อินเตอร์เน็ตเข้าใกล้การเป็นปัจจัยสำคัญในชีวิตรองจากปัจจัย 4 เงินและสมาร์ทโฟน ซึ่งการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตในปัจจุบันสามารถเข้าได้หลากหลายช่องทาง และช่องทางเหล่านั้นจะถูกเรียกว่า “เว็บบราวเซอร์ (Web Browser)” ที่สำคัญเว็บบราวเซอร์ในปัจจุบันมีมากมายหลายค่ายที่พัฒนาขึ้นมา เว็บบราวเซอร์เหล่านี้ต่างมีความสามารถและจุดเด่นที่แจกจ่างกันไป ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถเข้าเว็บบราวเซอร์ได้จากหลายๆ อุปกรณ์
แน่นอนว่าเว็บบราวเซอร์คือประตูสู่โลกอินเตอร์เน็ต ซึ่งหากมองในแง่เทคโนโลยีเว็บบราวเซอร์ก็เป็นหนึ่งโปรแกรมที่ควรมีติดไว้ทุกเครื่อง แต่หากมองในแง่นักการตลาดเว็บบราวเซอร์คือแพลตฟอร์มที่สำคัญในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารผ่านแต่ละแพลตฟอร์มที่มีความแตกต่างกัน นี่คือเว็บบราวเซอร์ทั้ง 7 ที่มีผู้นิยมใช้มากในปี 2017
1. Internet Explorer
ยังคงถือว่าเว็บบราวเซอร์ Internet Explorer หรือ IE เป็นแพลตฟอร์มที่มีความเก่าแก่มากที่สุดแพลตฟอร์มหนึ่ง เนื่องจากเป็นโปรแกรมพื้นฐานที่อยู่คู่กับระบบปฏิบัติการ Windows มาตั้งแต่ยุคสมัย Windows 3.11 ซึ่งชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า เป็นโปรแกรมสำหรับการเชื่อมต่อกับโลกอินเตอร์เน็ตด้วยความที่โปปรแกรมมีมานานมากแถมยังเป็นพื้นฐานในระบบปฏิบัติการจึงทำให้ถูกละเลย แต่เมื่อมีการพัฒนาจนมาสู่รุ่น IE11 ก็ช่วยให้การเข้าถึงอินเตอร์เน็ตมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ถึงขนาดการันตีว่าใช้ความสามารถของ Ram และ CPU น้อยกว่า Firefox และ Chrome
2. Mozilla Firefox
ยังคงอยู่ใน Top Chart สำหรับเว็บบราวเซอร์จิ้งจอกไฟอย่าง Mozilla Firefox ซึ่งครั้งหนึ่งเคยขึ้นไปถึงเว็บบราวเซอร์ที่ดีที่สุด เนื่องจากมีการใช้ทรัพยากรของเครื่องคอมพิวเตอร์น้อยกว่าเว็บบราวเซอร์ค่ายอื่นๆ นอกจากนี้ Firefox ยังมีแถบเครื่องมือใช้งานและแท็บหน้าต่างอินเตอร์เน็ตที่ดูเรียบร้อย ไม่รกมากมาย สำหรับในเวอร์ชั่นล่าสุด Firefox ได้เพิ่มฟีเจอร์ป้องกันการรบกวนจากโฆษณา รวมไปถึงการป้องกันเว็บไซต์ที่อาจเป็นภัยคุกคามต่อระบบคอมพิวเตอร์ได้ และยังรองรับการแสดงผลเว็บไซต์ในรูปแบบ 3 มิติ
3. Google Chrome
หนึ่งในเว็บบราวเซอร์ที่เคยขึ้นสู่ตำแหน่งเว็บบราวเซอร์ที่มีผู้นิยมใช้มากที่สุด ซึ่งในยุคสมัยหนึ่ง Chrome ถูกจัดให้เป็นเว็บบราวเซอร์ที่มีการประมวลผลได้อย่างรวดเร็ว ใช้ทรัพยากรในคอมพิวเตอร์น้อยที่สุด แต่นั่นคือเรื่องของอดีตเพราะในปัจจุบัน Chrome ไม่ใช่เว็บบราวเซอร์ที่ประมวลผลได้เร็วที่สุด แถมปัจจุบัน Chrome ยังเป็นเว็บบราวเซอร์ที่ใช้ทรัพยยากรในคอมพิวเตอร์เปลื่องมากที่สุดโปรแกรมหนึ่ง หากจะหาข้อดีก็คงจะเป็นการเชื่อมโยงเว็บบราวเซอร์กับบัญชีต่างๆ ของ Google ช่วยให้สะดวกในการใช้งาน Google
