หลายคนอยากมีความสุข แต่รู้ไหมจริง ๆ แล้วความสุขคืออะไร
ความหมายของคำว่า “ความสุข” ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ให้นิยามไว้ว่าความสุขคือ ความสบายกายสบายใจ คือความรู้สึกหรืออารมณ์ประเภทหนึ่ง มีหลายระดับตั้งแต่ความสบายใจ ความพอใจ ตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงระดับที่มากขึ้น ซึ่งตามนิยามความหมายของคำว่า “ความสุข” แล้ว คนเราไม่น่าจะประสบพบเจอกับความสุขได้ยากขนาดนั้น
แต่ที่พวกเราไม่ค่อยมีความสุขก็เพราะมัวแต่ตั้งความหวัง ตั้งกฎเกณฑ์ ให้นิยามความสุขไว้มากจนเกินไป ต้องมีเงินเท่านั้นเท่านี้ ต้องเป็นใหญ่เป็นโต ต้องอย่างนั้น ต้องอย่างนี้ ถึงจะมีความสุข ทั้งที่ความจริงแล้ว ความสุขเป็นอะไรที่ง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน แค่ไม่คิดมาก คุณก็มีความสุขได้แล้ว และจะยิ่งมีความสุขมากขึ้นถ้าทำตามกฎเหล็ก 5 ข้อนี้
1. อะไรที่ผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไป
คนเรามักไม่ค่อยปล่อยอะไรให้ผ่านไปง่าย ๆ โดยเฉพาะเรื่องแย่ ๆ เรื่องที่บั่นทอนความรู้สึกตัวเอง เรื่องที่จะทำให้เป็นทุกข์ ก็มักจะเก็บมาคิด มาสุมอยู่ในใจให้ทุกข์มากขึ้นไปอีก ทั้ง ๆ ที่วิธีมันง่ายนิดเดียวคือ แค่เลิกคิด แต่คนเราก็เลือกที่จะคิดซ้ำ คิดซ้อน คิดแล้ว คิดอีก ทำให้ทุกอย่างมันยากขึ้น
ทางที่ดีเราควรจะปล่อยให้สิ่งแย่ ๆ เหล่านี้มันผ่านไปตามทางของมัน ทุกสิ่งทุกอย่างมีเกิดย่อมมีดับ ถ้าคุณมัวแต่เติมเชื้อไฟด้วยการไม่ปล่อยวางอะไรเลยไปเรื่อย ๆ สุดท้ายคนที่จะไม่มีความสุขก็คือตัวคุณเอง อย่าลืมว่ายิ่งผ่านเรื่องแย่ ๆ มามากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งเข้มแข็งมากเท่านั้น เมื่อสตรองได้แล้วก็ปล่อยให้มันผ่านไป
2. ทำในสิ่งที่ใจต้องการ
บางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองต้องการอะไร เพราะมัวแต่ใช้ชีวิตไปตามค่านิยมของสังคม เค้าเรียนอะไรก็เรียนด้วย จบมาแล้วก็ทำงานเหมือนคนอื่น เรียกว่าเป็นมนุษย์ก็อปปี้ที่ใช้ชีวิตเหมือน ๆ กับคนส่วนใหญ่ในสังคม ซึ่งเมื่อไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร แล้วจะมีความสุขได้อย่างไร
เราทุกคนไม่ควรพลาดที่จะทำในสิ่งที่ใจต้องการ คนเราเกิดครั้งเดียว ตายก็ครั้งเดียว จะมัวทำเหมือน ๆ คนอื่นอยู่ทำไม แท้จริงเราต้องการอะไร ถ้ายังไม่เคยคุยกับตัวเองก็ลองถามตัวเองดูสักครั้งว่าสิ่งที่ทำอยู่ ที่เราใช้ชีวิตแบบนี้ตลอด ใช่สิ่งที่เราต้องการจริงหรือไม่ ถ้าทำต่อไปแล้ว เราจะไม่เสียใจทีหลังใช่ไหม ถ้าคำตอบคือ “ใช่” ก็แปลว่าคุณมาถูกทางแล้ว ทำต่อไปเลย แต่ถ้า “ไม่ใช่” หน้าที่ของคุณก็คือถามใจตัวเอง แล้วเริ่มลงมือทำในสิ่งที่ต้องการได้แล้ว
