โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

5 ฤดูกาลแห่งการเติบโตที่เราต้องผ่านมันไปให้ได้ - เพจบันทึกนึกขึ้นได้

TALK TODAY

เผยแพร่ 13 ธ.ค. 2562 เวลา 04.10 น. • เพจบันทึกนึกขึ้นได้

*1. Learn - ฤดูแห่งการเรียนรู้ *

เราทุกคนก็อยากที่จะอยู่ในฤดูกาลที่มันดีที่สุดสำหรับเรานั่นแหละ

แต่ถ้ามองกลับมาดูดีๆ ก่อนที่เราจะไปถึงฤดูกาลแห่งความสำเร็จ

เราควรจะต้องหยุดเพื่อเรียนรู้อะไรสักอย่างก่อน

Learn หรือการเรียนรู้ คือสิ่งแรกที่เราควรเริ่ม

เราอาจเข้าใจไปเองว่าการเริ่มต้น คือการลงมือทำ

แต่จริงๆ แล้วการเริ่มทำอะไรสักอย่างที่ตัวเองต้องการในชีวิต

มันเริ่มจากการลุกขึ้นไปหาข้อมูล เข้าไปเรียนรู้สิ่งนั้น

ซึ่งมันเป็นฤดูที่ถูกลืมมากๆ

เพราะเราเองก็คิดไปเองอีกว่า เราไม่จำเป็นต้องเรียนรู้อะไรหรอก

เราก็พอรู้อยู่บ้างแหละน่า ทำๆ ไปก่อนเถอะ

แต่ก็มีหลายครั้งที่เราเจอปัญหาใหญ่ๆ

แล้วถึงต้องกลับมานั่งคิดว่าทำไมมันถึงเกิดขึ้นแล้วจะแก้มันยังไง

ยกตัวอย่างง่ายๆ

เราแทบไม่เปิดคู่มือรถ หรือโทรศัพท์ก่อนใช้งานกันเลย

เครื่องซักผ้า เครื่องดูดฝุ่น ทีวี หรืออะไรก็ตาม

เราจะมาเปิดดูมันอีกที ก็ตอนที่กดปุ่มอะไร สักอย่างแล้วมันไม่ติด

มันเสีย เราถึงค่อยกลับไปเรียนรู้ว่าจริงๆ แล้วมันใช้งานยังไง

ในชีวิตเรามันก็ไม่มีคู่มืออีกเหมือนกัน

แต่ประเด็นคือ การที่เราได้เรียนรู้ในสิ่งที่เราสนใจ

ได้เข้าไปทำความเข้าใจ

ได้เข้าไปสัมผัสด้วยตัวเอง

มันก็จะทำให้เราเข้าใจก่อนที่จะเริ่มลงมือทำอะไรสักอย่างที่ชอบ

ไม่ได้หมายถึงว่าต้องไปอ่านหนังสือเพียงอย่างเดียว

แต่การเรียนรู้คือการเข้าไปหาคนที่เขาถนัด

คนที่เขาอยู่ในจุดๆ ที่เราอยากไปถึง

แต่เดี๋ยวนี้โลกมันก็ง่าย จนทำให้บางคนมักง่าย

หลายครั้งที่เราไม่เคยที่จะพยายามทำไรเลย

อาศัยแค่มีเพื่อนในเฟซบุ๊คหรือทวิตเตอร์เยอะๆ

แล้วก็โพสลอยๆ ว่าอยากเป็นนั่น อยากเป็นนี่ ทำไงได้บ้าง

รอให้คนอื่นเค้าเค้ามาช่วยเหลือ ในขณะที่ตัวเองนอนเล่นโทรศัพท์อยู่เฉยๆ

แต่เมื่อเราได้เข้าใกล้คนที่อยู่ในที่ที่เราอยากไปถึงแล้ว

การเรียนรู้ผ่านการตั้งคำถามที่มันเป็นประโยชน์กับเราจริงๆ จะช่วยได้มากเลยนะ

แทนที่จะถามว่า อยากเป็นนักเขียนทำไงดี

อยากไปทำงานที่ญี่ปุ่นทำไงดี

อยากทำงานเก่งๆ ทำไงดี

อยากประสบความสำเร็จในธุรกิจทำยังไงดี

อยากลืมเค้า ทำยังไงดี

ลองเปลี่ยนคำถาม แล้วถามพวกเขาไปว่า

อะไรคือจุดที่ยากที่สุดในการเป็นนักเขียน

อะไรคือสิ่งที่พี่คิดว่า พี่ควรจะรู้ตั้งแต่แรกก่อนที่พี่จะเริ่มทำธุรกิจ

ในวันที่พี่ลุกขึ้นมารักตัวเองแล้ว วันนั้นพี่คิดอะไรอยู่

ยิ่งเราถามคำถามที่มันไม่ได้เฉพาะเจาะจง

คนที่เราจะให้เขาแนะนำก็จะไม่ได้ตอบในสิ่งที่เราอยากรู้

เพราะคำถามมันกว้างมาก

ไปญี่ปุ่นไปตอนไหนดี โอ้ยยย ไปตอนไหนก็ได้ถ้ามีตังค์

เป็นผม ผมก็จะตอบแบบนี้นะ

แล้วลองถามคำถามที่มันดูเป็นคำถามทางอารมณ์กับพวกเค้าดูบ้างนะ

ไม่ใช่ถามทางเทคนิคอย่างเดียว

เช่นแบบ ถามว่า อะไรคือสิ่งที่พี่รักที่สุดในการทำ…..

