เก็บเงินมาทั้งปี ช่วงนี้เลยเป็นเหมือนนาทีปล่อยของและปล่อยผี อยากได้อะไร ซื้อ! ของขวัญแทนใจให้คนสนิท ของขวัญจับฉลากกับเพื่อนร่วมงาน ของขวัญให้คนในครอบครัว ซื้อ! อุ้ย ของเซลอันนี้ก็เริ่ด ซื้อๆๆ! มารู้ตัวอีกที จากเงินในบัญชีที่มีอยู่อย่างอู้ฟู่ กลายเป็นไลฟ์สไตล์ถังแตกส่งท้ายปลายปี วิถีชีวิตมันก็จะเปลี่ยนจากร้านอาหาร 5 ดาวมาเป็นประมาณนี้
อาหารฟรีในซูเปอร์มาร์เก็ตคือสวรรค์
ไลน์บุฟเฟ่ต์ชั้นดีก็คือโซนอาหารที่มีตัวอย่างนู่นนี่แจกฟรีให้ได้ลองชิมกัน โดยเฉพาะวันไหนที่เพื่อนทั้งกลุ่มนัดออกไปสังสรรค์ อยากเจอเพื่อนก็อยากอ่ะนะ แต่พอเปิดกระเป๋าเงินแล้วก็ต้องถอนหายใจเบาๆ เพราะจนหนักมาก วิธีแก้คือการพุ่งตัวเข้าซูเปอร์ ตระเวนเดินให้ทั่ว ชิมจนเริ่มรู้สึกหนักท้องแล้วไปหาเพื่อนแบบ “แก ไม่ต้องรอ ฉันกินมาอิ่มแล้ว” มื้อนี้รอดไป๊
แลกพอยท์ได้ แลก!
เงินหมดแล้ว แต่การขุดเจอพอยท์บัตรเครดิตที่สะสมมาตลอดทั้งปีคือแต้มบุญแต้มใหญ่ โดนัท พิซซ่า ข้าวฟรี หรือแม้แต่ส่วนลดต่างๆ นานา ถ้าแลกได้เราจะต้องแลกให้ยับ นี่คือเวลาที่บริษัทบัตรเครดิตจะต้องชดใช้ข้า!
จกมาม่า ดู LINE TV
ตั๋วหนังใบละร้อยสองร้อย ป๊อปคอร์นถังใหญ่ราคาไม่เป็นมิตรไม่ต้องพูดถึง นาทีนี้ต้องโฮมเธียเตอร์เท่านั้น ต้มน้ำร้อนรอแล้วเปิดซองมาม่าให้ด่วน Wifi ยืมของเพื่อนข้างห้องมาใช้ แล้วนั่งดูเรื่อง “ล่า” บน LINE TV ค่ะซิส คืนนี้สบายใจละ อิ่มท้องพร้อมความบันเทิงในมือ ไม่ต้องลงทุนยิ่งใหญ่แต่ก็สนุกได้เหมือนกัน
เปลี่ยนจากเดินห้างเป็นสวนข้างบ้าน
ถ้าเบื่อการกักตัวเองอยู่แต่ในบ้านแล้ว ห้างสรรพสินค้าอาจจะไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับช่วงนี้ เพราะนอกจากจะเป็นการกระตุ้นกิเลสให้แตกซ่านแล้ว ยังเป็นการตอกย้ำตัวเองอีกว่าฉันจนมาก ลองเปลี่ยนจากการเดินช็อปเป็นการเดินเล่นในสวนสาธารณะข้างบ้านดูดีไหม สูดออกซิเจนให้เต็มปอด มองดูต้นไม้ใบหญ้าเขียวๆ สดชื่นจะตายยยย
รอคนมาเลี้ยง
ถ้าสถานะการเงินของตัวเองจะพึ่งพาไม่ได้ซะขนาดนี้ ก็ต้องฝากความหวังไว้กับคุณแฟนหรือบุพการีที่รักแล้วล่ะ ทำตัวน่าสงสารเข้าไว้แล้วฮัมเพลง "โหยหาความรัก ความเมตตา.." ในใจไปพลางๆ ช่วยกรุณาสงเคราะห์หนูที
