“บิ๊กก้อง” แถลงคืบหน้าคดี “กำนันนก” ยัน ไม่ช่วยใคร ให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ไม่ใช้อารมณ์สอบสวน - ชี้ อาจไม่ทันใจ แต่รอข้อมูลสมบูรณ์ - ลั่น ถ้าตนช่วยถือว่าใช้ไม่ได้
เมื่อเวลา 16.40 น. วันที่ 18 ก.ย. 2566 ที่กองบังคับการปราบปราม พล.ต.ท. จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นำทีมแถลงคืบหน้าคดีกำนันนก จากกรณีที่ พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว และ พ.ต.ท.วศิน พันปี ถูกยิงเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บภายในบ้านของกำนันนก หลังมีการประชุมตั้งแต่เวลา 14.00 น. ที่ผ่านมา
พล.ต.ท. จิรภพ เผยว่า หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลางได้ร่วมทำการสืบสวนร่วมกับทีมงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตั้งแต่วันแรก จากการสืบสวนจนถึงปัจจุบันได้มีการวิสามัญ นายธนัญชัย หรือ หน่อง ท่าผา มือยิง พ.ต.ต.ศิวกร ส่วนนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก ได้มอบตัวและอยู่ระหว่างดำเนินคดีขณะนี้ จากการสืบสวนสอบสวนได้มีการซักถามปากคำจนทราบว่าใครทำอะไร อย่างไรในช่วงเวลาเกิดเหตุ สามารถตามหาเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดได้ ตามหาอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ และมีการจับกุมตัวตำรวจ 6 นาย ที่เชื่อว่าได้ให้การช่วยเหลือผู้ต้องหา และคนธรรมดาอีก 5 คน ในความผิดซ่อนเร้นอำพลาง จนถึงปัจจุบันได้รับโอนคดีจาก สถานีตำรวจภูธรเมืองนครปฐม จำนวน 2 คดี คือ คดีฆ่า และคดีเกี่ยวกับ ป.อาญา ม.157 และได้รับมอบหมายจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้สอบสวนกลางทำการสอบสวนต่อไป
เมื่อถามว่าทำไมคดีถึงถูกโอนมาที่สอบสวนกลาง พล.ต.ท. จิรภพ กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติ คดีเริ่มต้นจาก สภ.เมืองนครปฐม เป็นเรื่องเกี่ยวกับผู้มีอิทธิพลและเป็นการก่อเหตุที่อุกอาจ ซึ่งเป็นหน้างานของกองปราบอยู่แล้ว เพราะตำรวจท้องที่ต้องทำงานในพื้นที่ อาจจะยากลำบาก อาจถูกรบกวนจากอิทธิพลท้องถิ่น สอบสวนกลางจึงน่าจะโปร่งใสและชัดเจนที่สุดที่จะสอบสวนคดี ซึ่งที่ผ่านมาตำรวจสอบสวนกลางได้ร่วมสอบสวนกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และตำรวจภูธรภาค 7 มาโดยตลอด มีการถ่ายทอดเนื้อเรื่องกันอยู่ตลอด การนำคดีมาสืบต่อจึงจะเป็นการทำต่อจากที่มีการสอบสวนไว้แล้ว
เมื่อถามว่าเรื่องนี้มี ม.157 เข้ามาเกี่ยวข้อง นิยามของ บช.ก. เป็นอย่างไรกับกรณีนี้ พล.ต.ท.จิรภพ เผยว่า ทั้ง 6 คนที่ถูกออกหมายจับและดำเนินคดีอยู่ จากพยานหลักฐานพบว่ามีพฤติการณ์ช่วยเหลือ ซ่อนเร้น อำพลาง หรือช่วยผู้กระทำผิด ส่วนตำรวจที่เหลือเป็นเรื่องที่พิจารณาจนได้ข้อยุติว่าจะพิจารณา 2 ประเด็น คือ ข้อเท็จจริงว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในวันเกิดเหตุทั้งก่อน ขณะ และหลังเกิดเหตุ หากยังไม่ชัดเจนก็ตัดสินใจไม่ได้ ประเด็นที่ 2 คือ ข้อกฎหมาย 157 เป็นเรื่องที่ต้องถกกันพอสมควร ทั้งต่อตำรวจ ต่อศาล ว่าพฤติกรรมแค่ไหนถึงเรียกว่า 157 การที่บางคนพาคนเจ็บส่งโรงพยาบ บางคนโทร 191 บางคนไม่ทำอะไรเลย แบบไหนที่เรียกว่าเป็นความผิดตาม ม.157 จึงต้องหารือกับผู้เชี่ยวชาญทุกด้าน เรื่องค่อนข้างละเอียดอ่อน มีแนวทางหลายแนวทาง โดยทางสอบสวนกลางรับคดีความผิดตามมาตรา 157 ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา ส่วนเรื่องกล้องวงจรปิดได้ดูแล้ว โดยจะถอดรายละเอียด ซึ่งการสรุปว่าใครผิดหรือไม่ผิด ขอดูข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายก่อน ซึ่งจะเร่งให้เร็วที่สุด
