โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

เรื่องสั้น

เกิดใหม่ฉันจะเป็นเมียเด็กคุณชายผู้เอาแต่ใจ

นิยาย Dek-D

อัพเดต 27 เม.ย. เวลา 01.04 น. • เผยแพร่ 27 เม.ย. เวลา 01.04 น. • แม่เจ้าต้มยำ
เกิดใหม่ฉันจะเป็นเมียเด็กคุณชายผู้เอาแต่ใจ
ดีไซน์เนอร์สาวผู้มาเกิดให้ในร่างเด็กสาวที่ถูกพ่อแท้ๆกับแม่เลี้ยงรังแก เธอหนีออกมาตั้งหลักใหม่เดินตามความฝันอีกครั้งโดยมีเขา ที่คอยช่วยเหลือตลอด

ข้อมูลเบื้องต้น

“งานแฟชั่นโชว์จะเริ่มอีก 1 ชั่วโมงคุณลดาจะทันเปิดงานไหมค่ะ” แองจี้ผู้ช่วยลดาโทรตามเจ้านายสาว กับการเปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ในแบรนด์เสื้อผ้าลดา

“ทันสิยังไงก็ต้องทัน เดี๋ยว ฉันจะหาที่จอดรถ นั่งวินต่อแองจี้เตรียมรอเปิดงานได้เลยน่ะ”

“ค่ะ คุณลดา สู้สู้ น่ะคะ ระวังตัวตัว”

ลดาหาที่จอดรถไว้ที่จอดรถหน้าห้างดัง ลดาที่พึ่งเรียนจบด้านแฟชั่นจากเมืองนอกเธอเคยร่วมงานกับแบรนด์ดังๆมาแล้ว เธอกลับมาประเทศเพื่อทำแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเองที่กำลังจะเปิดตัวในวันนี้ แต่เพราะต้องรับกลับมาเอาชุดที่ออกแบบตัดเย็บเสร็จที่ห้องตัดเย็บที่บ้านเธอจึงต้องรีบไปให้ทันงานเริ่ม

เธอมอบชุดเสื้อวิ่งข้ามถนน ในขณะที่สัญญาณไฟแดงขึ้น แต่ก็มีรถบรรทุกที่วิ่งฝ่าไฟแดง

เอี๊ยด!…โครม!……

*****ที่มาของ"ซุนหมิงเล่อ"พระเอกจอมงอแง อ่านเพิ่มเติมได้ที่ "ซุนหมิงหลัน" วาสนานี้ฉันรับมันไว้เอง ได้เลยคร้า

จากลดาเป็นจางเวยเวย

“งานแฟชั่นโชว์จะเริ่มอีก 1 ชั่วโมงคุณลดาจะทันเปิดงานไหมค่ะ” แองจี้ผู้ช่วยลดาโทรตามเจ้านายสาว กับการเปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ในแบรนด์เสื้อผ้าลดา

“ทันสิยังไงก็ต้องทัน เดี๋ยว ฉันจะหาที่จอดรถ นั่งวินต่อแองจี้เตรียมรอเปิดงานได้เลยน่ะ”

“ค่ะ คุณลดา สู้สู้ น่ะคะ ระวังตัวตัว”

ลดาหาที่จอดรถไว้ที่จอดรถหน้าห้างดัง ลดาที่พึ่งเรียนจบด้านแฟชั่นจากเมืองนอกเธอเคยร่วมงานกับแบรนด์ดังๆมาแล้ว เธอกลับมาประเทศเพื่อทำแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเองที่กำลังจะเปิดตัวในวันนี้ แต่เพราะต้องรับกลับมาเอาชุดที่ออกแบบตัดเย็บเสร็จที่ห้องตัดเย็บที่บ้านเธอจึงต้องรีบไปให้ทันงานเริ่ม

เธอมอบชุดเสื้อวิ่งข้ามถนน ในขณะที่สัญญาณไฟแดงขึ้น แต่ก็มีรถบรรทุกที่วิ่งฝ่าไฟแดง

เอี๊ยด!…โครม!……

“โอ๊ย..อะไรว่ะเนี้ย ที่ไหนเนี้ย”ลดา ตื่นขึ้นมาใน ห้องแคบเหม็นอับ ที่นอนเก่าๆแข็งๆสำรวจตัวเอง ตามตัวมีบาดแผลหลายแห่ง เสื้อผ้าสีซีด บ่งบอกว่าผ่านการใช้งานมามากเท่าไหร่

จากนั้นความจำของร่างเดิมก็เข้ามาในหัวของเธอเด็กสาวอายุ14ปี ชื่อจางเวยเวย ตอนอายุ 5ขวบแม่เธอตกน้ำตาย จางเว่ยพ่อของเธอทำงานโรงงานเหล็กในเมือง เมื่อ 3ปี ก่อน พ่อเธอพาน้าเฟยจง พร้อมเฟยลี่จูลูกสาวที่อายุเท่ากันกับเธอที่เข้ามาอยู่ในบ้าน บอกเป็นแม่เลี้ยงกำลังท้องอยู่ให้เธอช่วยดูแล ตอนแรกแม่เลี้ยงก็ดูแลเธอดี แต่พอคลอดลูกสาว ออกมา เธอก็กลายเป็นคนใช้ในบ้าน ทำทุกอย่างในบ้าน ถูกไล่ให้มาอยู่ห้องใต้บันได พูดใส่ร้ายเธอ พ่อเธอก็หลงเชื่อ ทุบตีเธอ พ่อจึงหันไปรักดูแลแม่เลี้ยงกับลูกคนเล็ก แม้แต่ลูกเลี้ยงยังได้รับการดูแลที่ดีกว่าเธอ

