Intel ได้เผยรายละเอียดของ Sunny Cove สถาปัตยกรรมการออกแบบซีพียูรุ่นใหม่ ที่พัฒนาด้วยเทคโนโลยีระดับ 10 นาโนเมตร คาดว่าจะเปิดตัวในปี 2019 โดยได้วางแผนการพัฒนาให้ตัวซีพียูรองรับการทำงานขนาดใหญ่ได้ดีกว่าในปัจจุบัน อย่างเช่น การคำนวณผลของ AI, การถอดรหัส Crypto (ขุดเหมืองดิจิทัล), ประมวลผลพาหนะขับเคลื่อนอัตโนมัติ ฯลฯ
Sunny Cove มีการออกแบบตัวสถาปัตยกรรมการทำงานใหม่ทั้งหมด ทำให้มันมีประสิทธิภาพการทำงานที่สูงกว่าเทคโนโลยีปัจจุบันอย่าง Skylake แบบก้าวกระโดด พูดให้เข้าใจง่ายๆ คือ ทั้ง Skylake, Kaby Lake, Coffee Lake. Whiskey Lake แม้ว่าจะมีความเร็วของสัญญาณนาฬิกาไม่เท่ากัน และหลายสิ่งที่แตกต่างกัน แต่ตัวสถาปัตยกรรมหลักที่ใช้ทำงานยังคงเหมือนเดิม นั่นหมายความว่าค่าวัฏจักรคำสั่ง หรือที่เรียกว่า Instructions per cycle (IPC) ยังคงเท่าเดิม
Ronak Singhal ผู้อำนวยการของ Intel ได้เผยว่า "Sunny Cove มีค่า Latency ที่ต่ำ และมีความสามารถในการรับส่งข้อมูลที่สูงขึ้น ซึ่งมันจะทำให้ประสิทธิภาพในการใช้ทำงานดีกว่าเดิมเป็นอย่างมาก โดยมันเป็นซีพียูที่ Deeper (ลึกขึ้น), Wider (กว้างกว่า) และ Smarter (ชาญฉลาด) กว่าเดิม"
ความหมายของ Deeper คือ มันเพิ่มขนาด Cache ให้ใหญ่กว่าเดิม, Wider คือ การที่แต่ละคอร์สามารถรับคำสั่งแบบ Parallel ได้มากกว่าเดิม หากเทียบกับ Skylake ตัวชิปได้รับการออกแบบเป็น 5-Wide จากเดิมที่มีเพียง 4-Wide ส่วน Smarter จะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานอย่างการถอดสมการ Cryptography, AI และ Machine learning ให้ดียิ่งกว่าเดิม
อินเทลได้มีการสาธิตประสิทธิภาพของซีพียู Sunny Cove ด้วยการใช้โปรแกรม 7-Zip เข้ารหัส AES-256 ซึ่งผลลัพธ์ได้แสดงให้เห็นถึงความเร็วที่สูงกว่าซีพียูในปัจจุบันถึง 75% เลยทีเดียว ทั้งนี้ ตัวโปรแกรม 7-Zip ที่ใช้สาธิต เป็นเวอร์ชั่นที่ได้รับการปรับแต่งให้ใช้ประโยชน์ของ Sunny Cove ด้านการ Vector processing, compression และ Decompression แล้ว
นอกจากนี้ Sunny Cove ยังมีความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในส่วนของ x64 Virtual memory นับตั้งแต่ที่ AMD ได้เปิดตัว x86-64-extension ให้กับ x86 ในปี 2003 โดยถึงแม้ว่าตัว Virtual memory จะใช้ระบบ 64 บิต ในการเก็บข้อมูล แต่ในความเป็นจริงแล้วมี ค่าที่ใช้ประโยชน์จริงมีเพียง 48 บิต เท่านั้น โดยค่าบิตจะถูกใช้ตั้งแต่ 0-47 ส่วนค่าบิต 48-63 จะเป็นค่าที่ถูกคัดลอกมาจาก 47 บิตแรกอีกที ซึ่งทำให้ค่าพื้นที่ Virtual address มีเพดานจำกัดอยู่ที่ 256TB นั่นหมายความว่าระบบจะรองรับ Physical memory สูงสุดอยู่ที่ 256TB ด้วยเช่นกัน ซึ่งมันถูกจำกัดเพดานเอาไว้เท่านี้ตั้งแต่ปี 2003
แต่ใน Sunny Cove อินเทลได้ทำลายเพดานดังกล่าวแล้ว ด้วยการออกแบบให้ใช้ค่าบิตได้ถึงถึง 57 บิต ทำให้ Virtual address space ขยับไปอยู่ที่ 128PB (128,000TB) และ Physical memory สูงสุดที่ 4PB(4,000TB)
การ์ดจอที่มาพร้อมกับตัวซีพียูก็เป็นอีกส่วนที่ทางอินเทลได้ทำการอัพเกรดให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นด้วยเช่นกัน โดยมันทำความเร็วในการคำนวณได้สูงกว่า 1 FLOPS มันอาจจะไม่แรงเท่ากับพวกการ์ดจอภายนอก แต่หากนำไปเทียบกับ Intel HD Graphics 630 ที่ทำได้เพียง 460 GFLOPS ก็ถือว่าเร็วกว่าเดิมมากเลยทีเดียว ซึ่งทำให้ Sunnny Cove รองรับการเล่นเกมส์ได้ดียิ่งขึ้นกว่าเก่า
อินเทลได้กล่าวว่า Sunny Cove จะถูกใช้ทั้งซีพียู Core และ Xeon โดยจะเริ่มวางจำหน่ายในช่วงครึ่งปีหลังของปี ค.ศ. 2019 แต่ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดวันที่อย่างแน่นอน