ช่วงเวลาที่พี่แย่ที่สุดในการเป็น….มันคืออะไร แล้วพี่ออกมาจากมันได้ยังไง

เรียนรู้จากทุกๆ อย่างที่เกี่ยวข้อง อ่าน ฟัง พูดคุย

ทุกอย่างที่เราค้นหาจะทำให้เรามองภาพออกว่าเราควรจะเดินไปทางไหน

ถ้าตอนนี้รู้สึกตัน รู้สึกว่าไม่รู้จะไปทางไหน

เริ่มต้นด้วยการเรียนรู้ อย่าข้ามฤดูนี้ แล้วไปหาเอาข้างหน้าที่ฤดูอื่น

*2. Experiment - ฤดูแห่งการทดลอง *

ใช้ในสิ่งที่เราเรียนรู้ มาทดลองทำ

ยกตัวอย่างเช่น ถ้าอยากเป็นนักเขียน ลองหาข้อมูลแนวทางที่ชอบ

แล้วลองบอกตัวเองว่าจะเขียนมันดูทุกๆ วันละสองหน้าเอสี่

ลองทำดูสักสัปดาห์ ดูว่าตัวเองชอบการทำแบบนี้มั้ย เวิร์ครึเปล่า

อยากว่ายน้ำเก่ง ลองว่ายทุกๆ วัน ละร้อยเมตร ห้าสิบเมตร

อยากเก่งภาษา ลองฝึกพูดทุกวัน วันละห้าประโยค

ทดสอบตัวเองด้วยการทดลองว่าสิ่งที่เราอยากทำเราทำมันได้จริงๆ มั้ย

บางทีพอผ่านไปแล้วอาจจะพบว่า เราเขียนได้แค่วันละหน้า

ว่ายได้แค่วันละยี่สิบห้าเมตร หรือพูดภาษาได้แค่วันละประโยค

ซึ่งฤดูกาลนี้ มีคำเตือนอยู่ว่า

อย่าตัดสินตัวเอง

อย่าโทษตัวเอง ถ้าการทดลองมันล้มเหลว

เมื่อลองทำแล้วมันไม่ได้

นั่นหมายความว่า เราอาจจะต้องหาวิธีอื่นมาลองทำอีก

อนุญาตให้ตัวเองทำผิดพลาดในฤดูนี้

เพราะยิ่งเราผิดพลาดมากเท่าไหร่

ไม่ได้หมายความว่าเราล้มเหลว

แต่มันหมายความว่าเราได้รู้วิธีที่จะทำให้มันได้ผล

ให้เวลาตัวเองได้เรียนรู้จากความผิดพลาด

แล้วเริ่มทดลองกับตัวเองใหม่

*3. Perform - ฤดูแห่งการลงมือทำ *

Perform คือการลงมือทำมันแบบจริงๆ

ให้นึกถึงฤดูการสอบ

เราเรียน เราทดลองทำแบบฝึกหัด

ตอนนี้แหละที่เราจะเอาทั้งหมด

ทุกสิ่งทุกอย่างที่เรามีปล่อยมันออกมา

เหมือนนักกีฬาที่ฝึกซ้อมทุกวัน

แล้วรอวันที่กรรมการเป่านกหวีด

เอาการทดลองที่ดีที่สุดของเราออกมาอวด

เรารู้แล้วว่าอะไรที่ดีที่เหมาะสำหรับเรา

นี่คือฤดูแห่งการตั้งหน้าตั้งตาทำในสิ่งที่คุณรัก

ที่คุณชอบ ทำมันซ้ำๆ ไปตามจังหวะที่เราต้องการ

ถือว่าเป็นฤดูกาลที่สำคัญมากๆ เลยนะ

เพราะมันจะทำให้เรามีความมั่นใจมากขึ้นทำให้เรารู้สึกถึงคุณค่าของสิ่งที่เราทำ

ซึ่งถ้าบางคนข้ามฤดูแรกๆ ไม่เรียนรู้ ไม่ทดลอง แล้วมาที่ตรงนี้เลย

ผมว่ามีหนาวๆ นะ เพราะไม่รู้เลยว่าสนามที่ตัวเองจะมายืนอยู่มันเป็นยังไง

ถ้ารู้สึกว่าตัวเองเป็นแบบนี้

แนะนำให้กลับไปที่สองฤดูแรกก่อน แล้วค่อยมาเริ่มที่นี่อีกครั้ง

