"สหรัฐ" ผงะ! เจอผู้ป่วย "ฝีดาษลิง" เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า ในเเวลาเพียง 15 วัน ขณะข้อมูลแสดงให้เห็นว่า สหรัฐกลายเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้ป่วยโรคนี้มากสุดในโลก ที่เกือบ 9,000 ราย
สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า สหรัฐยืนยันพบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงสะสมมากที่สุดในโลกที่ 8,934 ราย เมื่อนับถึงวันจันทร์ที่ผ่านมา (8 ส.ค.) และมีแนวโน้มว่าตัวเลขนี้อาจต่ำกว่าความเป็นจริง เนื่องจากไม่มีการตรวจโรคอย่างทั่วถึง
ในวันจันทร์ที่ผ่านมา ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ (ซีดีซี) ตรวจพบผู้ป่วยเพิ่มอีก 1,424 ราย ซึ่งนับเป็นสถิติรายวันสูงสุดตั้งแต่สหรัฐ เผชิญการระบาดของโรคฝีดาษลิงในเดือนพฤษภาคม และยังเป็นการเพิ่มขึ้น 3 เท่าในเวลาเพียง 15 วัน
จำนวนผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงที่ยืนยันผลในสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 30% ของยอดรวมผู้ป่วยทั้ง 30,189 รายทั่วโลก แม้สหรัฐมีประชากรน้อยกว่า 5% ของประชากรโลก โดยคณะผู้เชี่ยวชาญคาดว่า การระบาดครั้งนี้จะทวีความรุนแรงในไม่ช้า
ทางด้าน ดร. อเล็กซานดรา บรูกเลอร์ ยอนต์ส ผู้เชี่ยวชาญโรคติดเชื้อประจำโรงพยาบาลเด็กแห่งชาติ ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ระบุว่า โรคฝีดาษลิงมีโอกาสแพร่ระบาดในสถานรับเลี้ยงเด็ก โรงเรียน วิทยาเขตของวิทยาลัย เรือนจำ และสถานที่อื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกันอย่างแน่นอน
ยอนต์ส เผยความคาดหวังว่า สหรัฐจะสามารถควบคุมการระบาดของโรคฝีดาษลิงในระดับท้องถิ่นได้มากขึ้น แม้เธอคิดว่า จะระบาดมากกว่าเดิม เนื่องจากผู้คนยังคงเดินทาง เข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ และโรงเรียนจะเริ่มเปิดเรียนอีกไม่นานนี้ โดยตอนนี้สหรัฐ พบผู้ป่วยในเกือบทุกรัฐแล้ว
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โรเชลล์ วาเลนสกี ผู้อำนวยการศูนย์ฯ เผยกับผู้สื่อข่าวว่าทางการได้ประมาณการว่า ชายในสหรัฐราว 1.7 ล้านคน ที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายด้วยกัน กำลังเผชิญความเสี่ยงจากโรคฝีดาษลิงมากที่สุด
99% ผู้ป่วยฝีดาษลิงในสหรัฐ เป็นเพศชาย
ข้อมูลใหม่ซึ่งเผยแพร่ในรายงานการเจ็บป่วยและเสียชีวิตรายสัปดาห์ (Morbidity and Mortality Weekly Report) และรวบรวมโดยซีดีซี แสดงให้เห็นว่า 99% ของผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงในสหรัฐ เป็นเพศชาย
รายงานดังกล่าว ยังแสดงให้เห็นว่า 94% ของผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงเพศชาย เคยมีเพศสัมพันธ์ หรือสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ชายด้วยกันเองในช่วง 3 สัปดาห์ก่อนเริ่มมีอาการป่วย โดยชนกลุ่มน้อยทางเชื้อชาติ และชาติพันธุ์ ได้รับผลกระทบอย่างไม่เป็นสัดส่วน
นอกจากนั้น ข้อมูลซึ่งเก็บรวบรวมจากผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงในสหรัฐ ช่วงวันที่ 17 พฤษภาคม-22 กรกฎาคมที่ผ่านมา ยังแสดงให้เห็นว่า ผู้ป่วยบางกลุ่มมีอาการแตกต่างจากโรคฝีดาษลิงทั่วไป โดยมีผู้ป่วยที่มีอาการนำ (prodrome) น้อยลง และมีผื่นขึ้นบริเวณอวัยวะเพศมากขึ้น
รายงาน ยังระบุว่า การแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิงระดับชุมชน กำลังขยายวงกว้าง และส่งผลกระทบอย่างไม่เป็นสัดส่วนต่อกลุ่มประชากรที่เป็นเกย์ ไบเซ็กชวล และผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายด้วยกันเอง ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลของประเทศอื่น ๆ
ข้อมูลเสริมว่าแม้คนผิวขาวจะครองสัดส่วนผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงมากที่สุด แต่คนผิวดำ และฮิสแปนิค ซึ่งคิดเป็น 34% ของจำนวนประชากรทั่วไป ครองสัดส่วนรวมกันมากกว่าครึ่งหนึ่ง หรือ 54% ของผู้ป่วยยืนยันผลทั้งหมด
อ่านข่าวเพิ่มเติม