โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

16 สุดยอดข่าวเด่นในรอบปี 2562

LINE TODAY

เผยแพร่ 31 ธ.ค. 2562 เวลา 08.09 น.

ต้องยอมรับว่าปีนี้เป็นปีที่เต็มไปด้วยข่าวสารน่าตื่นเต้นมากมาย เรียกได้ว่าร้อนระอุตั้งแต่ต้นปีเลยทีเดียว ที่เด่น ๆ ก็ต้องยกให้เรื่องการเมือง ซึ่งมีประเด็นแสบร้อนให้ติดตามกันไปทั้งปี ส่วนข่าวอื่น ๆ ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน LINE TODAY รวบรวม 16 ข่าวเด็ดที่สุดของปี 2562 ไว้ให้คุณแล้ว อ่านที่เดียวครบ จบ รู้เรื่อง!

การเลือกตั้งที่คนไทยรอคอย 

หลังอยู่ภายใต้ คสช. มาหลายปี ในที่สุดประเทศไทยก็ได้เลือกตั้งเสียที แน่นอนว่าตัวเต็งคงหนีไม่พ้น 'พรรคประชาธิปัตย์' และ 'พรรคเพื่อไทย' เพียงแต่ปีนี้มีพรรคม้ามืดอย่าง 'พรรคอนาคตใหม่' และพรรคใหม่แต่หน้าเดิมอย่าง 'พรรคพลังประชารัฐ' มาร่วมลงแข่งในเกมการเมืองครั้งนี้ด้วย โดยเลือกตั้ง 62 ครั้งนี้บังเกิดดราม่าตั้งแต่เริ่มเปิดตัวแคนดิเดตเก้าอี้นายกฯ ทั้งการปิดตัวของ 'พรรคไทยรักษาชาติ' และการลงท้าชิงตำแหน่งอีกครั้งของลุงตู่ ตลอดจนช่วงวันลงคะแนนเสียงที่มีบัตรเสียมากเป็นประวัติการณ์ รวมถึงช่วงสรุปคะแนนที่แม้ 'พรรคฝ่ายประชาธิปไตย' หรือ 6 พรรคที่จับมือตั้งรัฐบาลมีคะแนนมหาชนรวมกัน 15.97 ล้านเสียง แต่ถูก พปชร. อ้างความชอบธรรมในการรวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาล เนื่องจากมีคะแนนป๊อปปูลาร์โหวตสูงกว่า

และหลังจาก กกต. ใช้เวลาในการคำนวณคะแนนไปมากกว่า 1 เดือน บวกกับ 'กลไกพิเศษ' ในระบบเลือกนายกฯ ช่วง 5 ปีแรกหลังรัฐธรรมนูญปี 2560 ประกาศใช้ นั่นคือให้ ส.ว.แต่งตั้งฯ มีส่วนร่วมในการร่วมโหวตนายกฯ ด้วย ในที่สุด พปชร. ที่นำโดยลุงตู่ก็คว้าชัยชนะไปได้อย่างไม่พลิกโผ

คดีสุดหดหู่ของพริตตี้สาว 'ลัลลาเบล'

ย้อนไปวันที่ 17 ก.ย. 62 'ลัลลาเบล' หรือ น.ส.ธิติมา นรพันธ์พิพัฒน์ อายุ 25 ปี ถูกพบเป็นศพที่โซฟาล็อบบี้คอนโดแห่งหนึ่งย่านราชพฤกษ์ ลัลลาเบลมีอาชีพเป็นพริตตี้ และเพิ่งรับงานเอนเตอร์เทนที่บ้านหลังหนึ่งใน จ.นนทบุรี หลังจากเมาไม่ได้สติ 'น้ำอุ่น' หรือ นายรัชเดช วงศ์ทะบุตร พริตตี้บอยในงานจึงพากลับคอนโดของตน โดยรับสารภาพว่าเป็นคนพาลัลลาเบลมาที่ล็อบบี้ แต่ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ด้วย หลังจากนั้นมีการตรวจพิสูจน์ว่าลัลลาเบลเสียชีวิตจากหัวใจล้มเหลว มีแอลกอฮอล์ในเลือดสูง จึงมีการจับกุมน้ำอุ่นใน 3 ข้อหา รวมถึงกระทำอนาจารและกักขังหน่วงเหนี่ยวผู้อื่น

