โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

#รู้สึกดิ่งแบบไม่มีสาเหตุ! 7 เหตุผลทำให้เรา 'เคว้งคว้างกับชีวิต' ไปต่อไม่ถูก และหนทางแก้ไข ♡

SistaCafe

อัพเดต 30 ก.ย 2563 เวลา 09.21 น. • เผยแพร่ 30 ก.ย 2563 เวลา 02.00 น. • Mollacake

สวัสดีค่ะ สาวๆ SistaCafe ที่กำลังอยู่ในช่วง ' ว้าวุ่น ' ทุกคนเลย
ช่วงนี้สถานการณ์ในประเทศ ( อันที่จริงก็ทั้งโลก… ) ไม่ค่อยดีเลยเนอะ จริงๆ จะใช้คำว่าวิกฤตก็ยังได้ ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ ชีวิตส่วนตัว พังยับไปหมด T^T เราเองติดตามโซเชียลหลายช่องทาง อ่านสเตตัส โพสต์ของวัยรุ่นหลายๆ คนก็สัมผัสได้ถึงความเศร้า ผิดหวัง โกรธ เคว้งคว้าง เดียวดายในชีวิต
ยิ่งเวลาผ่านไป คนที่รู้สึกแบบนี้ก็เยอะขึ้นเรื่อยๆ จนน่าเป็นห่วง บางคนระบายปัญหา บ่นได้หลายหน้ากระดาษ แต่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสาเหตุเกิดจากอะไร หลายคนลงเอยด้วยการฆ่าตัวตาย บางคนหายไปเงียบๆ บางคนก็ยังเศร้าต่อไปอย่างไร้ทางออก เราเองก็เสียใจไปด้วยแต่ไม่รู้จะช่วยยังไงดี สิ่งที่น่าตกใจที่สุดคือ หลายคนยินดีกับความตาย บอกให้โลกแตกๆ ไปเสีย เพราะไม่มีกำลังใจจะใช้ชีวิตอีกต่อไปแล้ว ซึ่งมันน่าหดหู่มากๆ เลยล่ะค่ะ ใครจะรู้ว่าคนที่พิมพ์ข้อความนี้ อาจเป็นน้องสาว หรือเพื่อนสนิทของเราเองก็ได้ TT_TT

อารมณ์ความรู้สึกเป็นสิ่งที่ซับซ้อน หลายอย่างไม่สามารถแก้ได้ด้วยวันเดียว บางคนต้องใช้เวลาฟื้นฟูตัวเองเป็นเดือน เป็นปี แต่คนที่ไม่รู้สาเหตุของความรู้สึกดำดิ่งนี้ เขาอาจตกอยู่ในวังวนความเศร้าไปตลอดกาล เราคิดว่า ปัญหาจะแก้ได้ถาวร เราต้องรู้สาเหตุของมันก่อน บทความวันนี้ เราจึงหาความรู้เกี่ยวกับ ' 7 สาเหตุของความรู้สึกเคว้งคว้างในชีวิต ' ที่เธออาจคิดไม่ถึง หรือมองข้ามไป เพื่อจะได้สำรวจตัวเอง และขอความช่วยเหลือได้ทันเวลาค่ะ
เพราะเราไม่อยากให้มีเคสไหนที่มีคนต้องจากไปอีกแล้ว…..
เรามาดู 7 สาเหตุนี้ไปพร้อมๆ กันค่ะ