มีครั้งหนึ่ง แม่เลี้ยงอุ้มน้องสาว จางเหมยลี่ ไปเล่นไพ่ในหมู่บ้าน วิ่งหนีตำรวจที่บุกจับ วิ่งหนีไม่เอาลูกสาวมาด้วย กลับบอกจางเว่ยว่า เวยเวยอาลูกสาวเธอไปทิ้ง กว่าจะตามตัวได้ก็มือค่ำ จางเว่ยก็ทุบตีเวยเวยอย่างหนัก

“อะไรว่าเนี้ย เวยเวย ชีวิตเธอนี่บันเทิงดีแท้ แม่เลี้ยงก็ชั่ว พ่อก็โง่อีก ดีน่ะที่ชิงตายไปเสียก่อน” ลดาบ่นยืดยาว ชีวิตก่อนเธอทำแบรนด์เสื้อผ้า สู้ชีวิตมาได้ ไม่ลำบาก

“เทวดาทั้งหลายท่านแกล้งฉันดีแท้ ฉันก็แค่เคยขอพร ขอคู่ แล้วท่านส่งฉันมาที่ไหนเนี้ย” เคยอ่านนิยาย คนอื่นเขาทะลุมิติมาแล้วฉันฉันอะไรมาก อย่าบอกน่ะว่าท่านลำอียง

“นังเวยเวย แกออกมาทำกับข้าวเลยน่ะ นอนกินบ้านกินเมืองอยู่ได้” เฟยจงตะโกนเสียงดังอยู่หน้าห้อง

“นั่งไง มาครบ แม่เลี้ยงในนิยายโดยแท้”

“ได้ๆค่ะ แป๊บนึงค่ะ ไปเดี๋ยวนี้แหละ”

เวย เวยใช้ชีวิต แบบนี้มาอีกหลายวัน แต่พยายามคิดว่าจะออกไปจากที่นี่ได้ยังไง หวังพึ่งพ่อของเจ้าของร่างเดิมดูเหมือนว่าจะไม่มีทางเป็นไปได้

“พี่จางเว่ย วันนี้เถ้าแก่ตงหู่พ่อค้าขายหมูที่ตลาดมาสู่ขอลูกสาวพี่ ฉันจะให้เวยเวย แต่งงานออกไป รับรองลูกพี่ต้องอยู่สุขสบายในเมืองแน่นอน”

“แต่ลูกพึ่งจะอายุ 14เองน่ะ เธอไม่กลัวชาวบ้านจะนินทาครอบครัวเราหรอ”

“ทำไมจะไม่ได้ล่ะในเมื่อพ่อแม่อย่างเรายินยอม ใครจะกล้ามานินทา ว่าร้ายฉันจะจัดการมันเอง”

“แต่….”

พี่ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว หรือพี่จะให้ลูกสาวพี่อยู่คอยกลั่นแกล้งฉันกับลูกไปตลอดแบบนี้ ไม่รู้ละฉันรับเงินเขามาแล้ว เขาให้สินสอดตั้ง สามพันหยวนเลยน่ะ”

จางเว่ยคล้อยตามคำพูดของภรรยา ไม่ใช่ว่าเขาไม่รักเวยเวย แต่ตลอดที่ผ่านมาเขาเชื่อภรรยาที่คอยบอกว่าเวยเวยคอยกลั่นแกล้งภรรยากับลูกเลี้ยงสารพัด เขาจึงคิดว่า

“ดีเหมือนกันให้เวยเวยไปอยู่ที่อื่นครอบครัวเขาจะได้สงบสุขอย่างน้อยก็พ่อค้าขาหมูนั่นก็ร่ำรวย”

เวยเวยที่แอบฟังพ่อคุยกันกับแม่เลี้ยง ก็ได้แต่สงสารเจ้าของร่างเดิม

“เวยเวย โชคดีแล้วที่เธอชิงตายไปเสียก่อน เธอไม่ต้องห่วงหรอก ฉันจะเอาคือครอบครัวนี้ให้เธอเอง”

เย็นวันนั้น จางเว่ย เรียกเวยเวยเขามาบอกเรื่องแต่งงาน เขาคิดว่าเวยเวย ต้องโวยวาย ร้องห่มร้องไห้แน่น แต่ผิดคลาด เธอนิ่งเงียบไม่พูดจา

“แกเตรียมเก็บของ ให้เรียบร้อย อีก 3 วันเถ้าแก่ตงจะมารับ”

“เก็บอะไร เสื้อผ้า 3ชุดที่ รองเย็บเต็มไปหมดนั่นน่ะเหรอ”

จางเว่ยสะดุดกับคำพูดของลูกสาวตัวเอง เขาไม่ทันได้สังเกต ภรรยากับลูกสาวคนเล็กแม้กระทั่งลูกเลี้ยง ใส่เสื้อผ้าใหม่ สวยงามแต่กับเวยเวย เสื้อผ้าสีซืด เก่ารอยปะชุนเต็มไปหมด

“อย่ามาเถียงฉัน ฉันให้ทำอะไรก็ทำ”

