่สถานชานชาลาของสถานีรถไฟวลาดิวาสต็อก (Vladivostok Grand Station) เป็นรถไฟสายที่วิ่งจากทวีปยุโรปผ่านทวีปเอเชียและมาสิ้นสุดที่มหาสมุทรแปซิฟิก ใช้เวลา 149 ชั่วโมง รวมระยะทางทั้งสิ้น 9,288 กิโลเมตร ถือว่าทางรถไฟสายนี้เท่ากับหนึ่งในสี่ของเส้นรอบวงโลกเลย !!

หนึ่งในโมเมนต์ที่เราชอบที่สุดตอนนั่งรถไฟสายนี้คือ ตอนที่รถไฟวิ่งผ่านทะเลสาบซีนสวยตอนพระอาทิตย์กำลังตกดิน ผู้คนต่างออกจากห้องของตัวเองมายืนดูวิวกันอย่างไม่ได้นัดหมาย ทุกคนหลายพ่อพันธุ์แม่จากทั่วทุกมุมโลกกำลังยืนอยู่ที่ระเบียงรถไฟเดียวกัน เพียงแค่ว่าอยากจะมาเห็นวิวนี้ซักครั้งในชีวิต วินาทีนั้นมันคือเมจิเคิลมากกก

เป็นสายรถไฟที่สุดยอดจริงๆ นะ อยากให้ทุกคนได้ลองนั่งรถไฟสายนี้กันดูสักครั้งในชีวิต ถ้ายังไงลองดูทริปของเราเป็นไอเดียกันก่อนก็ได้ อ่านรีวิวเต็มๆ ได้ใน https://gogetlost.co/mongolia/ เลย 

 

 

• Bernina Express, Switzerland – Italy

เส้นทางรถไฟที่เก่าแก่ที่สวยที่สุดในยุโรป

ถ้านั่ง Jungfrau Railway แล้วยังไม่เต็มอิ่มกับวิวของสวิตเซอร์แลนด์ เราอยากแนะนำ Bernina Express อีกสาย รับรองว่าวิวที่รถสายนี้วิ่งผ่านก็สวยไม่แพ้กันเลย
Bernina Express วิ่งจากเมือง Chur ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ไปสิ้นสุดที่เมือง Tirano ประเทศอิตาลี ตลอดระยะทาง 144 กิโลเมตรจะได้เห็นวิวธรรมชาติแบบ 360 องศากันเลย ทั้งวิวเทือกเขาแอลป์อันโด่งดัง น้ำตก ทะเลสาบ นอกจากนั้นยังเป็นเส้นทางรถไฟที่ลอดผ่านอุโมงค์ถึง 55 แห่ง สะพานอีก 196 สะพานอีกด้วย
ถ้ามาในช่วงฤดูร้อนสองข้างทางก็จะเต็มไปด้วยต้นไม้เขียวๆ หรือถ้ามาช่วงฤดูหนาวสองข้างทางก็จะปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลนสวยและโรแมนติกไปอีกแบบเหมือนกัน จนหลายคนบอกว่าสวยเหมือนกำลังอยู่ในเมืองเทพนิยายยังไงอย่างนั้นเลย
สวยขนาดที่ว่า เป็น 1 ใน 3 เส้นทางรถไฟที่ UNESCO ยกให้เป็นเส้นทางสายมรดกโลกเลย เราเองถ้ามีโอกาสไปสวิตเซอร์แลนด์ก็อยากลองนั่งรถไฟขบวนนี้มากๆ วิวคงสวยแบบลืมหู ลืมตาไปเลย

 

•  Jacobite West Highland line, Scotland

รถไฟหัวจักรไอน้ำที่จะทำให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์แบบพ่อมด แม่มดในแฮร์รี่ พอตเตอร์

หลายคนน่าจะคุ้นหน้า คุ้นตากับรถไฟสายนี้กันมาบ้างแล้ว เพราะเป็นสายรถไฟที่ใช้ถ่ายทำฉาก Hogwarts Express ฉากสำคัญในภาพยนตร์เรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์

