13 ม.ค. 2568 - ผู้สื่อข่าวจังหวัดสงขลารายงานว่า หลายพื้นที่ต้องเผชิญกับสภาพอากาศแปรปรวนอย่างหนักคลื่นลมในทะเลมีกำลังแรงขึ้น ชาวบ้านซึ่งมีบ้านอยู่ติดชายทะเลได้รับความเดือดร้อน เช่น หมู่ 8 ต.เกาะแต้ว อ.เมืองสงขลา ซึ่งเป็นชุมชนชาวเลดั้งเดิมของที่นี่ ขณะนี้มีบ้านเรือนชาวบ้านราว 10 หลังคาเรือนที่อยู่ติดริมทะเล ถูกคลื่นซัดขึ้นมาถึงตัวบ้าน บางหลังคลื่นเริ่มคลื่นถล่มชายฝั่งกัดเซาะดินหน้าบ้าน จนบางครอบครัวไม่กล้าอยู่อาศัยภายในบ้านเพราะกลัวว่าคลื่นจะซัดบ้านพังเสียหาย และบางหลังกระเบื้องหลังคาถูกลมพัดปลิวเนื่องจากทั้งคลื่นทั้งลมแรงมาก
ชาวบ้านที่นี่บอกว่าเดือดร้อนมากกลัวว่าบ้านจะถูกคลื่นซัดบ้านพังและไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหนเพราะไม่มีที่บ้าน ตรงนี้เป็นบ้านดั้งเดิม สวนถนนก็ขาดจนไม่เห็นถนนแล้ว หากบ้านพังคงต้องไปอาศัยบ้านเช่า พร้อมกับเรียกร้องให้แก้ปัญหาระยะยาวโดยการสร้างเขื่อนกั้นคลื่น เพื่อป้องกันคลื่นซัดบ้านชาวบ้านเสียหาย และชาวบ้านในบริเวณนี้ได้มีที่อยู่อาศัยและออกทะเลหาปลาได้เหมือนเดิม อย่างเช่นบ้านของ นายเจ๊ะมะแอ การดี กับไหวบ๊ะ หมัดเด็น คลื่นซัดดินทรายถึงที่รั้วบ้านแล้ว จึงขอความช่วยเหลือให้เจ้าหน้าที่รีบมาแก้ปัญหา โดยนายเจ๊ะมะแอ กล่าวว่า หากเจ้าหน้าที่ได้นำหินขนาดใหญ่มาถม จะสามารถป้องกันคลื่นกัดเซาะก่อนที่จะมาถึงบ้านต้วเองกับอีก 9 หลังคาเรือน จะได้ไม่ต้องย้ายไปอยู่ที่อื่น
เบื้องต้นทางปลัดอำเภอเมืองสงขลาได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์และความเดือดร้อนของชาวบ้านและเร่งรายงานให้ทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือเฉพาะหน้าอย่างเร่งด่วนแล้ว
อย่างไรก็ตาม ไม่เฉพาะพื้นที่หมู่ 8 ต.เกาะแต้ว อ.เมืองสงขลา ที่ได้รับผลกระทบจากคลื่นแรง แต่พื้นที่ทั้ง 6 อำเภอของ จ.สงขลา ที่อยู่แนวชายฝั่งทะเลอ่าวไทย ก็เจอกับสภาพคลื่นลมแรง ทั้ง อ.ระโนด สทิงพระ สิงหนคร เมือง จะนะ และอ.เทพา ชาวประมงพื้นบ้านต้องหยุดออกเรือชั่วคราว.