“ได้ ฉันจะออกไปจากบ้านนี้ก็ได้ แต่คุณ ต้องเขียนหนังสือตัดขาดให้ฉัน ต่อไปนี้ฉันกับคุณไม่ได้เกี่ยวข้องกัน”

ทันทีที่พูดจบ จางเว่ยก็ตบหน้าเวยเวย อย่างแรง เธอหันมามองหน้าจางเวย ด้วยสายตาว่างเปล่า ไม่ใช่สายตาของคนเป็นลูกที่มองพ่อของตัวเองด้วยซ้ำ

เวยเวย เดินเข้าห้องเก็บของที่ใช้เป็นห้องของตัวเอง เธอไม่ได้เจ็บแค้นที่จางเว่ยตบหน้าเธอ เพราะเธอไม่ใช่ลูกของเขา แต่เธอสังเวชกับความโง่ จนทำร้ายลูกสาวตัวเองจนตาย

เธอตัดสินใจที่จะหนีจากที่นี่ ไม่รู้หรอกว่าอนาคตจะเป็นยังไง ดีกว่าจะต้องไปเป็นเมีย คนแก่คราวพ่อแบบนี้ รับสินสอดเขามาแล้ว ก็ให้ลูกสาวเธอแต่งไปเองละกัน นังแม่เลี้ยงชั่ว

เวยเวยลื้อข้าวของในห้องหากล่องมาใส่เสื้อผ้าที่มีไม่กี่ตัว ของเธอ เธอก็เจอกล่องใบหนึง เธอคิดได้ในความทรงจำของเธอ คนเป็นแม่ให้ไว้ ล็อคกุญแจเอาไว้อย่างดี เธอจำได้ว่าเธอมีลูกกุญแจที่ สงสัยว่ามันคือกุญแจอะไร เมื่อนำมาไข เธอก็ตกใจมาก

“นี่สมบัติของแม่เจ้าของร่างเดิม เป็นโฉนดที่ดิน บ้านที่อาศัยอยู่ ที่ชื่อในโฉนดเป็นถังเวยหลิน แล้วยังมีสลักไว้หลังโฉนด ว่ายกให้เธอ เวยเวยนอกจากนี้ยังมีเงินอีก500หยวน เธอดีใจมาก สิทธิ์เจ้าของบ้านเป็นของเธอ แต่ถ้าเธอลูกขึ้นมาทวงสิทธิ์ตอนนี้ ที่เธอยังเด็กจำเป็นต้องมีผู้ปกครองอยู่ดีไม่ดี เธอจะเสียบ้านไปให้คนชั่วพวกนั้นเธอต้องวางแผนให้รอบคอบกลับมาเอาคืนก็ยังไม่สาย เงินเท่านี้มันก็เพียงพอที่จะทำให้เธอหนีออกจากที่นี่ได้แล้ว

“สู้โว้ย”

