โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

อย่าใส่หน้ากากหัวใจตัวเอง - อั๋น ภูวนาท

TOP PICK TODAY

เผยแพร่ 22 มิ.ย. 2563 เวลา 01.18 น. • อั๋น ภูวนาท
ภาพโดย Kelly Sikkema / unsplash.com
ภาพโดย Kelly Sikkema / unsplash.com

เคยมีคนบอกผมว่ารอบๆตัวเรา ณ ขณะใดขณะหนึ่งนั้น มีโลกใบเล็ก ๆ หลาย ๆ ใบของหลายๆ คนทับซ้อนกันไปมาอยู่เสมอ 

ผมเพิ่งเข้าใจว่าคำกล่าวนั้นเป็นจริงยังไงชัด ๆ ช่วงโควิดนี้เอง ช่วงเวลาที่จะไปไหนมาไหน เราต่างก็ต้อง Respect Distancing เคารพในระยะปลอดภัยของทุกคนตลอดเวลา 

ล่าสุดผมยืนรอลิฟต์อยู่ที่ห้างแห่งหนึ่ง เลยตัดสินดึงหน้ากากลงมากองไว้ที่ใต้คางแล้วดูดชามะนาวจากแก้วในมือที่ตั้งใจจะถือไปดื่มบนรถ ทันทีที่ลิฟต์เปิด ผมก็ก้าวขาเข้า ในขณะเดียวกันนั้น คนในลิฟต์กลุ่มหนึ่งกลับก้าวขาถอยหลบผมอย่างทันใด ผมรู้สึกได้ทันทีว่ามีสายตาหลายคู่ที่มองหน้าผมพร้อมส่งพลังผลักไสแกมตำหนิอย่างไม่ถึงกับหยาบคายแต่ออกแนวกังวลใจ จนกระทั่งผมนึกขึ้นได้จึงรีบดึงหน้ากากอนามัยกลับมาใส่เช่นเดิม แล้วทุกอย่างก็กลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติต่อไป

หน้ากากผ้าบาง ๆ ชิ้นเล็ก ๆ ชิ้นเดียวนี้ต้องมหัศจรรย์ขนาดไหน ถึงสามารถแบ่งโลกของแต่ละคนในลิฟต์ออกจากกันได้ขนาดนั้น

จริง ๆ แล้ว แม้ไม่ต้องเบียดกันขนาดในลิฟต์หรอก เอาแค่ตอนนี้ที่ผมกำลังรถติดอยู่กลาง 4 แยกอโศกอันแสนจะวุ่นวายพร้อมแดดเที่ยงเปรี้ยง ๆ ที่แผดเผาหนังหน้าอยู่นี้ ก็มีโลกหลายใบที่ทับซ้อนกันอยู่เช่นกัน

โลกใบหนึ่งแอร์เย็นฉ่ำ เสียงเพลงบัลลาร์ดบรรเลงผ่านเครื่องเสียงชั้นดี เบาะหนังแท้ที่โอบกระชับพอดีตัว กลิ่นน้ำหอมปรับอากาศชื่นใจที่ติดรถไว้โชยมาอย่างอบอวล

ส่วนโลกอีกใบ ร้อนระอุเต็มไปด้วยฝุ่นควัน ไอเสีย และเสียงหนวกหูแข่งกันคำรามก้องกังวาน อยู่ท่ามกลางตึกระฟ้าและสถานีรถไฟฟ้าที่ยิ่งทำให้ท้องถนนกลายเป็นเตาอบขนาดใหญ่

โลก 2 ใบที่ซ้อนกัน โดยมีแค่กระจกใสแผ่นบาง ๆ ของรถยนต์ที่ผมกำลังขับกั้นกลางอยู่เราห่างกันแค่นิดเดียวจริง ๆ แต่ต่างกันมากมายเหลือเกิน

ผมกำลังขับรถมุ่งหน้าฝ่ารถติดไปหาเพื่อน ที่นัดไปรวมตัวกันไหว้เทพทั้ง 5 ที่หน้าถนนราชประสงค์ พระพิฆเนศ พระอินทร์ พระพรหมเอราวัณ พระตรีมูรติ และพระแม่ลักษมีเพื่อเป็นสิริมงคลวันเกิดให้กับเพื่อนสนิทคนหนึ่งในกลุ่ม

“อธิษฐานในสิ่งที่เราควรได้นะจ๊ะ ท่านคงไม่ให้อะไรในสิ่งที่คน ๆ นั้นไม่ควรได้รับหรอก และที่สำคัญคนอธิษฐานต้องคิดดี ทำดี และขอในสิ่งดี”  เพื่อนสายมูประจำกลุ่มแอบบอกเคล็ดลับน่าสนใจนี้กับพวกเราทุกคนซึ่งกำลังเตรียมอธิษฐานนั่งคุกเข่าประนมมือกันอยู่หน้าพระพรหมท่าน   

โดยไม่ได้ตั้งใจ ในหมู่ฝูงชนมากมายที่กำลังก้ม ๆ เงย ๆ ไหว้กันอยู่นั้น ผมกลับสังเกตเห็นใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยเอาซะเลยของลุงคนหนึ่งอายุประมาณเฉียด 50 ปี ที่ดูยังไงก็ไม่ใช่พวกเราแน่ ๆ และไม่รู้ว่าแอบมามั่วนิ่มแฝงตัวทำเนียนกลมกลืนอยู่ตรงนี้กับเราตั้งแต่เมื่อไหร่นั้นกำลังพยักหน้าตามไปพร้อมกับเราด้วย ซึ่งขออนุญาตพูดตรง ๆ เลยว่าดูยังไง ถามใครก็มั่นใจได้เลยว่าคงคิดเหมือนกันว่า “ขอทานแน่นอน” เพราะจากสภาพแล้วลุงคนนี้สวมเสื้อเปื่อย ๆ กับกางเกงขาดลุ่ยเนื้อตัวมอมแมมสกปรก กับผมที่เกรอะกรังไม่สวมรองเท้า ไม่มีกระเป๋า ไม่มีเครื่องประดับซักชิ้น หรือพูดง่าย ๆ คือ…..