เส้นทางรถไฟสายนี้คือ West Highland Railway Line ในประเทศสก็อตแลนด์ เป็นเส้นทางที่มีรถไฟหัวจักรไอน้ำใช้ถ่านหินในการขับเคลื่อน เปิดให้บริการมาตั้งแต่ค.ศ. 1901 จนถึงปัจจุบัน

โดยรถไฟขบวนนี้จะวิ่งให้บริการจากเมือง Fort William ไปยังเมือง Mallaig เป็นระยะทางกว่า 41 ไมล์ โดยผ่านสถานที่สวยงามสำคัญๆได้แก่ Loch Eil, Arisaig และ Glenfinnan Viaduct สะพานที่ปรากฎในฉากที่แฮร์รี่และรอนขับรถเหาะได้เพื่อตามขวบนรถไฟให้ทันนั่นเอง
อยากลองไปสัมผัสประสบการณ์การนั่งรถไฟแบบเหล่าพ่อมด แม่มดแบบในหนัง ลองเข้าไปดูรายละเอียดกันก่อนได้ใน https://westcoastrailways.co.uk/ ใครสนใจก็จดไว้เป็นไอเดียสำหรับทริปต่อไปได้เลย

 

•  Flåmsbana Railway, Norway

เส้นทางรถไฟที่สวยที่สุดของประเทศนอร์เวย์และติด 1 ใน 10 ทางรถไฟที่สวยที่สุดในยุโรป

ถ้าพูดถึงประเทศนอร์เวย์หลายคนคงนึกถึงทัวร์ Norway in a nutshell เส้นทางอันโด่งดังระหว่างเมือง Oslo – Bergen โดยเริ่มต้นขึ้นรถไฟที่ Oslo Central Station ตลอดทางที่รถไฟวิ่งผ่านจะผ่านวิวสวยๆ มากมายทั้งหุบเขา ทะเลสาบ ฟาร์ม และบ้านเล็กๆ น่ารักๆ อยู่ตลอด จาก Oslo ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมงก็จะมาถึงเมือง Myrdal เป็นจุดสำหรับเปลี่ยนมาขึ้นรถไฟสาย Flåm Railway

Flåmsbana Railway เส้นทางรถไฟพิเศษที่ดัดแปลงมาจากรถไฟเก่า ติด 1 ใน 10 ทางรถไฟที่สวยที่สุดในยุโรปเลย โดยทางที่รถไฟสายนี้วิ่งผ่าน จะได้ชมทัศนียภาพที่สวยงามของนอร์เวย์ ลอดอุโมงค์ประมาณ 20 อุโมงค์ และวิ่งผ่านหมู่บ้าน Flåm หมู่บ้านที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของนอร์เวย์เลยทีเดียว นอกจากนั้นยังแวะจอดให้ชมชมน้ำตก Kjosfossen Waterfall ระหว่างทางอีกด้วย

นอกจากจะนั่งเรือชมฟยอร์ดแล้ว สิ่งที่ควรทำอีกอย่างเมื่อมานอร์เวย์ คือการนั่งรถไฟชมวิวสองข้างทางนี่แหละ รับรองว่าได้เห็นวิวนอร์เวย์แบบ landscape กว้างไกลสุดลูกหู ลูกตาแน่นอน ❖

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0

ความเห็น 4

  • Yolrambha
    อยากไปคะ ให้โควิดหยุดระบาดก่อนนะ
    12 ก.ค. 2564 เวลา 11.09 น.
  • ฉิกครับ รับซื้อรถ
    สวิตช์น่าเที่ยว สุดๆ ผมเห็นด้วยกับรถไฟ
    12 ก.ค. 2564 เวลา 11.03 น.
  • TT
    แล้วหันมาดูรถไฟแห่งกะลาแลนด์ ความภูมิใจสุดยิ่งใหญ่ของรถไฟแห่งแดนกะลาคือ "รถไฟไทย เกิดขึ้นก่อนญี่ปุ่นถึง 50 ปี" 🐢🐢🐢
    12 ก.ค. 2564 เวลา 02.51 น.
  • WAIWIT WANNARAT
    ได้แค่เห็นก็ ฟินน แล้ว
    12 ก.ค. 2564 เวลา 02.32 น.
ดูทั้งหมด