จดหมายถึงพ่อ

เช้าวันต่อมา เวยเวย ตื่นแต่เช้า วันนี้เธอไม่ลุกขึ้นมาทำกับข้าว ให้คนอื่นๆ เหมือนอย่างที่เคย เธอรีบออกจากบ้านไปที่บ้านหัวหน้าหมู่บ้าน
“ลุงเฉิน ลุงเฉิน อยู่ไหมคะ”
“อ้าว เวยเวย มาแต่เช้าเลย ลุงอยู่หลังบ้าน เข้ามาก่อน เข้ามาก่อน วันนี้ไม่ไปเรียนเหรอ”
“ไม่ได้ไปค่ะป้าเฉิน พ่อเขาให้หนูเลิกเรียนแล้วค่ะ” เวยเวยก้อมหน้าลงให้ดูน่าสงสารเธอมาที่นี่เพื่อขอความช่วยเหลือเธอต้องทำตัวให้ให้ผู้ใหญ่เมตตาที่สุด
“อะไรกัน จางเว่ยนี่ มันหน้ามืดตามัว หลงเมียจนแยกผิดถูกไม่ออกเลยเหรอ ลูกเลี้ยงส่งเรียนในเมื่องไปรับไปส่งอย่างดี มันก็เกินไปแล้วนี่ลูกสาวจะให้เลิกเรียนอีกเหรอ”
“ใครมากัน อ้าวเวยเวย มีอะไรจะคุยกับลุงเหรอ”
เวยเวย เริ่มเล่าเรื่องที่ลูกแม่เลี้ยงใส่ร้ายเธอให้พ่อฟัง พ่อเชื่อแม่เลี้ยงโดยไม่ถามเธอ ทุบตีเธอบ่อยๆ พร้อมเอารอยบากแผลทั้งแผลเก่าแผลใหม่ ให้หัวหน้าหมู่บ้านดู รวมถึงเรื่องที่แม่เลี้ยงขายเธอให้พ่อค้าขายหมู ในตัวอำเภอ เธอร้องไห้ บีบน้ำตาให้น่าสงสารมากยิ่งขึ้น
“เฮ้ย จางเว่ยมันจะชั่วเกินไปแล้ว เวยเวย หลานมีอะไรให้ลุงช่วยบอกมาได้เลย ลุงกับป้าเป็นเพื่อนกับแม่หลาน เห็นหลานมาตั้งแต่เด็ก ย่อมรู้นิสัยหลานดี”
“ผิด กับคนเป็นพ่อที่แม้แต่ลูกแท้ๆ ก็ไม่รู้จัก”
“หนูอยากหนีไปจากที่นี่ค่ะ แต่ติดที่เอกสาร หนูไม่อยากมีปัญหาทีหลัง หนูอยากได้หนังสือตัดขาด จากพ่อ ไม่ใช่ว่าหนูไม่รักเขานะคะ แต่หนูไม่อยากมีปัญหากับแม่เลี้ยงและลูกของเธอในอนาคต”
“ป้าเห็นด้วยกับหลานน่ะ แต่หลานจะไปอยู่ที่ไหนยังเด็กอยู่มันอันตราย”
“แรกๆ หนูจะไปอยู่กับป้าเพื่อนแม่ที่หูหนาน ชั่วคราวจนกว่าจะขยับขยายได้ค่ะ” เธอโกหกไปเพราะกลัวว่าจะถูกห้ามไว้เสียก่อน
“ได้ๆ ลุงจะออกใบเปลี่ยนสกุลให้ หลานเอาไปแจ้งที่ว่าการหูหนานได้เลย ส่วนหนังสือตัดขาด ลุงจะให้ จางเว่ยลงชื่อให้ได้ แล้วจะให้ลุงเอาไปให้ที่ไหน”
เวยเวย เงียบไปสักพัก
“เอาแบบนี้ละกัน ลุงจะเอาไปฝากไว้กับเพื่อนที่ทำงานที่ว่าการหูหนาน หลานไปถามคนหาแซ่หู่ได้เลย เขาจะจัดการให้หลานเอง แต่หลานต้องบอกที่อยู่ฝากไว้ให้ลุงด้วย เข้าใจใช่ไหม”
“เข้าใจค่ะ ขอบคุณลุงเฉินกับป้าเฉินมากค่ะ”
เธอคลุกเข่าให้ทั้งสองคน พร้อมยื่นจดหมาย ฝากไว้ให้พ่อของเธอ ตอนที่เธอหนีไปแล้วด้วย ทั้งสองก็รับไว้
ที่บ้านจางเว่ย
เช้านี้จางเว่ยลุกขึ้นมาเตรียมไปส่งลูกเลี้ยงและทำงาน เช้านี้ไม่มีอาหารเช้าที่โต๊ะทำให้เขาแปลกใจมาก ปกติเขาจะมากินข้าวเช้ากับภรรยาและลูกเลี้ยง
“อาจง อาหารยังไม่เสร็จเหรอ”
เฟยจงที่ออกจากห้องมายังไม่เห็นอาหารก็โกรธมากลืมตัวจึงเดินไปตะโกนด่าหน้าห้องเวยเวย
“นังเวยเวย แกยังไม่ทำอาหารเช้าอีกเหรอ แกอยากเจ็บตัวใช่ไหม ไม่อยากกินข้าวแล้วใช่ไหม”
“ที่ผ่านมา เวยเวยทำอาหารเช้าเหรอ ไหนเธอบอกว่า เธอกับลี่จูเป็นคนทำ” ภรรยาของเขาบอกว่าเวยเวย มักตื่นสาย ไปโรงเรียนสายจึงเหมาะที่จะเรียนใกล้บ้าน ไม่เหมือนลูกสาวเขา ตื่นเช้าไปเรียนในเมืองถูกต้องแล้ว ซึ่งเขาก็เห็นด้วย
“เออ.. พี่ไม่มีอะไรเหรอแป๊บนึงๆ เดี๋ยวฉันกับลูกรีบทำอาหารเช้าให้”
