โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ABAC ย้ำบทบาทขับเคลื่อนเศรษฐกิจสู่เวทีเอเปค

INN News

เผยแพร่ 19 ต.ค. 2565 เวลา 10.28 น. • INN News
ABAC ย้ำบทบาทขับเคลื่อนเศรษฐกิจสู่เวทีเอเปค
สภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปค พร้อมสร้างการรับรู้ สะท้อนพันธกิจที่สนับสนุนให้ทุกคนสามารถร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เพื่อความอยู่ดีกินดีร่วมกัน

สภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปค หรือ ABAC ตอกย้ำบทบาทในการเป็นตัวแทนของภาคเอกชนที่จะส่งมอบข้อเสนอของภาคเอกชนสู่นโยบายบนเวทีผู้นำเอเปค ภายใต้แนวคิด Business Of The People นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เอเปคถือเป็นงานของประชาชน จึงอยากให้ทุกคนมีส่วนร่วม เห็นประโยชน์ที่ทุกภาคส่วนจะได้รับ ABAC CEO Summit จะทำให้เกิด Open Connect Balance เปิดให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมสร้างสมดุล และในกรณีของประเทศไทยที่เป็นเจ้าภาพ มีธีม BCG ให้ไทยได้มีบทบาท ในการพัฒนาเศรษฐกิจหมุนเวียนเศรษฐกิจสีเขียว

ทำให้ประเทศไทยก้าวผ่านอุปสรรคโดยเฉพาะ SME การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมครั้งนี้เป็นโอกาสที่จะแสดงศักยภาพของประเทศไทยหลังจากในช่วงโควิด 19 ไม่สามารถจัดงานใดๆ สถานการณ์ทางการเมืองที่ยังมีผู้นำในการเป็นเจ้าภาพจากรัฐบาลตัวจริง เวทีนี้จะเป็นเวทีที่จะได้เรียนรู้และแลกเปลี่ยนให้ทุกคนได้เชื่อมั่น มุ่งมาสู่การลงทุนในประเทศไทยโดยใช้เวทีอเปค ในขณะที่การท่องเที่ยวเชื่อว่าในปีหน้า คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยว 20 ล้านคน

โดยยังไม่รวมประเทศจีน และหากจีนอนุญาตออกนอกประเมศได้ ปีหน้าอาจจะมีนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มเติมอีกประมาณ 5 ล้านคน จะช่วยเศรษฐกิจไทยได้อีกมาก การส่งออกของไทยหากร่วมมือกับ 21 เขตเศรษฐกิจ สามารถตกลงร่วมกันให้กับภาคธุรกิจไทยสามาถส่งสินค้าไปใน 21 เขตเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น ภาคเกษตรของไทยจะได้รับอานิสงส์จากราคาสินค้าที่สูงขึ้นสามารถส่งออกไปได้อย่างต่อเนื่อง หากต่างประเทศได้รู้จักประเทศไทยใช้ประโยชน์จากสินค้าไทยและเห็นความพร้อมของประเทศไทย จะสามารถช่วยในการพัฒนาได้ และที่สำคัญคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร.พร้อมจะดึงดูดให้ต่างชาติเข้าร่วมลงทุนได้ เพราะจะเข้ามาพร้อมกับบุคลากรที่มีคุณภาพเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้น เช่นเดียวกับในสิงคโปร์และเวียดนาม ซึ่ง SME สามารถเรียนรู้จากประเทศเพื่อนบ้านได้

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. ย้ำถึงการลดความเหลื่อมล้ำของโลก ให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจร่วมกัน ผลักดันภาคธุรกิจให้ก้าวผ่านความท้าทาย ซึ่งเวลานี้ที่ทั่วโลกกำลังเผชิญ คือ ปัญหาเงินเฟ้อ ที่มาจากราคาพลังงานสูง Food Security การขาดแคลนอาหารของโลก ความยั่งยืน ความท้าทายต่อไปคือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นอกจากนี้ยังมีความขัดแย้งในภูมิภาคด้านการเมือง อยากให้เร่งแก้ไขโดยด่วน ทั้งความขัดแย้งระหว่างจีนไต้หวัน ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาการขาดแคลน supply chain ทุกฝ่ายจะต้องรวมตัวและร่วมกัน เพื่อช่วยเร่งกันฟื้นฟูให้ SME มีโอกาสกลับมา หลังเผชิญปัญหาโควิด 19

ด้านนายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า เป็นระบบเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงระหว่างกันทั้งภาคการเงินและภาคประชาชน การแข่งขันของประเทศ ผ่านระบบกลาง มีกลไกในการดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ ภาคธุรกิจและภาคบริการประชาชน ต้องดำเนินการได้อย่างมีระบบโดยเฉพาะระบบสถาบันการเงินต้องสามารถสนับสนุนได้อย่างยั่งยืน และต้องมีการยกระดับบุคลากรภาคการเงินภาคธนาคารรวมถึงคู่ค้าและภาคประชาชน เชื่อมโยงทุกคนเข้าร่วมกันได้

และสำหรับการก้าวผ่านอุปสรรคของSME ในส่วนของสถาบันการเงิน จะมุ่งเน้นการสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางการเงิน เช่น พร้อมเพย์ทำให้เกิดการจ่ายเงินแบบเรียลไทม์อยู่บน Digital platform ที่มีประสิทธิภาพ และเวลานี้อยู่ระหว่างการขับเคลื่อน พร้อมบิท เชื่อมโยงระบบการค้าการขาย การสั่งสินค้า การชำระเงิน การชำระภาษี นำเข้าส่งออกให้อยู่บนแพลตฟอร์มพร้อมบิท ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนาโดยสมาคมธนาคารไทย ร่วมกับธนาคารสมาชิกและธปท. คลัง ทำให้เกิดการหมุนเวียนสภาพคล่องไปยังภาคธุรกิจได้ตรงตามความต้องการมีราคาที่เป็นธรรมและสามารถเข้าถึงได้ของคนทุกกลุ่ม สามารถตอบโจทย์การเข้าถึงได้อย่างเป็นระบบ

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0

ความเห็น 0

ยังไม่มีความเห็น