✧ 1. ไม่มีคนสนิทคอยซัพพอร์ต ถูกทิ้งให้สู้อยู่คนเดียว

คนเราจะมีสุขภาพจิตดีได้ ขึ้นอยู่กับ ' คนรอบข้าง ' ล้วนๆ เลยค่ะ หากพ่อแม่ เพื่อนสนิท ครูอาจารย์ของเราส่งต่อทัศนคติดีๆ คอยช่วยเหลือ ให้คำปรึกษาเราเสมอ รู้จักตัวตนของเราเป็นอย่างดี เราจะไม่รู้สึกอ้างว้างโดดเดี่ยว รู้สึกปลอดภัย มีคุณค่าในตัวเอง แม้ในช่วงนั้นเรากำลังเผชิญปัญหาหรืออุปสรรคอะไรอยู่ ถ้าเรามีคนสนิทที่คอยซัพพอร์ต ทำให้เรารู้สึก ' ปลอดภัย ' เราก็จะผ่านช่วงนั้นไปได้อย่างชิลล์ๆ
แต่ถ้าเราไม่มีใครในชีวิตเลยล่ะ….. ก็ไม่ต่างกับยืนอยู่ปากเหวคนเดียว จะทำอะไรก็กลัวไปหมด จากปัญหาที่ควรจะก้าวผ่านไปง่ายๆ มันจะดูใหญ่กว่าความเป็นจริงโดยไม่รู้ตัว ความเศร้าก็เพิ่มมากขึ้น บางคนก็ยิ้มกลบเกลื่อนกับคนภายนอกว่าไม่มีอะไร แต่ร้องไห้อยู่ในห้องคนเดียว ไม่มีคนให้ไปปรึกษา ซึ่งเชื่อเถอะว่านั่นเป็นสถานการณ์ที่แย่มากจริงๆ ค่ะ
เราแนะนำว่าให้หาคนที่เรา ' พอจะไว้ใจได้ ' ไว้สักคนสองคน ( คงหาไม่ได้ง่ายๆ แต่อยากให้ลองหาดู ) ไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องทางสายเลือด อาจเป็นเพื่อนหรือครูสักคน หรือถ้าไม่มีจริงๆ ไปหานักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์ ที่เราสามารถเล่าเรื่องหรือจุดอ่อนในชีวิตให้เขาฟังได้**ก็ช่วยแบ่งเบาภาระในใจได้ระดับหนึ่ง และอาจได้คำแนะนำดีๆ ในการใช้ชีวิตต่อกลับมาด้วยนะ

✧ 2. ขาดทักษะสื่อสารที่ดี บอกความต้องการให้คนอื่นฟังไม่ได้

บางครั้ง เวลาเราเจอเรื่องเศร้ามากๆ ยิ่งถ้าไม่ใช่คนพูดเก่ง สื่อสารความต้องการในใจให้คนอื่นฟังไม่เป็นอยู่แล้วด้วย หลายคนก็ปิดกั้นตัวเองจากโลกภายนอกไปเลย ซึ่งอาจจะก่อตัวกลายเป็นโรคซึมเศร้าได้ในภายหลัง ความเศร้าที่กลายเป็นโรคมักไม่ได้ก่อเกิดขึ้นข้ามคืน แต่ฝังอยู่ในใจเราเป็นปีๆ ไม่กล้าบอกคนอื่นเพราะกลัวเขาไม่ฟัง กลัวถูกปฏิเสธ เลยเลือกเก็บไว้คนเดียวจนบางครั้งมาระเบิดอีกที ก็อาจจะสายไปแล้วก็ได้…
เพราะความต้องการของมนุษย์มีมากกว่าอาหาร ที่อยู่อาศัย เสื้อผ้า และยารักษาโรค เรายังต้องการความรัก ความเข้าใจ ความอบอุ่นและความหวัง ดังนั้นเราไม่สามารถอยู่ตัวคนเดียวบนโลกใบนี้ได้ สาวๆ ควรจะต้องฝึก ' ทักษะการสื่อสาร ' กับคนอื่นๆ ไว้ เพราะในหลายปัญหา แค่เรารู้จักบอกความต้องการของตัวเอง กล้าที่จะระบาย กล้าที่จะพูด ปัญหาก็จบลงได้อย่างง่ายดาย
ลองเขียนแพลนง่ายๆ ให้ตัวเองว่า ปัญหาของเธอคืออะไร เป้าหมายในการแก้ปัญหาคืออะไร คนรอบข้างจะช่วยอะไรเธอได้บ้าง แล้วเขียนเป็นจดหมายง่ายๆ ขึ้นมา อย่างน้อยถ้าไม่กล้าพูด หาคนที่ไว้ใจได้แล้วยื่นจดหมายนี้ให้เขา เราเชื่อว่าเขาจะไม่นิ่งเฉย และเธอจะได้รับความช่วยเหลืออย่างที่ควรจะเป็นค่ะ