จางเว่ย กินอาหารเช้าเขาเริ่มแน่ใจแล้วว่าอาหารเช้าที่ผ่านมาเวยเวยเป็นคนทำ เพราะรสชาด ไม่เหมือนกันเลย แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากมาย
วันหนี
เช้าวันนี้ ตงหู่มารับตัวเจ้าสาวแต่เช้า เขาขับรถกระบะที่ใช้ขนหมูประจำเข้ามาในหมู่บ้าน ผ่านหน้าหมู่บ้านไป ทำให้หัวหน้าหมู่บ้านเตรียมตัว ทำตามแผนการที่รับไว้กับเวยเวย
“ลุงขอให้หลานโชคดีน่ะ เวยเวย ขอให้หลานทำสำเร็จรอดพ้นจากขุมนรกขุมนี้ให้ได้เถอะ”
ตงหู่นั่งรออยู่ห้องโถงกับจางเว่ย กับเฟยจง และเฟยลี่จูที่ยิ้มเยาะเย้ย สมน้ำหน้านังเวยเวย
“ขอให้แกไปตกนรกกับตาเฒ่าตงหู่ที่เอาแต่ทุบตีเมียเก่าจนตายไปแล้วเถอะ”
เวยเวย เดินผ่านหน้าคนเหล่านั้นไปด้วยสายตาว่างเปล่า โดยไม่คิดร่ำลาอะไร ทำให้จางเว่ยคนเป็นพ่อ ใจกระตุก “นี่เขาทำอะไรผิดเหรอ เขาแค่ต้องการครอบครัวที่สงบสุข เวยเวยทำให้ครอบครัวร้อน เขาก็แค่ส่งเธอออกไปอยู่ข้างนอก ไปอยู่สุขสบายกับคนร่ำรวยไม่ใช่เหรอ แต่สายตานั่น ที่มองเขา เวยเวยไม่เห็นเขาเป็นพ่ออีกแล้วเหรอ”
เวยเวยที่เดินออกมายืนรอที่รถหน้าบ้าน ทุกคยในห้องโถงเดินออกมาหน้าบ้าน ตอนนั้นเอง ที่ป้าเฉินเดินมาถึง เธอเข้าไปกอดเวยเวย ทั้งคู่กอดกันร้องไห้ ป้าเฉินยื่นเงิน500หยวนให้กับเวยเวย
“ป้าขอให้หลานโชคดีน่ะ หลุดพ้นจากขุมนรกนี้ให้ได้ แล้วป้าจะไปเยี่ยมหนูน่ะ”
“ค่ะป้า” เวยเดินขึ้นรถไม่หันกลับมามองหน้าคนเป็นพ่ออีกเลย
จางเว่ยยืนหน้าเสียน้ำตาคลอ
“พี่ดูลูกสาวพี่สิ พ่อยืนอยู่ตรงนี้ไม่คิดจะร่ำลา กลับไปร่ำลาใจจะขาดกับคนอื่น” เฟยจง
“หึ.. พวกใจมืดบอด จางเว่ยฉันผิดหลังกับแกจริงๆ” ป้าเฉินพูดจบก็เดิน ไปทำตามแผนของสามีที่ให้ตามชาวบ้านมารวมตัวกัน
เย็นวันเดียวกันรถกะบะคันเดิมกลับมาที่บ้านของจางเวย ทันทีที่เข้ามาในหมู่บ้าน หัวหน้าหมู่บ้านและชาวบ้านเกื๊อบทั้งหมู่บ้าน เดินมารวมกันที่บ้านจางเว่ย โดยมีจุดประสงค์เดียวคือทวงความยุติธรรมให้เวยเวย ที่พวกเขาเห็นและรู้การกระทำ ของครอบครัวนี้ที่ทำต่อเวยเวย
บ้านจางเว่ย
เสียงดังโวยวาย ของตงหู่ที่บอกว่าถึงตัวเมืองแล้วเวยเวยขอให้จอดขอตัวไปซื้อของกิน พอเขาเผลอใช้ไม้ตีหัวเขาจนเลือดอาบกว่าจะทำแผลเสร็จก็หาไม่เจอแล้ว จึงย้อนกลับมาเอาเรื่องครอบครัวของจางเว่ย
“ไม่มีคนให้ก็เอาเงินสินสอดฉันคืนมา”
“ได้ยังไงล่ะ แกพาตัวคนออกไปแล้ว พ้นบ้านไปแล้ว ดูแลไม่ดีปล่อยให้หนีไป จะมาทวงเงินได้ยังไง ฉันไม่ให้” เฟยจง
จางเว่ยตกใจที่ลูกสาวหนีไป เขาคิดว่าเขาส่งลูกสาวไปอยู่สุขสบาย แล้วทำไมถึงหนีไปได้
“ไม่มีทางเวย เวย ไม่มีทางหนีไปหรอก แกทำอะไรลูกสาวฉัน บอกมาแกเอาลูกสาวฉันไม่ไว้ไหน” จางเวย
“นี่พี่ยังจะห่วงมันอีกเหรอ ที่เราต้องมาเดือดร้อนนี่ก็เพราะลูกสาวอกตัญญู ของพี่น่ะ”
“แล้วทำไมเธอไม่ให้ลูกสาวเธอแต่งแทนเวยเวยล่ะ ไปอยู่สุขสบายไม่ใช่เหรอ” ป้าเฉินที่เดินเข้ามาพร้อมกับลุงเฉินพร้อมกันชาวบ้านที่ยืนรอกันหน้าบ้าน และเหล่าผู้อาวุโสของผู้บ้านที่ถูกเชิญมา เข้ามานั่งที่ห้องโถงหมู่บ้าน
“มาทำไมที่บ้านฉันกัน ไปให้พ้นเรื่องของบ้านจาง คนอื่นไม่เกี่ยว”
“ดี ดี แกหาเมียได้ดีทีเดียว จางเว่ย”