ไม่มีอะไรเลย     

แต่สิ่งหนึ่งที่ลุงมีอย่างแน่นอน และไม่น้อยไปกว่าพวกเราทุกคนรวมทั้งผมด้วยนั่นคือ

“ความหวังกับคำอธิษฐาน”

และนั่นอาจเป็นสิ่งเชื่อมโยงเล็ก ๆ ที่ยิ่งใหญ่พอจะทำให้โลกของพวกเรากับโลกของลุงหมุนมาทับซ้อนจนเกือบจะเป็นใบเดียวกันอยู่ในตอนนี้

ผมอธิษฐานเสร็จแล้วจึงถอยออกมายืนมองย้อนกลับไป ดูแต่ละคนนั่งคุกเข่าหลับตาประนมไหว้ ขมุบขมิบปากกันไปมาอยู่นานสองนาน

“อธิษฐานอะไรกันน้า…” ผมนึกสงสัยผู้คนมากมายที่อยู่ตรงหน้าอย่างเสียไม่ได้ แล้วลุงคนนั้นที่นั่งอยู่ถัดไปล่ะ อยากรู้จังเค้าอธิษฐานอะไร และจะเคยมีซักอันไหมนะมันเป็นจริงขึ้นมา

หลังจากสำลักควันธูปจนคอแสบ น้ำตาไหลเหมือนซาบซึ้งและเข้าถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์จนหน้าแดงหูแดง ก็ได้เวลาเดินหน้าไปหาอะไรอร่อยๆทานกันที่ห้องอาหารของโรงแรมหรูที่อยู่ติดกันสักที

“ขอผมซัก 20 บาทเถอะครับ ขอซัก 20 บาทนะครับ ยังไม่ได้กินข้าวเลยตั้งแต่เมื่อวาน”

ผมหันกลับไปมองตามที่มาของเสียงดังกล่าวที่แว่วเข้ามาระหว่างกำลังก้มหน้าก้มตาเดินไปสู่ร้านอาหาร

ภาพลุงคนเดิมซึ่งดูอ่อนน้อมและอ่อนโยน ยืนยกมือไหว้ไปโค้งตัวไป ดูน่าเห็นใจเหลือเกิน พลางเปล่งเสียงเบา ๆ อย่างเกรงใจเป็นระยะ ๆ 

เหมือนมีแรงดึงดูดบางอย่างให้อยู่ดี ๆ ลุงคนนี้ก็หันมาสบตาผมและเดินมุ่งหน้ามาหาผมช้า ๆ พร้อมสายตาเปี่ยมความหวังซะแล้ว 

แต่ก่อนที่ลุงจะถึงตัวผม พนักงานโรงแรมก็เข้ามากัน แล้วพาผมเดินเข้าโรงแรมไป ผมแอบหันกลับมามองลุงคนนั้นอีกครั้ง บัดนี้เสียงร้องอ้อนวอนขอเงินเงียบหายไปแล้ว แต่ลุงยังคงยืนมือเปล่าอยู่ที่เดิมมองมาที่ผม

และในภาพสุดท้ายก่อนที่ลุงจะลับสายตา  ผมรู้สึกว่า ผมเห็นรอยยิ้มจากใบหน้าสิ้นหวังนั้น…

ประตูกระจกใสอัตโนมัติบานใหญ่เลื่อนเปิดต้อนรับเราเข้าสู่โลกใบใหม่ แสงไฟ โซฟาดอกไม้ แจกัน หรูหราดูตื่นใจ พร้อมอาหารละลานตาแบบเหลือกินเหลือใช้ ถูกจัดวางอย่างสวยงาม

แค่กระจกใส ๆ บานบาง ๆ ไม่ถึง 1 เซนติเมตรแค่นี้ แบ่งโลกที่แตกต่างออกจากกันได้ขนาดนี้เชียวเหรอ

หลังจากนั้นไม่นาน

ประตูกระจกใสอัตโนมัติบานใหญ่เลื่อนเปิดอีกครั้ง ผมตัดสินใจเดินกลับออกไป เพื่อตามหารอยยิ้มบนใบหน้าสิ้นหวังนั้น 

“ลุงครับ นี่ผมให้ครับ”

ผมยื่นเงิน 80 บาทให้กับลุงที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิมคนเดียว

ลุงไม่ยิ้มเลยซักนิดครับ แต่ยกมือไหว้แล้วร้องไห้ออกมาจนผมตกใจ แล้วหันกลับไปไหว้สาธุองค์พระพรหมอีกครั้ง   

“ขอบคุณคร้าบ ๆ ขอบคุณมาก ๆ นะหนูนะ”

ผมรีบเดินจากมาพร้อมกับคิดในใจว่า จริง ๆ แล้วรอยยิ้มของลุงไม่ได้หายไปไหนหรอก

มันแค่ย้ายที่มาอยู่ในหัวใจของผมแทนเท่านั้นเอง

บางทีอาจไม่ใช่ หน้ากากอนามัยที่เราใส่ หรือประตูกระจกบานใสบาง ๆ นี้หรอกที่แบ่งโลกที่แตกต่างออกจากกัน 

แต่เป็นหัวใจที่ไม่รู้จักแบ่งปันมากกว่า

--

ติดตามบทความใหม่ ๆ ของ อั๋น ภูวนาท ได้ทุกวันจันทร์ บน LINE TODAY

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0