4. Opera
เว็บบราวเซอร์ที่ถูกจับตามองมาโดยตลอด เนื่องจากมีความสามารถได้โดดเด่นแต่ก็ยังเด่นไม่เกิน 3 เว็บบราวซอร์ด้านบน ซึ่ง Opera ยืนยันว่าเป็นเว็บบราวเซอร์ที่มีฟังก์ชั่นในการประหยัดแบตเตอรี่ได้ถึง 50% แต่ฟังก์ชั่นนี้ใน Firefox ก็มีเช่นกัน ที่สำคัญ Opera ยังเคลมว่าสามารถป้องกันโฆษณาต่างๆ ได้โดยไม่ต้องเพิ่มส่วนเสริมใด ทำให้สามารถโหลดหน้าเพจได้เร็วขึ้น 90%
5. Opera Neon
เป็นอีกหนึ่งเวอร์ชั่นที่ออกมาใหม่ของ Opera โดยใช้ชื่อว่า Neon โดยในเวอร์ชั่นนี้นอกจากจะอัดแน่นด้วยฟังก์ชั่นการทำงานของเว็บบราวเซอร์ Opera ชุดใหญ่แล้ว ยังเพิ่มฟังก์ชั่นในเรื่องของลูกเล่นเสริมเข้าไปไม่ว่าจะเป็นแท็บรูปแบบใหม่ ความสามารถในการนำวอลเปเปอร์ใส่ลงไปในเว็บบราวเซอร์ และการแยกหน้าจอ เรียกว่าเป็นเว็บบราวเซอร์ที่ไม่ได้มีเพียงแค่ฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย แต่ยังเน้นไปที่เรื่องของความสวยงามอีกด้วย
6. Microsoft Edge
สำหรับเว็บบราวเซอร์ตัวนี้เรียกว่าได้ เป็นต้นกำเนิดของ IE11 ในยุคที่เว็บบราวเซอร์ IE ไม่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้งาน ซึ่งรูปแบบของ Microsoft Edge ยังเป็นรูปแบบพื้นฐานสำหรับ IE11 นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่น Web Note ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถบันทึกและแบ่งปันคำอธิบายประกอบหรือการเขียนอื่นๆ ที่สำคัญยังได้ลดขอบของหน้าเว็บเพจลงตามชื่อ Edgeช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย พร้อมความสามารถในการเล่นไฟล์แฟลช พร้อมทั้งสามารถกำหนดมาตรฐาน JavaScript ได้อีกด้วย
7. Vivaldi
เป็นอีกหนึ่งโปรแกมเว็บบราวเซอร์ แม้ว่าจะเป็นโปรแกรมที่มีคนรู้จักในวงแคบๆ และฟังก์ชั่นการำงานไม่ได้เลิศเลอเหมือนโปรแกรมจากค่ายใหญ่ๆ ทั้งหลาย แต่ความสามารถในเรื่องของการจัดการแท็บต่างๆเป็นฟังก์ชั่นหนึ่งที่โดดเด่นสำหรับ Vivaldi
Source: T3
อ่านบทความทั้งหมด ที่ MarketingOops.com
ความเห็น 5
Bird
มโนเอาเองผลทีได้นะ
13 มี.ค. 2560 เวลา 10.31 น.
Charnchon
Safari มันต้องมีคนใช้เยอะกว่า Opera นะ
12 มี.ค. 2560 เวลา 22.44 น.
ไม่มี MICROSOFT EDGE หรอ
12 มี.ค. 2560 เวลา 17.49 น.
Simon Lee
อยากรู้จังว่าเอาผลสำรวจจากไหนเหรอ!?!?
12 มี.ค. 2560 เวลา 05.02 น.
San
ไม่มี Netscape Navigator หรือ
11 มี.ค. 2560 เวลา 08.16 น.
ดูทั้งหมด