ในงานศพของลัลลาเบล ก็มีสมาชิกแก๊งปาร์ตี้บ้านบางบัวทองเข้ามอบเงินช่วยเหลือแก่ครอบครัว แต่แม่ของลัลลาเบลปฏิเสธไม่รับ ล่าสุดวันที่ 18 ธ.ค. ศาลอาญาธนบุรีนัดสอบคำให้การจำเลยน้ำอุ่น โดยมีคำสั่งให้ประกันตัวได้ แต่คดีลัลลาเบลก็ยังไม่จบ คงต้องลุ้นกันข้ามปีว่าสุดท้ายแล้วความยุติธรรมจะอยู่ข้างใคร

ปารีณาและฟาร์มไก่เจ้าปัญหา

เป็นบุคคลที่มีกระแสข่าวให้ติดตามไม่เว้นแต่ละวัน สำหรับ ‘ปารีณา ไกรคุปต์’ ส.ส.คนดังแห่งราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ที่กลับมาโด่งดังในประเด็นเรื่องที่ดินฟาร์มไก่รุกล้ำพื้นที่ป่าสงวน เรื่องเริ่มต้นขึ้นเมื่อ 13 พ.ย. 62 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ฟ้องให้ป.ป.ช. ตรวจสอบที่ดิน 1,706 ไร่ของน.ส.ปารีณาว่าครอบครองถูกต้องหรือไม่ (ซึ่งภายหลังปารีณาบอกว่า ที่ดินจริง ๆ มีเพียง 700 ไร่ แต่แจ้งผิดไป 1,000 ไร่) หลังจากนั้นกรมป่าไม้ได้เข้าตรวจสอบฟาร์มไก่ ‘เขาสน’ พบว่าบุกรุกป่า 46 ไร่ แต่ปารีณายืนยันว่าตนเองครอบครองถูกต้องตามกฎหมาย กรมป่าไม้จึงเข้ารังวัดเป็นครั้งที่ 2 ก็ยังพบว่าฟาร์มไก่รุกล้ำที่ป่าสงวนจริง จึงแจ้งความเอาผิดปารีณา 4 ข้อหา ตามพ.ร.บ.ป่าไม้ หากนับโทษจริง ๆ ตามกฎหมายแล้วทั้งหมดมีโทษสูงสุดถึงจำคุก 20 ปีและปรับ 2 ล้านบาท ซึ่งเรื่องนี้อยู่ในระหว่างกระบวนการพิจารณาคดีของศาล

แต่เรื่องราวยังไม่จบ เมื่อทางส.ป.ก. (สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม) พบว่าน.ส.ปารีณา ไม่เข้าข่ายเป็นเกษตรกร จึงไม่มีสิทธิ์ถือครองที่ดินส่วนนี้ จึงยื่นคำขาดให้คืนที่ดินจำนวน 682 ไร่ภายใน 7 วัน แล้วจะไม่ถูกดำเนินคดี ซึ่งผลก็คือทางปารีณายอมคืนแต่โดยดี เป็นอันจบเรื่อง ซึ่งจุดนี้เองที่ทำให้สังคมกังขาว่า แค่คืนก็จบเลยแค่นี้หรือ?

ด่วน! จับสมคิด ฆาตรกรต่อเนื่องได้แล้ว บนรถไฟสถานีปากช่อง #สมคิดเดอะริปเปอร์ #สมคิด #สมคิดพุ่มพวง #ฆาตรกรต่อเนื่อง pic.twitter.com/nuXbesYpjT

— kendo_reporter (@kendo_reporter) December 18, 2019

อวสานฆาตกรต่อเนื่อง 'สมคิด เดอะริปเปอร์'

คดีฆาตกรรมต่อเนื่องเมื่อปี 2548 กลับมามีภาคต่ออีกครั้งเมื่อ สมคิด พุ่มพวง ฆาตกรที่ได้รับสมญานามว่า "สมคิด เดอะ ริปเปอร์" ได้พ้นโทษออกจากคุกและก่อเหตุอีกครั้ง

ย้อนกลับไปเมื่อ 14 ปีที่แล้ว เกิดคดีฆาตกรรมติดต่อกัน 5 ครั้งโดยเหยื่อทั้งหมดเป็นผู้หญิง ประกอบอาชีพเป็นหมอนวดหรือไม่ก็เป็นนักร้องคาเฟ่ และลักษณะการเสียชีวิตคือถูกบีบคอหรือไม่ก็กดน้ำ หลักฐานจากการสอบสวนทั้งหมดนำไปสู่การจับกุมนายสมคิด​ ซึ่งในตอนนั้นศาลตัดสินประหารชีวิต แต่อยู่ในคุกเพียงแค่ 14 ปี เขาก็ได้รับการลดโทษและปล่อยตัวออกมาเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2562