เมื่อถามว่าจะมีการออกหมายจับเพิ่มหรือไม่ พล.ต.ท. จิรภพ กล่าวว่า เมื่อข้อเท็จจริงและกฎหมายยุตติ ก็จะพิจารณาว่าใครมีความผิดก็จะออกหมายจับตามนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณา
เมื่อถามถึงกรณีที่ ร.ต.อ.จตุรวิทย์ ขับรถตามไปนั้นเป็นการปิดจุดกลับรถให้กำนันนก หรือกลับบ้านทางเดียวกัน พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.5 บก.ป. กล่าวว่า เบื้องต้นการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า ร.ต.อ.จตุรวิทย์ ได้ตามกำนันนกไปที่บ้าน ซึ่งต้องตรวจสอบให้ละเอียดว่าในระหว่างนั้นได้แวะ หรือโทรศัพท์ติดต่อใครอีกหรือไม่
ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รรท.ผบก.ทล. กล่าวว่า จะไล่เลียงตำรวจทีละนายว่าทำอะไรตอนไหน ตามไทม์ไลน์ที่มีทั้งตำรวจอยู่ และวิ่งหนี ทำอะไรกันบ้าง ข้อเท็จจริงจะเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และชี้ชัดว่าจะดำเนินคดีกับใครบ้าง
สำหรับกรณี พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ หรือผู้กำกับเบิ้ม ก็อยากวิงวอนว่าคนเสียชีวิตไม่อาจมาแก้ตัวได้ว่าตัวเองผิดหรือไม่ผิด ตนได้เห็นกล้องและพูดคุยกับเจ้าหน้าที่หลายคนที่ช่วย มีความเชื่อว่า ผกก.เบิ้ม ไม่หนีไปไหน ตอนเกิดเหตุได้ไปช่วยประคอง พ.ต.ต.ศิวกร โดยประคองที่เท้า ก่อนจะมีลูกน้องเข้ามาสวมแทนแล้วพาไปส่งโรงพยาบาล ตนจึงขอความเป็นธรรมให้ ผกก.เบิ้ม ตนเข้าที่เกิดเหตุ พบพยานหลายคนที่อยู่ในวงเหล้า ซึ่ง ผกก.เบิ้ม เป็นคนที่ตนเห็นเลือดที่แขนกับเสื้อ ตนไม่ได้ช่วยเหลือแต่ว่ากันตามข้อเท็จจริง
"ผมไม่ใช่ไม่รีบ กำลังรีบทำให้เร็วที่สุด แต่ ณ วันนี้ข้อเท็จจริงกับข้อกฎหมายยังไม่นิ่ง อาจจะไม่ทันใจผู้ชม แต่ข้อให้ข้อมูลครบถ้วนสมบูรณ์ ยืนยันคดีนี้ไม่ช่วยใคร ไม่ว่าจะยศอะไร จะเป็นผู้มีอิทธิพลหรือใคร ไม่มีช่วยแน่นอน ยืนยันด้วยสิ่งที่ผมทำมา เพราะในอดีตตนก็ไม่เคยละเว้นใคร ถ้าตนช่วยก็ถือว่าตนเป็นคนที่ใช้ไม่ได้
ตนทำงานกับ พ.ต.ต.ศิวกร มาตั้งแต่ยศ ร.ต.ท. ทำงานมานาน อบรมสั่งสอนกันมา สว.ศิว เป็นคนดี มีฝีมือ ไม่ถือตัว ไม่กลัวใคร ไม่กลัวพวกมีอิทธิพล แต่ก็ไม่หาเรื่องใคร เป็นโชคร้ายที่ไม่มีใครอยากให้เกิด ตนก็เสียใจมาก ตนไม่สามารถช่วย สว.ศิว ได้ในวันเกิดเหตุ ตนจะไม่ยอมให้ใครมาวิ่งเต้นเกี่ยวกับคดีนี้ ยืนยันว่าหากใครผิดก็จะไม่มีใครมาขออะไรตนได้ แต่ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกคนด้วย ทำตามพยานหลักฐาน ไม่ใช้อารมณ์" พล.ต.ท.จิรภพ กล่าว
ความเห็น 2
banyath suwannakorn
ดูฟอร์มแล้วถ้าจะรอดูเยอะ ทั่นตำ....
18 ก.ย 2566 เวลา 23.12 น.
Lil’mannie.
เสี่ยสั่งปิดเกมแล้ว
18 ก.ย 2566 เวลา 18.17 น.
ดูทั้งหมด