*4. Struggle ฤดูแห่งการดิ้นรน ฟ่าฟัน *

ฤดูถัดมา ไม่ใช่ฤดูแห่งความรัก แน่นอน

ฤดูนี้มันโหดกว่านั้น เรียกว่าเป็นฤดูกาลแห่งการดิ้นรน ฟ่าฟัน

หรือภาษาอังกฤษเค้าใช้คำว่า struggle

ในการที่จะทำอะไรสักอย่างมันจะมีช่วงที่เรารู้สึกแย่

รู้สึกว่ามันไม่ได้อย่างที่ใจต้องการ มันแย่ มันป่วย มันหดหู่

เรียกว่าเป็นปกติที่เราจะต้องเจอและมีฤดูกาลนี้ในชีวิต

เพียงแค่ยอมรับว่า มันจะเกิดขึ้นกับเราแน่นอน ความรู้สึกแบบนี้

อย่าพยายามที่จะหนีมัน

แต่ให้พยายามที่จะเข้าใจ และหาทางแก้ปัญหา

อย่าคิดว่ามันจะเป็นฤดูที่เราจะต้องอยู่กับมันตลอดไป

มันเป็นอีกฤดูที่เราต้องผ่านมันไปให้ได้

เพราะจริงๆ แล้วอีกนิดเดียว

ถ้าเราพยายาม มันก็อาจจะทำให้เราผ่านมันไปได้จริงๆ

*5. ฤดูกาลแห่งความสำเร็จ *

ฤดูกาลสุดท้าย

คือฤดูกาลแห่งความสำเร็จ

เรียกว่าเป็นช่วงที่สิ่งที่เราทำมามันออกดอกออกผล

ช่วงที่ทุกอย่างเป็นไปอย่างที่เราคิด

ช่วงที่เราได้รางวัล ช่วงที่ยอดขายเราพุ่ง ช่วงที่เรามีความสุขกับตัวเอง

ช่วงที่เราเห็นผลว่า การทดลองซ้ำๆ ทำให้เรามาถึงจุดนี้

แต่รู้อะไรมั้ย

ฤดูกาลนี้ มีอายุอยู่เพียงแค่ 1% ของทุกๆ ฤดูกาล

ถ้าสังเกตความสำเร็จของใครหลายๆ คน คนที่ขึ้นไปอยู่จุดสูงสุดนั้น

เราจะเห็นค่ำคืนแห่งความสำเร็จ วันแห่งความสุข

ซึ่งเราเข้าใจไปว่า คืนนั้น ตรงนั้น คือทั้งหมดของชีวิตแล้ว

ซึ่งมันไม่ใช่ มันคือ 1% ที่จะเกิดขึ้นในฤดูนี้

แล้วทุกอย่างจะกลับไปวนลูปทั้งห้าฤดูกาลใหม่

เราอาจเห็นคนฉลองกันมากมาย

แต่เค้าไม่ได้ฉลองกันทุกวัน

ทุกๆ วันเค้าทำงาน สร้างผลงาน คิด เรียนรู้ ทดลอง ลงมือทำ หกล้ม

วนเวียนไปมาไม่มีที่สิ้นสุด เพื่อที่จะให้อีก 1% ในชีวิตเกิดขึ้นอีกครั้ง

คุณค่าจริงๆ ของชีวิตอาจไม่ได้อยู่ที่ 1% ตรงนี้ก็ได้

แต่มันอยู่กับว่าในทุกฤดูกาลเรามีความสุขกับแต่ละฤดูได้มากน้อยแค่ไหน

แต่อย่างน้อยฤดูนี้ก็จะเติมเต็มความรู้สึกในจิตใจ

ให้เรามีกำลังใจที่จะกลับไปเรียนรู้สิ่งใหม่ที่เราตกหลุมรัก

หรือสิ่งเก่าที่จะทำให้มันดีกว่าเดิม

ชีวิตเราก็มีแค่นี้แหละ

5 ฤดูแห่งการเติบโต

*ฤดูแห่งการเรียนรู้ *

*ฤดูแห่งการทดลอง *

*ฤดูแห่งการลงมือทำ *

*ฤดูแห่งการดิ้นรน *

*และฤดูกาลแห่งความสำเร็จ *

*ค่อยๆ ผ่านมันไปทีละฤดู *

*แล้วค่อยๆ ลิ้มรสกับ 1% สุดท้ายที่เราเฝ้ารอ *

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0