เขาออกมาก่อคดีอีกครั้งในวันที่ 15 ธันวาคม ที่ขอนแก่น โดยเหยื่อครั้งนี้เป็นแม่บ้านโรงแรม สมคิดหลบหนีคดีโดยมีคนแจ้งเบาะแสว่าเขาปลอมตัวเป็นพระ จนในวันที่ 18 ธันวาคม มีพลเมืองดีแจ้งเบาะแสอีกครั้งว่าพบสมคิดในรถไฟไปปากช่อง ทำให้เขาถูกรวบตัวในทันทีที่สถานีรถไฟ

ดูโพสต์นี้บน Instagram

เปิดนาทีบุกรวบตัว #แม่มณี คาห้องเช่าสัตหีบ หิ้วตัวเท้าแชร์ลวงโลก บินกลับไปดำเนินคดีที่ จ.อุดรฯ #แม่มณี #ร้านทองแม่มณี #แชร์แม่มณี กดติดตาม @Thairath #ไทยรัฐ #Thairath

โพสต์ที่แชร์โดย Thairath (@thairath) เมื่อ พ.ย. 2, 2019 เวลา 3:18am PDT

แชร์แม่มณี

คดีฉ้อโกงระดับมหากาพย์นี้เริ่มต้นขึ้นในวันที่ 27 ตุลาคม 2562 เมื่อผู้เสียหายจากแชร์เงินออมแม่มณี 35 คนเข้าแจ้งความที่โรงพักอุดรธานี เอาผิดกับนางสาว วันทนีย์ ทิพย์ประเวช แม่ค้าขายตุ๊กตาออนไลน์และเน็ตไอดอลที่รู้จักกันในนามของ “แม่มณี” โทษฐานหลอกเงินค่าแชร์ อ้างจ่ายผลตอบแทนสูงร้อยละ 93% แต่หนีหาย รวมมูลค่าเสียหายเบื้องต้นมากกว่า 100 ล้านบาท 

อีกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเวลาพร้อม ๆ กันคือมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งไลฟ์ทำร้ายร่างกายตัวเอง เพราะเครียดที่นำเงินไปลงทุนกับ มะนาว อดีตเจ้าสาวคนดังแล้วแต่ไม่ได้ปันผลตามที่สัญญาไว้ ขู่จบชีวิตตัวเองหากแม่ข่ายไม่คืนเงินให้ ซึ่งมะนาวก็ได้โพสต์ในเฟซบุคส่วนตัว ชี้แจงว่าตนไม่ได้มีเจตนาเบี้ยวค่าแชร์แต่ไม่สามารถติดต่อแม่มณีได้ 

มีผู้เสียหายทยอยเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและดีเอสไอ ศาลอาญารวบรวมหลักฐานและอนุมัติหมายจับ มีการค้นตรวจร้านทองของแม่มณีแต่ปรากฏว่าเป็นทองปลอมทั้งร้าน และในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2562 เจ้าหน้าที่ตำรวจในอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ได้รับเบาะแสและดำเนินการบุกจับกุมแม่มณีพร้อมแฟนหนุ่มที่ห้องเช่าและยึดทรัพย์ 

เป้าหมายการจับกุมขยายไปที่แม่ของแม่มณี ลูกสมุน และแม่ข่ายอีกหลายราย ซึ่งเมื่อตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของผู้ต้องหาทุกคน พบเงินหมุนเวียนรวมมากกว่า 100 ล้านบาท ปัจจุบันคดีอยู่ใต้การสอบสวนของดีเอสไอ มียอดผู้เสียหายรวม 798 คน มูลค่าความเสียหายมากกว่า 369 ล้านบาท ส่วนที่ได้ทำการยึดทรัพย์สินมาแล้ว รวมมูลค่าได้ 130,790,843 บาท ถือเป็นการปิดคดีฉ้อโกงแห่งชาติอีกหนึ่งครั้ง