✧ 3. ตัวตนขาดหาย สูญเสียความเป็นตัวเอง ไม่รู้ว่าเราคือใครกันแน่

ปัญหานี้สาวๆ ยุคใหม่เป็นกันเยอะ การที่รู้สึกเคว้งคว้าง สูญหาย ไม่รู้ว่าตัวตนจริงๆ ของตัวเองคืออะไร บางคนได้ลองทำหลายอย่าง เก่งหลายทักษะ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองไปไหนต่อ ลงเอยด้วยความสับสนและเป็นภาวะซึมเศร้าเรื้อรัง หลายคนอยากเก่งให้เหมือนกับที่คนภายนอกมองเข้ามา เมื่อเก่งไม่ได้อย่างที่หวังก็กดดันตัวเองจนเป็นความเครียด และอาจมีจิตใจผิดปกติได้ในภายหลังค่ะ
เมื่อเธอต้องใส่หน้ากากเป็น ' คนอื่น ' ในการใช้ชีวิต ไม่สามารถเป็นตัวเองจริงๆ ได้ เธอก็จะไม่มีวันได้ค้นหาตัวเอง ได้เจอตัวเองหรือเข้าใจคนอื่น ไม่สามารถประสบความสำเร็จหรือมีความสุขได้อย่างแท้จริง เมื่อมีคนมาปรึกษาอะไร เธอจะรู้สึกเฉย ด้านชา กลายเป็นคนไร้หัวใจไปในที่สุด
ดังนั้นขั้นแรกคือ เธอต้องถอดหน้ากากคนอื่นนั้นทิ้งซะ แม้ว่าจะยากแค่ไหนก็ตาม อาจจะเจอคำดูถูก นินทาครหาจากคนรอบข้างบ้าง ก็อย่าไปฟัง เราต้องเคารพตัวเอง พยายามตามหาความฝันและเป้าหมายของตัวเองให้เจออาจไม่ใช่เวลาอันสั้น แต่ถ้าได้เปิดใจแล้ว ในที่สุดเธอจะรู้ว่าตัวเองเป็นใคร และนำมาซึ่งความสุขที่มั่นคงไปตลอดชีวิตอย่างแน่นอนค่ะ

✧ 4. ผ่านเหตุการณ์ยากลำบากสุดๆ ในชีวิตมา

สาวๆ หลายคนที่เคว้งคว้าง หาทางออกในชีวิตไม่ได้ มักเจอเรื่องร้ายแรงมากๆ ในอดีตมาก่อน เช่น การสูญเสียของคนในครอบครัว การเป็นโรคร้ายแรง ครอบครัวติดหนี้ก้อนใหญ่ โดนกระทำล่วงละเมิดทางเพศ etc.ซึ่งทำให้ตัวตนของเราขาดหายไป ต้องใช้เวลาฟื้นฟูตัวเอง ซึ่งไม่ใช่ทุกคนที่กลับมาสมบูรณ์ จึงไม่แปลกที่คนเหล่านี้จะวางแผนให้ตัวเองไม่ค่อยได้ ไม่รู้จะไปไหนต่อดี
ถ้าเธอเป็นเหมือนสาวๆ ในข้อนี้ เราขอแตะบ่าปลอบใจ และขอให้เธอใช้เวลาเยียวยาตัวเองต่อไป ไม่จำเป็นต้องรีบ อาจจะหลายเดือน หลายปี แต่ละคนเจอปัญหามาหนักหนาไม่เท่ากัน ต้องให้เวลาต่างกันความเศร้าที่โหดร้ายอาจจะตามมากัดกินใจอยู่เรื่อยๆ ก็ไม่จำเป็นต้องทำให้มันหายวับไปในวันเดียว ถ้าความเศร้าเป็นปีศาจตัวโต เราแค่ลดขนาดมันลงมาให้เล็กลงเรื่อยๆ ก็ถือว่าเก่งมากแล้ว
ความจริงที่โหดร้ายคือ ความเศร้าจากเหตุการณ์ครั้งนั้นอาจไม่มีวันหายไป มันอาจอยู่กับเธอไปตลอดชีวิต แต่อย่างน้อยเธอได้เปิดพื้นที่ว่างให้ ' ความรู้สึกอื่นๆ ' ได้เข้ามามากขึ้น เจ็บปวดน้อยลงแต่มีความสุขมากขึ้น ใจดีกับตัวเองให้มากๆ แต่ไม่ต้องรีบจนเหนื่อย ค่อยๆ เติบโตไปนะคะ~