จางเว่ยตกใจหน้าเสีย ที่ถูกผู้อาวุโสตระกูลจางตำหนิ บอกให้เฟยจง เงียบปากลง
“เอาล่ะที่ฉันมาวันนี้ด้วยเรื่องของเวยเวย” หัวหน้าหมู่บ้านยื่นหนังสือตัดขาด ที่มีลายเซ็นเวยเวย และ ผู้อาวุโสตระกูลจาง และคนอื่นๆ เซ็นไว้รอแล้ว เหลือเพียง จางเว่ยคนเดียวเท่านั้น
“อะไรกัน ทำไมทุกคนทำแบบนี้ เวยเวย เป็นลูกผมน่ะครับ
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า จางเว่ย พูดไม่อายปาก คนเป็นพ่อเขาทำแบบที่แกทำกับลูกเหรอ ทุบตีปางตาย ไม่แม้แต่จะพาไปหาหมอ แล้วนี่ขนาดขายลูกสาวอีก คนเป็นพ่อเขาทำกันแบบนี้เหรอ” ทันที ที่ป้าเฉินพูดจบ เสียงชาวบ้านก็ดังขึ้น
“ใช่ใช่ ใช่ ทำกับลูกเหมือนกับทาส กับคนใช้ ยังบอกว่าเป็นลูก”
“หมา แมว มันยังรักลูกมัน นี่อะไร”
“เห็นไหม เวยเวย ทำงานสารพัด เสื้อผ้าก็ใส่เก่าๆ ขาด รับของเหลือจากลูกเลี้ยง พ่อแบบไหนกัน”
“ไม่ใช่แบบนั้นน่ะ ที่ฉันตีเวยเวย เพราะเธอรักแก แม่เลี้ยง น้องสาวแล้วก็ลี่จู ต่างหาก”
“ใครบอกเธอ ที่พวกเราเห็น มีแต่เฟยจง กับลี่จู ต่างหากที่รังแก เวยเวย”
“ใช่หลงเมีย จนทำร้ายลูกตัวเอง ทำได้ยังไง เป็นฉันก็ไม่เอาพ่อแบบนี้หรอก”
“นะ..นี่ หมายความว่ายังไงเฟยจง”
“ฉ..ฉัน ฉัน”
“เอาล่ะ เรามาคุยรายละเอียดกันต่อเถอะ” หัวหน้าผู้บ้านตัดบท
“จางเวย แกจะต้องเซ็นตัดขาดให้เวยเวย ตามความต้องการของเธอ ในเมื่อไม่เคยทำหน้าที่พ่อเลย ก็ปล่อย เวยเวย ไปซะ อย่าหาว่าฉันไม่เตือน”
หัวหน้าผู้บ้านยื่นจดหมาย ให้จางเวย ทันทีที่พูดจบ
“ไม่ได้น่ะพี่ ไม่ได้ พี่ต้องไปตามลูกสาวพี่มาแต่งงาน กับเถ้าแก่ตงให้ได้”
“ก็ให้ลูกสาวแกแต่งไปแทนสิ ไม่อยู่สุขสบายไงล่ะ ไม่ชอบเหรอ” ป้าเฉิน
“ไม่น่ะ แม่ ไม่น่ะ ฉันไม่แต่ง แม่ก็รู้เถ้าแก่ตง ทารุณเมียเก่าจนตาย ถ้าฉันแต่งไปไม่ตายก่อนเหรอ ฉันยังอยากเรียนให้สูงสูง อยู่น่ะ” ลี่จูที่นั่งฟังอยู่นานก็แทรกขึ้นด้วยความตกใจ
“เธอว่าไงน่ะ เถ้าแก่ตงเคยทำร้ายเมียเก่าจนตายเหรอ แล้วทำไมถึงให้เวยเวยแต่งไปล่ะ เฟยจง” จางเว่ย
“ทุกคนเขาก็รู้ทั้งนั้นแหละ จางเว่ย มีแต่เจ้าที่ปล่อยให้แม่เลี้ยงทำร้ายลูกเลี้ยงอย่างเวยเวย มาตลอด หน้ามืดตามัว ปิดหูปิดตาโดยแท้” ผู้เฒ่าจาง
ตอนนี้จางเว่ยหน้าเสีย เขาพลาดอะไรไปบ้างเขาเชื่อเฟยจง จนไม่คิดสนใจเวยเวย ด้วยซ้ำ เขาเป็นพ่อแบบไหนกัน
ตงหู่ ที่นั่งฟังอยู่นานก็ลุกขึ้นทวงเงินสินสอดคืน ถ้าไม่ได้จะไปแจ้งความทำให้ เฟยจงรับไปรวบรวมเงินที่เหลือ ซึ่งไม่พอเพราะเธอไปซื้อเสื้อผ้า เครื่องประดับ ให้เธอกับลูกๆ ต้องเอาเงินเก็บของบ้านมารวมให้ด้วย จนแทบจะไม่เหลือในบ้าน ตงหู่ถึงได้ยอมกลับไป
จางเว่ยที่เปิดอ่านจม.ของลูกสาว
ถึง…พ่อของเวยเวย
ฉันไม่รู้หรอกว่าคุณเคยรักเวยเวยบ้างหรือเปล่า เธอรักคุณมากแต่ที่ผ่านมาคุณไม่แม้จะฟังคำอธิบาย คุณก็เอาแต่ทุบตี ทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจ วันนี้เวยเวย คนนั้นคนที่เคยรักคุณได้ตายไปแล้วตั้งแต่วันที่คุณตี จนสลบ แม้แต่รักษาก็ไม่คิดจะพาไป
ปล่อยฉันไปเถอะ ไม่ต้องคิดตามหา ถ้าพวกคุณยังไม่เลิกรบกวนฉัน ฉันจะกลับมาทวงทุกอย่างของฉันคืน
เวยเวย