ประท้วงฮ่องกง

การประท้วงที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของเกาะฮ่องกงเริ่มต้นในวันที่ 31 มีนาคม 2562 หลังจากที่สำนักงานความมั่นคงของฮ่องกงพร้อมด้วยรัฐบาลของนางแคร์รี่ หล่ำ เสนอแก้ไขร่างกฎหมายการส่งผู้ร้ายข้ามแดนไปยังประเทศอื่นรวมถึงประเทศจีน สาเหตุนี้ทำให้คนลุกฮือประท้วงบนถนนครั้งแรก เพราะผู้ประท้วงคิดว่าเป็นข้อตกลงที่เปิดช่องให้รัฐบาลจีนใช้อำนาจในการจัดการกับกลุ่มเคลื่อนไหวประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนในดินแดนของตนอย่างอยุติธรรม

ผู้ประท้วงนัดชุมนุมกันอย่างต่อเนื่องโดยใช้เสื้อดำและหน้ากากสีดำเป็นสัญลักษณ์แห่งอุดมการณ์ เหตุการณ์การประท้วงยกระดับขึ้นเรื่อย ๆ จากบนถนนเป็นการบุกอาคารสำนักงานของรัฐ รุนแรงขึ้นถึงการเผาธนาคาร ปิดสนามบิน และก่อจลาจล มีการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยแก๊สน้ำตาและกระสุนยางไปจนถึงการใช้กระสุนจริง ทำให้มีจำนวนผู้บาดเจ็บหลายรายและเสียชีวิตทั้งหมด 2 ราย

ถึงแม้ว่านางแคร์รี่ หล่ำ จะประกาศถอนร่างพ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดนแล้วตั้งแต่วันที่ 4 กันยายน ที่ผ่านมา แต่ข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุมที่เพิ่มเติมเข้ามาคือการให้รัฐบาลลาออกรวมไปถึงการเรียกร้องสิทธิอุยกูร์ด้วย

อนาคตใหม่และ 2 คดีความใหญ่

พรรคการเมืองน้องใหม่ที่ถึงแม้จะเพิ่งจัดตั้งขึ้นมาได้เกือบ 2 ปีเท่านั้น แต่ถูกเพ่งเล็งเป็นอย่างมากในเวทีการเมืองด้วยอุดมการณ์และจุดยืนที่ชัดเจนและแตกต่าง จากเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับพรรคอนาคตใหม่ทั้งหมด เราขอหยิบเอา 2 คดีความเด่น ๆ มาเขียนถึงในบทความนี้ ซึ่งทั้งหมดจะนำไปสู่การชี้ชะตาของพรรคว่าจะได้ไปต่อหรือไม่

คดีหุ้นวีลัค - คดีความที่ทำให้ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หมดสภาพความเป็นส.ส. เริ่มต้นจากการเปิดโปงโดยสำนักข่าวอิศราในวันที่ 22 มีนาคม 2562 ที่ระบุว่าธนาธรและภรรยาโอนหุ้นในบริษัทวี-ลัค มีเดียให้กับแม่ของธนาธรก่อนเลือกตั้งเพียงแค่ 3 วันซึ่งเข้าข่ายผิดรัฐธรรมนูญ 

ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เร่งให้มีการตรวจสอบคุณสมบัติการเป็นผู้สมัครส.ส.ของธนาธร แต่ธนาธรยืนยันว่าเขาได้ทำการโอนหุ้นสื่อไปตั้งแต่เดือนมกราคม 2561และบริษัทก็ปิดกิจการไปตั้งแต่ปลายปีนั้นแล้ว 

กกต.ตั้งคณะกรรมการเพื่อสอบสวนเรื่องนี้โดยเจอหลักฐานที่ขัดแย้งกับคำแถลงของธนาธร และส่งคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้รับพิจารณาคดีต่อ ศาลมีคำสั่งให้ธนาธรยุติการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว 2 วันก่อนการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันแรก เลยเป็นที่มาของประโยคเด็ดที่ว่า “สักวันหนึ่ง ผมจะกลับมา” เมื่อธนาธรถูกเชิญออกจากห้องประชุมกลางคัน

หลังจากการนัดไต่สวนหลายครั้ง ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยสุดท้ายของคดีนี้ ตัดสินให้สถานภาพส.ส.ของธนาธรเป็นที่สิ้นสุดตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน เป็นต้นไป เนื่องจากไม่มีหลักฐานว่าบริษัทวี-ลัค มีเดีย จดแจ้งยกเลิกการพิมพ์ก่อนวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2562 ซึ่งเป็นวันส่งรายชื่อผู้สมัครส.ส.