✧ 5. ไม่มีทิศทาง เป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจน ล่องลอยไปเรื่อยๆ

สาวซิสบางคนเป็นไทป์ที่เรียกว่า ' กลางๆ ' ไม่โดดเด่น ยังไงก็ได้ ทำอะไรก็ได้แต่ไม่สุดสักอย่าง ยิ่งในสถานการณ์บ้านเมืองที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ แถมตัวเองก็ไม่ใช่ expert ที่ยังไงก็มีคนมาดึงตัว ย่อมเครียดและค้นหาทางไปต่อในอนาคตไม่เจอ ไม่รู้ว่าจะเดินไปทางไหน ถึงตัดสินใจเลือกแล้วก็ยังไม่รู้ว่าควรเดินไปจนสุดทางไหม ง่ายๆ คือไม่มีเป้าหมายชีวิตที่ชัดเจน บางคนก็ถึงขั้นล่องลอยไปเรื่อยๆ ไม่ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยก็มี
บางที อาจถึงเวลาที่ต้องหยุดลังเล เธอต้อง ' เลือก ' สักทาง แล้วทุ่มสุดตัวเพื่อทางเลือกนั้นได้แล้ว ถ้าทุกทางเหมือนกันไปหมด ก็ขอให้เลือกทางที่เธอ ' มีความสุข ' กับมันมากที่สุด แล้วลุยกับมันให้เต็มที่!! บางทีปลายทางอาจไม่ใช่อย่างที่ฝัน เธออาจจำเป็นต้องเปลี่ยนสายอีกครั้ง แต่เธอก็ได้ตกผลึกกับตัวเองมากขึ้น อย่างน้อยก็ได้รู้แล้วว่า 'เธอไม่ชอบอะไร ' ยังไงล่ะ

✧ 6. ถูกระบบในสังคม 'กดขี่' จนท้อแท้ สิ้นหวังในชีวิต

เชื่อว่าสาวซิสเกินครึ่งของประเทศเข้าใจข้อนี้ดี! ( เราก็หนึ่งในนั้น… ) กับระบบหลายอย่างในประเทศที่ส่งผลกับชีวิตของเรา บางอย่างก็เป็นสิ่งที่เราคนเดียวกำหนดเองไม่ได้ ไม่ว่าจะเศรษฐกิจ ความยากจน อาชญากรรม ความอยุติธรรมในสังคม พวกเธออาจรู้สึกว่าสิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้มันแย่ แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว แต่อย่างน้อยที่สุด ( ในตอนนี้ ) ที่ยังพอทำได้ก็คือ ' ปรับมุมมอง ' ให้คิดบวกขึ้นค่ะ
เราไม่ได้เลือกจะเป็นแบบนี้ แต่เรามองให้เหตุการณ์นี้ทำร้ายเราน้อยลงได้ คิดรอบๆ ด้าน มองหลายๆ มุมว่าเราได้ข้อคิด บทเรียนอะไรจากสถานการณ์ปัจจุบันบ้าง เราจะวางแผนหรือมีแนวคิดยังไงไม่ให้มันเกิดขึ้นซ้ำรอยอีกอันไหนเราแก้ด้วยตัวเองได้ก็ทำ แต่อันไหนที่เกินกำลังก็ไม่ต้องไปฝืน เท่านี้เราก็จะมีความสุขมากขึ้นอีกเยอะเลยค่ะ

✧ 7. อาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของ 'โรคซึมเศร้า' #อย่านิ่งนอนใจ