จางเว่ยใบหน้าซีดขาว ใช่เขาไม่แม้จะฟังคำอธิบายจากลูกสาวตน ที่ผ่านมาเขาแค่ต้องการให้ครอบครัวมีความสุข จนคิดว่า เวยเวยเป็นลูกควรจะต้องเคารพ และเชื่อฟังเขา เวยเวยแนบสำเนาโฉนดที่ดิน ที่สลักชื่อ เธอไว้อย่างชัดเจน โฉนดที่เขาพยายามหามาตั้งนานก็หาไม่เจอ วันนี้ลูกสาวที่เขาคิดว่าควรจะเชื่อฟังใช้มันมาข่มขู่เขา เขาเซ็นเอกสาร อยากจำเจ เขาเชื่อว่า เมื่อเขาเจอหน้าเวยเวย ทำดีด้วยพูดดีด้วย เวยเวย ต้องยอมยกโฉนดนั่นให้เขาแน่นอน
เขาไม่คิดว่า คนที่เขียนจ.ม นั้น ไม่ใช่ลูกสาวเขา เวยเวย คนที่ไม่มีความผูกพันกับเขาสักนิด

หนีไปตายเอาดาบหน้า

เอาล่ะ เอาไงต่อล่ะทีนี้ฉัน

เวยเวยเดินวนไปมาในเมืองหูหนาน เธอไม่รู้จะต้องทำยังไงดี ต้องไปทางไหน ต่อให้เธอ เก่งแค่ไหน เคยอายุ24มายังไง นั่นก็แค่เรื่องในชีวิตก่อน แต่ตอนนี้ เธออายุ เด็ก14 ไม่มีงานไม่มีบ้าน

“ปกติคนไม่มีบ้านเขาไปต้องไปอยู่ที่ไหนกัน”

“คิดสิ นังลดาเอ่ย”

“มีอะไรหรือเปล่าหนู ยายเห็นหนูเดินวนไปวนมาหลายรอบแล้ว หลงทางกลับบ้านเหรอ”

“อะ..เออ ค่ะยาย พอดีหนูคนต่างถิ่นมากับครอบครัว พลัดหลงกันค่ะ” ขอโทษค่ะยายที่หนูโกหก หนูไม่ยอมถูกจับกลับไปขายอีกหรอก เวยเวยคิดในใจ

“อ้าวตายละสิยายหนู นี่ก็มืดค่ำแล้ว”

“หนูก็ไม่รู้จะไปเปิดห้องพักหนูก็เด็กเกินเขาไม่เปิดให้ค่ะยาย”

“เอาแบบนี้น่ะ หนูไปนอน ห้องเก็บของตรงข้างๆ บ้านยายตรงนั้นก่อน เดียวยายไปเอาอะไรมาให้กินน่ะ”

หลังจาก ได้ ซาลาเปา 2ลูก เวยเวยก็สำรวจที่ทาง ล็อค ประตู เตรียมพักผ่อน

“ก็ยังดีหน่อย เจอคนมีน้ำใจบ้าง”

รุ่งเช้าเธอรีบออกจากห้องเก็บของ เดินสมัครงานไปทั่ว แต่ก็ไม่มีใครเพราะเธอยังเด็กมาก เธอเดินวน จนมืดค่ำ ข้าวก็ยังไม่ได้ยิน เมื่อจนปัญญา สุดกำลังของเธอแล้ว เธอทรุดตัวลงนั่ง ริมต้นไม้ ข้างถนน ร้องไห้อย่างคนสิ้นไร้หนทาง

“ไอ้เทวดาบ้า เทวดาเฮงซวย ให้ฉันมาอยู่ที่นี่ พรวิเศษล่ะ เงินทองล่ะ ทำไมไม่ให้มาด้วย อือๆๆ”

ตอนนั้นฝั่งตรงข้าม เป็นร้านอาหาร คุณชายสามหมิงเล่อ ตระกูลซุน มาซื้อเป็ดย่างไปฝากน้องสาว เขาเลือกไปนั่งรอริมหน้าต่างชั้นสอง หันหน้าไปพบเด็กน้อยนั่งร้องไห้อยู่พอดี

“เด็กที่ไหนมานั่งร้องไห้ อยู่นี่ พลัดหลงกับญาติหรือเปล่า”

หมิงเล่อ ได้รับเป็ดย่างที่สั่ง แล้ว รีบเดินข้างฝั่ง ไปดูจุดที่เด็กน้อยนั่งอยู่ทันที

“อ้าว หายไปไหนแล้วน่ะ” เขาเดินตามหาใกล้ๆ ไม่เจอ กำลังจะหันหลังกลับไปที่รถ ก็เห็นชายเสื้อที่แอบพุ่มไม้เล็กๆ นั่น

“นี่ออกมา เถอะ พุ่มไม้นั่น แอบไม่มิดหรอก”

เวยเวย เดินออกจากพุ่มไม้มาหยุดตรงหน้าชายหนุ่ม

“ชื่ออะไร น่ะเราแล้วบ้านอยู่ไหน มืดค่ำไม่รู้เหรอมันอันตราย”

“ฉันไม่มีบ้านหรอกค่ะ ฉันไม่มีที่ไป อือ อือ”

“ไม่มีบ้านได้ยังไง ตัวแค่นี้มานี่ ฉันจะพาไปส่งบ้าน” หมิงเล่อจับข้อมือเด็กน้อยเอาไว้แน่น

“ไม่ไม่ ฉันไม่กลับ ปล่อยๆ ฉันน่ะ ฉันขอร้อง ปล่อยฉันเถอะ แล้วฉันจะรีบไปจากที่นี่ ไม่อยู่เกะกะคุณหรอก” เด็กสาวดิ้น ให้หลุดจากการมือของชายหนุ่ม

“อย่าดิ้นสิ เห็นไหมข้อมือแดงหมดแล้ว ฉันไม่ได้จะทำอะไร จะพาไปส่งบ้านแค่นั้นเอง”

“โธ่ โว้ย ตาลุง ฟังไม่รู้เรื่องเหรอ ว่าไม่กลับๆ พูดภาษาคนอยู่เนี้ยไม่เข้าใจเหรอ มีตาดูไหม สภาพฉันน่ะเป็นแบบไหน ถ้าอยู่บ้านมันดี ฉันจะหนีมาไหม” เวยเวยตะโกนด่า อีกฝ่ายจนเหนื่อยหอบ