คดีเงินกู้ 191 ล้าน - อีกหนึ่งคดีที่เล็งศรไปยังนายธนาธร หัวหน้าพรรคอีกครั้งคือประเด็นเงินกู้จำนวน 191 ล้านที่ธนาธรปล่อยกู้ให้กับอนาคตใหม่ช่วงเลือกตั้งเพื่อใช้ในการหาเสียงและทำกิจกรรมต่าง ๆ นายศรีสุวรรณ (เจ้าเก่า) ยกเรื่องนี้ขึ้นมาต่อกกต. ร้องให้มีการตรวจสอบสัญญากู้ยืมเงินระหว่างนายธนาธรกับพรรคว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ โดยอ้างอิงถึงมาตรา 72 ที่ว่าพรรคการเมืองสามารถหาเงินได้ด้วย 7 วิธีโดยใน 7 วิธีนั้นไม่รวม “การกู้ยืมเงิน” เอาไว้

ด้านนายธนาธรและนายปิยบุตร เลขาธิการพรรค ออกมาแถลงยืนยันว่าตนเองได้ทำการตรวจสอบกฎหมายเลือกตั้งอย่างดีและมั่นใจว่าไม่ได้ทำผิดกติกา ส่วนด้านกกต.ก็ดำเนินการส่งคำร้องไปศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยเรื่องนี้ต่อไป

'มาเรียม' พะยูนน้อยขวัญใจคนรักทะเล 

เป็นข่าวที่ช่วยกระตุ้นสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมให้คนไทยได้ระลอกใหญ่ ไทม์ไลน์ความรักของคนไทยและน้องมาเรียมเริ่มในเดือน เม.ย. 62 เจ้าหน้าที่และชาวบ้านพบมาเรียมเกยตื้นที่อ่าวทึง จ.กระบี่ แม้จะช่วยกันผลักดัน แต่มาเรียมในวัย 6 เดือนไม่ยอมออกทะเล กลับว่ายวนมาที่จุดเดิมจนเจ้าหน้าตัดสินใจหาบ้านใหม่ให้มาเรียมที่ตรัง และดูแลพะยูนวัยยังไม่หย่านมตัวนี้อย่างใกล้ชิด แต่เมื่อมาเรียมพร้อมออกทะเลอีกครั้ง คราวนี้กลับถูกพะยูนโตเต็มไวคุกคาม จนหนีเตลิดกลับอ่าวและมีอาการเครียดจัด 

สุขภาพของน้องมาเรียมทรุดลงหลังจากนั้น คืออ่อนเพลีย ไม่กิน ไม่ว่ายน้ำ แม้จะมีอาการดีขึ้นเป็นระยะ แต่น้องมาเรียมก็จากพวกเราไปในวันที่ 17 ส.ค. 62 และเมื่อผ่าชันสูตรยังพบเศษพลาสติกในท้องมาเรียม นำมาซึ่งความหดหู่และโศกเศร้าให้คนไทยที่เป็นกำลังใจให้น้องมาตลอดหลายเดือน

'พลเอกเปรม' ถึงแก่อสัญกรรม

26 พฤษภาคม 2562 คือวันแห่งการสูญเสียบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ไทยอีกครั้ง กับข่าวการถึงแก่อสัญกรรมด้วยภาวะหัวใจล้มเหลวของ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ในวัย 98 ปี 

พิธีสวดพระอภิธรรมศพถูกจัดขึ้นที่วัดเบญจมบพิตรเป็นเวลา 7 คืนโดยมีเจ้าหน้าที่กรมวัง เจ้าหน้าที่กองงานพระราชพิธี สำนักพระราชวัง และเจ้าหน้าที่สำนักงานราชเลขาธิการมาตกแต่งสถานที่ให้สมเกียรติยศ ภายหลังได้มีกำหนดพิธีพระราชทานเพลิงศพในวันที่ 8 ธันวาคม 2562 ณ วัดเทพศิรินทราวาส โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี โปรดเกล้าฯ เสด็จพระราชดำเนินในการพระราชทานเพลิงศพด้วยพระองค์เอง

ท่ามกลางความโศกเศร้า ประชาชนรวมไปถึงภาครัฐทั่วประเทศได้พร้อมใจกันทำความดีเพื่อเป็นกุศลและไว้อาลัยให้กับการจากไปของพลเอกเปรม รวมถึงยึดเอาความดีและคำสอนที่ว่า “เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน” ของปูชนียบุคคลผู้นี้ในการดำเนินชีวิต ส่วนเรื่องการจัดการมรดก พลเอกพิศณุ พุทธวงศ์ หัวหน้าสำนักงานมูลนิธรัฐบุรุษ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ กล่าวว่าได้ทำการประสานไปหานายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว เพื่อจัดทำโครงการช่วยเหลือคนจนและการเกษตรตามปณิธานของพลเอกเปรม

