นิวเดลี, 1 เม.ย. (ซินหัว) -- เมื่อวันพุธ (1 เม.ย.) กระทรวงสาธารณสุขของอินเดีย แถลงว่ายอดผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ที่พุ่งขึ้นอย่างฉับพลันในเดลี เป็นผลมาจากการรวมตัวกันของประชาชนชาวมุสลิมหลายพันคนที่ร่วมกิจกรรมทางศาสนาในมัสยิดแห่งหนึ่งทางตอนใต้
ลาฟ อการ์วาล (Lav Agarwal) เลขาธิการร่วมประจำกระทรวงฯ กล่าวว่าเมื่อเทียบกับวันอังคาร (31 มี.ค.) อินเดียมียอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้น สาเหตุหลักคือการที่ประชาชนผู้เข้าร่วมกิจกรรมข้างต้น ณ อาคารทาบลิกี ชามาอัต มาร์กัซ (Tablighi Jamaat Markaz) ของมัสยิดนิซามุดดิน (Nizamuddin) ทางตอนใต้ของเดลี เดินทางไปยังหลายภูมิภาคของประเทศ
"การเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันของจำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 ครั้งนี้ยังไม่ถือเป็นแนวโน้มระดับชาติ" อการ์วาลกล่าว
ทั้งนี้ เมื่อวันพุธ (1 เม.ย.) อินเดียรายงานยอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้นเป็น 1,637 ราย พุ่งขึ้นจาก 1,397 ราย ในวันอังคาร (31 มี.ค.)
ขณะเดียวกันแถลงการณ์จากรัฐบาลอินเดียระบุว่ารัฐต่างๆ มีความว่องไวในการ "ติดตามตัวผู้ติดต่อใกล้ชิดกับผู้ร่วมงานทาบลิกี ชามาอัต" ทั้งยังถูกร้องขอให้ดำเนินขั้นตอนติดตามบุคคลกลุ่มนั้นให้แล้วเสร็จด้วยความพร้อมรับมือสถานการณ์ต่อไป
"ผลการติดตามพบว่าชาวต่างชาติจำนวนหนึ่งที่เข้าร่วมงานทาบลิกี ชามาอัตได้ละเมิดเงื่อนไขวีซ่า รัฐต่างๆ จึงถูกร้องขอให้ดำเนินการเอาผิดกับชาวต่างชาติและผู้จัดงาน” ถ้อยแถลงระบุ
สื่อท้องถิ่นรายงานว่าจนถึงขณะนี้ มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่สืบสาวแล้วพบว่าเกี่ยวข้องกับงานทาบลิกี ชามาอัตในเดลี มากกว่า 134 รายทั่วประเทศ ด้านสำนักงานตำรวจได้เตรียมเอกสารรายงานเหตุ (FIR) เพื่อฟ้องร้องคณะผู้จัดงานดังกล่าวด้วย
เมื่อวันพุธ (1 เม.ย.) สัตเยนทระ เจน (Satyendra Jain) รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของเดลี กล่าวว่ามีประชาชนมากถึง 2,355 คน ถูกนำตัวออกจากสถานที่จัดงาน และในจำนวนนี้ได้รับการรักษาตัวในโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วกรุงนิวเดลี 450 คน ส่วนที่เหลือถูกส่งไปกักตัว โดย “ในจำนวนนี้ 24 คน มีผลทดสอบโรคโควิด-19 ออกมาเป็นบวก”
อนึ่ง หลังร่วมพิธีกรรมทางศาสนาประจำปีดังกล่าวในเดลี ประชาชนหลายคนได้เดินทางไปยังหลายภูมิภาคของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรัฐต่างๆ ทางตอนใต้ อาทิ รัฐเตลังคานา รัฐอานธรประเทศ รัฐเกรละ รัฐกรณาฏกะ และรัฐทมิฬนาฑู ทำให้พบยอดผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันในรัฐเหล่านี้