มอร์แกน สแตนลีย์ เตือน หุ้นสหรัฐ เสี่ยงร่วง 5% วิตกผลกระทบจากภาษีทรัมป์-และการใช้จ่ายภาครัฐที่ลดลง หากเศรษฐกิจถดถอยอาจดิ่งกว่า 20%
วันที่ 10 มีนาคม 2568 สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ไมเคิล วิลสัน นักยุทธศาสตร์ของ Morgan Stanley ประเมินว่า "หุ้นสหรัฐ" เสี่ยงที่จะร่วงลงอีก 5% จากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อกำไรของบริษัทจากภาษีศุลกากรและการใช้จ่ายภาครัฐที่ลดลง
นักยุทธศาสตร์ของ Morgan Stanley ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่มีแนวโน้มขาลงต่อหุ้นสหรัฐ จนถึงกลางปี 2567 กล่าวว่าคาดว่าดัชนี S&P 500 จะแตะระดับต่ำสุดที่ประมาณ 5,500 จุดในช่วงครึ่งปีแรก ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้นมาที่ 6,500 จุดภายในสิ้นปี 2568
เป้าหมายสิ้นปีของนักยุทธศาสตร์ของ Morgan Stanley บ่งชี้ถึงการปรับตัวเพิ่มขึ้น 13% จากระดับปัจจุบัน แม้ว่าเส้นทางดังกล่าวมีแนวโน้มผันผวนเนื่องจากตลาดยังคงพิจารณาความเสี่ยงต่อการเติบโตเหล่านี้ ซึ่งอาจแย่ลงก่อนที่จะดีขึ้น
นักยุทธศาสตร์เตือนว่าดัชนี S&P 500 อาจลดลง 20% หากมีโอกาสเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย พร้อมระบุว่า“เรายังไม่ถึงจุดนั้น แต่สิ่งต่างๆ สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นการทราบถึงด้านลบในกรณีที่เศรษฐกิจตกต่ำจึงมีประโยชน์ในการจัดการความเสี่ยง”
หุ้นสหรัฐในปีนี้ยังคงตามหลังหุ้นต่างประเทศ หลังจากที่มีความกังวลเกี่ยวกับการประเมินมูลค่าหุ้นที่สูงเกินไป โดยเฉพาะหุ้นเทคโนโลยีที่เคยนำการพุ่งขึ้นของ S&P ในสองปีที่ผ่านมา ท่าทีที่เปลี่ยนแปลงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เกี่ยวกับภาษีศุลกากรก็ได้สร้างความสับสน ขณะที่การปรับลดการคาดการณ์กำไรของบริษัทในสหรัฐยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปี 2567
อ้างอิง : bloomberg.com