แบน 3 สารพิษ

การต่อสู้ทางกฎหมายที่ยาวนานในการแบน 3 สารพิษที่ใช้ในการเกษตรอย่าง พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพรีฟอส เริ่มต้นขึ้นในปีนี้จากการเคลื่อนไหวของ มนัญญา ไทยเศรษฐ์ สมาชิกพรรคภูมิใจไทย หลังเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมีเป้าหมายคือการปรับสารทั้ง 3 ชนิดจากวัตถุอันตรายประเภทที่ 3 ให้กลายเป็นประเภทที่ 4 ซึ่งมีผลบังคับใช้คือห้ามผลิต นำเข้า ส่งออก และครอบครอง

ประเด็นนี้จุดข้อพิพาทระหว่าง 2 ฝ่าย โดยฝ่ายสนับสนุนยกหัวข้อเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพของเกษตรกรและผู้บริโภคขึ้นมาเพื่อผลักดันการผ่านมติ มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กลุ่มแพทย์ รวมไปถึงเครือข่ายสนับสนุนการแบนสารพิษกว่า 686 องค์กรที่เป็นผู้เคลื่อนไหวหลัก ส่วนฝั่งคัดค้านยกเหตุผลด้านเศรษฐกิจมาโต้กลับ เนื่องจากการแบนสารพิษจะนำไปสู่ผลกระทบด้านจำนวนการผลิต ราคาต้นทุนในการทำเกษตร รวมไปถึงภาคแรงงานด้วย

อย่างไรก็ตาม ข้อสรุปจากคณะกรรมการวัตถุอันตรายในวันที่ 29 ตุลาคม 2562 ออกมาว่ามีมติจากที่ประชุมเห็นชอบให้ปรับ 3 สารพิษเป็นวัตถุอันตรายประเภทที่ 4 อย่างเป็นเอกฉันท์ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2562 และมอบหมายให้กรมวิชาการเกษตรดำเนินการต่อ แต่เรื่องราวกลับพลิกผันในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2562 ที่กรมวิชาการเกษตรประกาศให้เลื่อนการแบนสารพิษ จากวันที่ 1 ธันวาคมตามมติเดิมไปอีก 6 เดือน เพื่อให้เวลากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดการบริหารสารที่คงเหลืออยู่ในประเทศ รวมถึงการเตรียมแผนรองรับให้กับเกษตรกร 

เรื่องนี้สร้างความไม่พอใจให้กับนางสาวมนัญญาและผู้สนับสนุนเป็นอย่างมาก มีการพาดพิงไปถึง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ในฐานะประธานคณะกรรมการวัตถุอันตรายว่าเป็นคนชี้จูงการกลับมติล่าสุด ทำให้เกิดการรอยร้าวในรัฐบาลและการฟ้องร้องระหว่างทั้ง 2 ฝั่ง คงจะต้องรอดูสถานการณ์และข้อสรุปอีกทีหลังจากวันที่ 1 มิถุนายน 2563 ว่าสุดท้ายแล้วเป้าหมายการแบนสารพิษนี้จะสำเร็จลุล่วงหรือไม่

มหากาพย์ลิขสิทธิ์กระทง 

มหากาพย์ลิขสิทธิ์กระทงกลายเป็นดรามาร้อนแรงของปีนี้เลยทีเดียว เมื่อมีบุคคลปริศนาอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่เก็บค่าลิขสิทธิ์หลอกสั่งซื้อกระทงรูปการ์ตูนจากเด็กหญิงวัย 15 ปีผ่านทางเฟซบุ๊ก แต่เมื่อนำกระทงไปส่งกลับถูกควบคุมตัวไปที่สถานีตำรวจ และเรียกร้องให้จ่ายเงิน ‘ค่าลิขสิทธิ์’ กว่า 50,000 บาท แต่เนื่องจากครอบครัวเด็กหญิงไม่มีจ่ายจึงแลกกับการติดคุกแทน แม้ว่าสุดท้ายยอมจ่ายไป 5,000 บาทเพื่อขอจบคดี เมื่อมีภาพปรากฏในโลกอินเตอร์เนตก็กลายเป็นที่วิจารณ์กันยกใหญ่ จนบริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์การ์ตูนดังกล่าวออกมาประกาศว่า กระทงดังกล่าวไม่ได้ละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด และไม่มีนโยบายเรียกเก็บค่าลิขสิทธิ์ด้วย พอกลายเป็นข่าวดังหลายฝ่ายก็เข้าช่วยเหลือครอบครัวเด็กหญิงดังกล่าว พร้อมแนะให้ฟ้องกลับผู้แอบอ้างล่อซื้อทั้งทางแพ่งและอาญา หลังจากนั้นก็มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความเอาผิดอีกกว่า 50 ราย ตำรวจจึงออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด 3 คนในข้อหากรรโชกทรัพย์ และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ฝุ่น PM 2.5 ภัยร้ายคุกคามสุขภาพคนไทย 