3. อย่าเอาความสุขไปผูกไว้กับใคร
ไม่แปลกที่คนเราจะเอาความสุขของตัวเองไปผูกไว้กับคนหรือสิ่งของบางอย่าง แต่นั่นไม่ใช่ความสุขที่แท้จริงหรือยั่งยืนอะไรเลย เช่น อยากได้มือถือใหม่ใจแทบขาด พอได้แล้วก็มีความสุขแค่ชั่ววูบ แต่เมื่อเห็นบิลค่ามือถือที่ต้องผ่อนแต่ละเดือนเท่านั้นแหละ ความทุกข์เกิดขึ้นทันที หรืออยากมีแฟน พอมีแฟน อยู่กับแฟนก็มีความสุข แต่พอแฟนทิ้ง ก็ทุกข์แทบเจียนตาย ซึ่งทั้งสองกรณีนี้แปลว่าเราเอาความสุขของตัวเองไปผูกติดไว้กับคนบางคน ของบางอย่าง พอสุขได้แป๊บเดียว เดี๋ยวความทุกข์ก็ตามมา เพราะฉะนั้นอย่าเอาความสุขไปผูกไว้กับใครหรืออะไร ต้องรู้สึกมีความสุขด้วยตัวเองให้ได้ จะได้เป็นทุกข์น้อยลง
4. หัดมีความสุขกับเรื่องเล็ก ๆ และรู้จักให้รางวัลตัวเองบ้าง
คนที่มีความสุขน้อย ๆ แต่บ่อย ๆ มักมีแนวโน้มที่จะทุกข์น้อยกว่าคนอื่น เช่น การกินข้าวในจานที่เพิ่งซื้อมาใหม่ จริง ๆ เล็กน้อยแค่นี้ก็เป็นความสุขได้แล้ว อย่าลืมว่าคนเราไม่จำเป็นต้องมีมาก มีเยอะ แต่แค่พอใจในสิ่งที่ตัวเองมี และรู้จักสุขกับอะไรง่าย ๆ แบบนี้ก็คือสุขที่ยั่งยืนแล้ว
นอกจากจะสุขกับอะไรง่าย ๆ แล้ว เราต้องไม่ลืมที่จะสร้างความสุขให้ตัวเองด้วย คนเราส่วนใหญ่มักอยากทำอะไรบางอย่างเพื่อคนที่เรารักเป็นเรื่องปกติ แต่กลับลืมความต้องการของตัวเอง การให้รางวัลหรือของขวัญสำหรับตัวเองก็เป็นความสุขอย่างหนึ่ง ไม่ต้องมาก ไม่ต้องใหญ่ ไม่ต้องเยอะ แค่ทำให้ตัวเองรู้ว่านี่แหละคือสิ่งที่เราต้องการ เป็นความสุขง่าย ๆ ที่ใคร ๆ ก็ทำได้
5. แยกให้ออก มีเงินไม่ได้แปลว่ามีความสุข
ชีวิตที่มีความสุขของแต่ละคนอาจมีนิยามที่แตกต่างกัน แต่ต้องไม่เข้าใจผิดหรือทึกทักเอาเองว่าการมีเงิน ความร่ำรวย มีชื่อเสียง หรือมีเกียรติยศคือความสุข สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ความสุขแต่เป็นเป้าหมายที่คุณต้องลงมือทำ และไม่ได้รับประกันด้วยว่าเมื่อทำสำเร็จแล้วคุณจะมีความสุขที่แท้จริง
ความสุขไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินในกระเป๋าว่าต้องมีเท่าไหร่ รวยแค่ไหน ถือกระเป๋าแบรนด์อะไร แต่ความสุขคือการที่คุณโอเคกับสิ่งที่คุณมี ไม่ว่าสิ่งเหล่านั้นจะเป็นอะไรก็ตาม