สำหรับบางคน ภาวะซึมเศร้า กินไม่ได้นอนไม่หลับ เคว้งคว้างหาทางออกให้ตัวเองไม่เจอที่ทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ ทำยังไงก็ไม่ยอมหาย ความคิดดำมืดเหมือนอุโมงค์ที่หาทางออกไม่เจอ จนเริ่มส่งผลเสียทั้งการเรียน ความรัก ครอบครัว ขอให้สังเกตตัวเองไว้ก่อนว่าอาจเป็นอาการเริ่มต้นของ ' โรคซึมเศร้า ' อย่างจริงจังซึ่งเราแนะนำให้ไปปรึกษาจิตแพทย์อย่างไวที่สุด อย่าปล่อยทิ้งไว้นาน ก่อนที่จะสายเกินไปนะคะซิส
อย่าไปเชื่อพวกคำแนะนำที่ว่า โรคซึมเศร้าแค่นั่งสมาธิก็หาย เพราะเขาเป็น ' โรค ' ที่เกี่ยวกับสารเคมีในสมองไม่สมดุล ต้องรักษาด้วยยาและการปรับความคิด ซึ่งทั้งหมดควรต้องดำเนินการโดยแพทย์ อย่ารักษาตัวเอง ความเศร้าจะไม่หายไปไหน แต่กัดกินใจมากขึ้น เป็นปีศาจที่ตัวใหญ่ขึ้นจนสภาพจิตใจของเธอพังทลาย จนลามไปถึงสภาพร่างกายด้วย รายที่หนักๆ อาจถึงแก่ชีวิต TT บางทีเลิกเข้มแข็งบ้างแล้ววิ่งหาความช่วยเหลือก็ไม่ใช่เรื่องแย่หรอกนะ 
เพราะเป็นโรคที่มาจากสภาพจิตใจ แน่นอนว่าจะไม่ได้ฟื้นฟูภายในวันเดียว ต้องใช้เวลาพอสมควร และต้องทุ่มเทกับการรักษาอย่างเคร่งครัดถ้าอยากหายไวๆ ขอให้สาวซิสอดทน และทำตามกระบวนการ กินยา พบหมอตามนัดทุกครั้งพาตัวเองให้มาเจอสภาพแวดล้อมดีๆ อย่าให้คน toxic มาอยู่ใกล้ชีวิต เราเชื่อว่าในวันหนึ่ง โรคนี้จะหายได้ค่ะ เราเป็นกำลังใจให้ _

อยากให้เธอยิ้มได้แบบนี้ <sup>-</sup>
อยากให้เธอยิ้มได้แบบนี้ -

------------------------------------------------
ที่เขียนบทความมาทั้งหมด ก็อยากให้สาวๆ ที่กำลังเกิดภาวะซึมเศร้า รู้สึกดิ่งๆ ในชีวิตได้ไปลองทำตามกันนะคะ เราอยากให้พวกเธอรู้ทันความคิด จิตใจของตัวเองให้มากๆ เพราะจิตใจมนุษย์น่ะซับซ้อน คนอื่นไม่รู้หรอกว่าในใจเราคิดอะไรอยู่ แม้จะกับคนสนิทมากๆ ก็ใช่ว่าเขาจะรู้ทุกอย่าง แต่เขาพร้อมให้ความช่วยเหลือและให้ความรักกับเธอแน่นอน เพียงแค่เธอกล้าเอ่ยปาก กล้าเป็นฝ่ายเข้าหาเท่านั้น
เธอจะรู้ว่า เธอไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลกใบนี้ ยังมีอีกหลายคนบนโลก ( แม้ในโลกโซเชียลที่อาจไม่รู้จักตัวจริงกัน ) เป็นห่วงและอยากให้เธอมีชีวิตที่ดีเสมอ ไม่ว่าเธอจะเจออะไรอยู่ ขอให้เธอก้าวผ่านมันไปได้ ไม่ต้องมีชีวิตที่สวยหรูเพอร์เฟกต์ 100% ก็ได้ แค่ผ่านไปได้ก็เก่งมากแล้ว เราเองก็ขอเป็นอีกคนที่จะเชียร์อยู่ไกลๆ อยากให้สาวซิสทุกคนมีความสุข วันนี้ไปก่อนแล้วน้า บ๊ายบาย (.❛ ᴗ ❛.)

ติดตามบทความใหม่ๆได้ที่ SistaCafe Facebook
SistaCafe เว็บไซต์รวบรวมบทความสำหรับผู้หญิง https://sistacafe.com
♥ ดาวน์โหลด App SistaCafe ฟรีได้แล้ววันนี้! ♥
iOS : AppStore
Android : PlayStore

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0