ความอันตรายของ PM 2.5 (Particulate Matter 2.5) คือเจ้าฝุ่นจิ๋วนี้มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน หรือมีขนาดเล็กกว่าเส้นผม 20 เท่า แปลว่าขนจมูกจะไม่สามารถกรอง PM 2.5 เวลาเราหายใจได้ ปีที่ผ่านมาคนไทยต้องพกหน้ากาก N95 เป็นอวัยวะที่ 33 เพราะวันที่ฝุ่นมีค่าเข้มข้น (เกิน 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) จะส่งผลกระทบต่อคนที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับทางเดินหายใจ และสามารถทำลายสุขภาพในระยะยาว 

ยิ่งเลวร้ายไปอีกเมื่อกรุงเทพฯ กลายเป็นจุดสะสม PM 2.5 ด้วยภูมิประเทศแบบแอ่งกระทะ แถมเต็มไปด้วยตึกสูง ควันรถ และสิ่งก่อสร้าง จึงไม่แปลกที่กรุงเทพฯ จะเป็นอีก 1 เมืองที่ติดอันดับเมืองอากาศแย่ที่สุดในปี 2562 และอาจจะครองตำแหน่งนี้ต่อไปอีกพักใหญ่ 

เช็กค่าฝุ่นได้ที่ : https://lin.ee/sDQnpqm 

'ชิมช้อปใช้' รวมมิตรมาตรการแจกแหลกปี 62 

แจกให้สุด แล้วหยุดที่ประชานิยม! ปีนี้รัฐบาลลุงตู่ใจป้ำ ผุดมาตรการแจกแหลกเอาใจคนไทยทุกหย่อมหญ้า เริ่มจากนโยบาย 'ชิมช้อปใช้' ที่ฮ็อตฮิตจนต้องมีเฟส 2 ช่วยกระตุ้นยอดใช้จ่ายในช่วงเศรษฐกิจไม่ดีไปได้กว่า 20,000 ล้านบาท ต่อกันด้วย 'บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ' ที่แจกดุกว่าอีกเพราะแจกให้ผู้มีรายได้น้อยทุกเดือน โดยแจกทั้งค่าสินค้าจำเป็น ค่าไฟ ค่าเดินทางและอีกสารพัดค่า

ยังไม่หมด เพราะรัฐบาลยังมีนโยบาย 'บ้านดีมีดาวน์' ที่รัฐจะช่วยออกเงินดาวน์บ้านให้แก่ผู้ซื้อที่อยู่อาศัย เพื่อแก้ปัญหาบ้านสร้างใหม่ที่ตกค้าง นอกจากนี้ยังมี 'ธอส. แจกเงิน' ที่เป็นการจ่ายเงินคืน 1,000 บาทให้ลูกค้าที่เหลือวงเงินกู้ไม่เกิน 1 ล้านบาท และ 'แจกค่าเกี่ยวข้าว' ที่เกษตรกรจะได้เงินค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวไร่ละ 500 บาท งานนี้เรียกว่าได้กันถ้วนหน้า ทั้งเงิน ทั้งคะแนนนิยม

คลายคดี 'บิลลี่ พอละจี'

กว่า 5 ปีที่ ‘บิลลี่-พอละจี รักจงเจริญ’ นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนชาวกะเหรี่ยงแห่งบ้านบางกลอยหายตัวไป หลังถูกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานควบคุมตัวไว้ เพราะเกิดความขัดแย้งระหว่างถูกเจ้าหน้าที่เผาไล่ที่อยู่อาศัย แต่ภายหลังได้รับการปล่อยตัว จากนั้นก็ไม่มีใครพบเห็นเขาอีกเลยตั้งแต่เดือนเมษายน 2557 ทางครอบครัว โดยเฉพาะ ‘มีนอ’ ภรรยาพยายามตามหาบิลลี่ และยื่นหนังสือร้องเรียนต่อหน่วยงานราชการให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของเจ้าหน้าที่อุทยาน ซึ่งในขณะนั้นมี ‘ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร’ อดีตหัวหน้าอุทยานฯ เป็นผู้นำ รวมถึงพยายามที่จะให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) รับไว้เป็นคดีพิเศษ จนกระทั่งปี 2561 ดีเอสไอจึงรับเรื่องไว้และสืบสวน ทำให้การทำงานของดีเอสไอถูกสังคมจับตามองอย่างมากว่าจะสามารถคลี่คลายคดีนี้ได้หรือไม่ 