“แล้วนี่ยังคิดจะพาฉันกลับไป จะให้ฉันไปตายเหรอ เห็นไหมนี่ ตัวฉันเนี้ย มันมีตรงไหนเป็นเนื้อดีๆ บ้าง นอกจากรอยแผลเนี้ย ถ้าจะส่งฉันกลับ ก็เอาปืนมายิงฉันเลย ฉันยังจะรู้สึกขอบคุณมากกว่าอีก”

“รู้เรื่องแล้วใช่ไหม รู้แล้วไปไหนก็ไป อย่ามายุ่งกับฉัน คนยิ่งหิวๆ ต้องมาเปลืองพลังงานด่าคนอีก”

หมิงเล่อที่กำลังอึ้ง ยังไม่เคยมีใครด่าเขาได้ขนาดนี้เด็กนี่กินดีหมีมาจากไหนกัน เขาพึ่งสังเกต เด็กน้อย ผอม เหมือนขาดสารอาหาร เนื้อตัวมีแต่รอยแผล ทั้งเก่าใหม่ เสื้อผ้าก็ซีดเก่า รอยป่ะชุนเติมไปหมด ขณะที่เวยเวยหันหลังจะเดินหนี เขาก็จับมือจูงให้เดินตามเขา

“จะพาฉันไปไหน ไม่เอาๆ ฉันไม่ไป”

“หิวไม่ใช่เหรอ ตามมา ฉันไม่เอาเธอไปฆ่าหรอก”

เดินสาวเดินตามอย่างว่าง่าย ไม่ใช่ว่าไม่กลัวหรอก แต่หิวมากกว่ากลัว

ร้าน” เฉาฮวา”

เด็กสาวที่นั่งนิ่งๆ บนเก้าอี้ ไม่ขยับไปไหน ขณะที่หมิงเล่อเดินไปตามน้องสาวออกมา

“พี่สาม พี่ไปขโมย ลูกใครมาเนี้ย”

“พี่เห็นเดินอยู่ริมถนน กลัวจะอันตรายเลยพามาหาน้องเล็กน่ะ”

หมิงหลัน เดินมานั่งตรงข้ามกับเด็กสาว

“เสี่ยวหลินมานี่แป๊บนึงคะ”

“ค่ะ คุณหมิงหลัน”

“รบกวนขอเสื้อผ้าพี่สัก1ชุด แล้วเอากระเป๋ายามาให้ทีค่ะ”

เสี่ยวหลินรีบไปเอาเสื้อผ้า กับกระเป๋า มาให้ก่อนขอตัวไปพักผ่อน

“ไม่ต้องกลัว มาเดี๋ยวทำแผลให้ก่อน ไหนเล่าให้พี่ฟังได้ไหม หนูชื่ออะไรทำไมถึงอยู่สภาพนี้ได้”

เวย เวย เล่าเรื่องที่แม่เลี้ยง จะขายเธอให้พ่อค้าหมู เธอไม่ยอมแล้วถูกทุบตี ตอนที่พ่อค้าหมูไปรับเธอมาจากหมู่บ้าน เธอก็กระโดดลงรถหนีมา” เวยเวย เล่าด้วยท่าทีสบายๆ

“แล้วพ่อ เขาไม่ว่าหรือห้ามแม่เลี้ยง เลยเหรอ”

“ไม่ค่ะ พ่อเขาเชื่อแม่เลี้ยง ทุกอย่างค่ะ”

“เลว ทั้งบ้านจริง” หลังจากพูดคุยกันเสร็จแล้ว หมิงหลันก็พา เด็กสาวไปห้องพัก

“อยู่นี่ไปก่อนน่ะ อาบน้ำ แล้วลงไปกินข้าวข้างล่างกัน”

เวย เวย จากที่อาบน้ำขัดเนื้อขัดตัว เอาคราบต่างๆ ออก

“เวยเวย เธอก็สวยเหมือนกันน่ะ” หลังจากชมตัวเองเสร็จ ก็ลงไปที่หมิงเล่อกับหมิงหลัน นั่งรออยู่แล้ว

“มาจ๊ะ มากินข้าวกัน”

เวย เวย ที่กำลังกินอย่างเอร็ดอร่อย อยู่นั้น

“แล้วต่อไปนี้จะทำยังไงต่อไปจ๊ะ”

“ตอนนี้หนูมีเงินติดตัวที่แม่ทิ้งไว้ให้กับป้าให้ไว้นิดหน่อยหนูจะหางานทำค่ะ อยากเรียนหนังสือต่อ หนูพึงเรียน มัธยมต้นได้ปี 3แล้วค่ะ…แต่..” เธอก้มหน้าด้วยความเศร้า

“ตัวแค่นี้จะไปทำงานอะไรได้ ที่ไหนเอาจะรับล่ะ”

“เป็นแบบนั้นแหละค่ะ หนูหางานทั้งวันก็ไม่มีที่ไหนรับเลยค่ะ”

“เอาแบบนี้น่ะ อยู่ที่นี่ ช่วยงานที่ร้านไปก่อน พี่จะจ่ายค่าแรงให้ รวมถึงเรื่องเรียนด้วย”

“จริงเหรอคะ ขอบคุณมากค่ะ ขอบคุณพี่หมิงหลัน ขอบคุณคุณลุงหมิงเล่อค่ะ”

“….”

ฮ่าฮ่า

อ่านต่อนิยายเรื่องนี้

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0