จนเมื่อเดือนพฤษภาคมตรวจพบชิ้นส่วนกระดูกมนุษย์ในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พร้อมด้วยถังน้ำมันขนาดใหญ่และเหล็กเส้น ที่สันนิษฐานว่าอาจจะเป็น ‘เครื่องมือสังหาร’ บิลลี่ จนกระทั่งผลดีเอ็นเอออกมาตรงกับบิลลี่จริง ๆ จึงทราบว่าบิลลี่เสียชีวิตลงแล้ว นั่นจึงนำไปสู่การออกหมายจับ ‘ชัยวัฒน์’ และพวกอีก 3 คน ในข้อหาฆาตกรรม และอื่น ๆ รวมทั้งหมด 6 ข้อหา ซึ่งทั้งหมดได้เข้ามอบตัว แต่ปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แต่อย่างใด  

#ข่าวใหญ่ สะเทือนแผ่นดิน

โลกโซเชียลร้อนระอุเมื่อนักข่าวสายทหารคนหนึ่งโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า 'เตรียมรอฟัง #ข่าวใหญ่ ในเร็ว ๆ นี้' ประกอบกับเป็นช่วงเวลาที่ข่าวสารบ้านเมืองมีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก จึงทำเอาชาวเน็ตคาดเดากันไปต่าง ๆ นานาว่า #ข่าวใหญ่ ที่ว่านั้นคือข่าวอะไร แต่ไม่นานเธอก็ได้ลบโพสต์ไป และออกมาชี้แจงสาเหตุที่ลบว่า เนื่องจากมีการคาดเดากันไปมากมาย และนำไปโยงกับการเมือง พรรคนี้พรรคนั้น ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่ได้เกี่ยวข้องแต่อย่างใด และสุดท้ายได้แต่บอกว่าให้รอฟังตามสื่อกันเอาเองดีกว่า 

ซึ่งหลังจากนั้นก็เกิดการวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของเธอว่า ไม่ควรสร้างกระแสให้ผู้คนตื่นตระหนกเแบบนี้อีก เพราะในที่สุดทุกคนก็รับรู้ข้อเท็จจริงจาก #ข่าวใหญ่ ข่าวนั้นพร้อมกันอยู่ดี

โศกนาฏกรรมมาตุฆาต ลูกฆ่าหั่นศพแม่

คดีใหญ่ที่สะเทือนใจสังคมปลายปีนี้ต้องยกให้กับคดีที่ลูกชายฆ่าหั่นศพแม่ยัดใส่ตู้เย็น เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 25 พ.ย. ที่ผ่านมานี่เอง เมื่อมีหญิงคนหนึ่งแจ้งความต่อตำรวจว่า พบชิ้นส่วนมนุษย์ถูกฆาตกรรมอำพรางไว้ในตู้เย็นของบ้านหลังหนึ่ง เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงก็ตรวจสอบพบว่า เป็นศพของเจ้าของบ้านผู้หญิงวัย 42 ปี โดยผู้ต้องสงสัยเป็นลูกชายแท้ ๆ ซึ่งได้ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองเสียชีวิตในเวลาต่อมา กลายเป็นกระแสในสังคมออนไลน์เมื่อนักสืบไซเบอร์ทั้งหลายเกิดความคลางแคลงใจว่าคนทำอาจไม่ใช่ลูกชาย โดยตั้งข้อสังเกตกันไปต่าง ๆ นานา แต่สุดท้ายตำรวจก็ใช้หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์มายืนยัน พร้อมกล้องวงจรปิดว่าวันเกิดเหตุ ไม่มีบุคคลที่สามอยู่ในบ้านกับผู้เสียชีวิตอย่างแน่นอน แต่สำหรับสาเหตุที่แท้จริงของโศกนาฏกรรมครั้งนี้ยังไม่มีคำตอบแต่อย่างใด 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0