โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ผงะ!ติดเชื้อโควิดจริง 5 หมื่นรายต่อวัน หมอศิริราชแนะรัฐบอกความจริงประชาชน

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 04 ก.ค. 2565 เวลา 07.18 น. • เผยแพร่ 04 ก.ค. 2565 เวลา 07.18 น.

ผงะ!ติดเชื้อโควิดจริง 5 หมื่นรายต่อวัน หมอศิริราชแนะรัฐบอกความจริงประชาชน เผยเวลานี้เตียงคนป่วยเริ่มขาดแคลน เตือนสถานการณ์เริ่มตรึงเครียดอีกครั้ง

รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล (หมอนิธิพัฒน์) หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว (นิธิพัฒน์ เจียรกุล) โดยมีข้อความระบุว่า

ต้องขอออกมาเตือนกันให้ดังๆ ว่า สถานการณ์โควิดขณะนี้เขม็งเกลียวขึ้นมาใหม่

ทุกคนและทุกฝ่ายต้องช่วยกันประคองภาพรวมไม่ให้กลับไปทรุดหนักอีกรอบ

แล้วรอลุ้นให้เกิดการปรับฐานโรคซาลงในช่วงอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า

เพื่อจะได้ร่วมเดินหน้าผลักดันประเทศที่กะปลกกะเปลี้ยกันต่อไป

สถานการณ์ที่บ้านริมน้ำเริ่มตึงมือมากว่าสัปดาห์แล้ว

จำนวนผู้ป่วยโควิด-19ที่จำเป็นต้องรับเข้าโรงพยาบาลเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

ทั้งส่วนน้อยที่ป่วยจากโควิดโดยตรง และส่วนใหญ่ที่ป่วยจากโรคอื่นแต่มีการติดเชื้อโควิดร่วมด้วย

จนทำให้บุคลากรด่านหน้าที่กันไว้จำนวนหนึ่งสำหรับงานโควิด ต้องกลับมาทำงานกันหนักขึ้นจากเดิมกว่าเท่าตัว

และต้องวิ่งวุ่นหมุนเตียงกันมือระวิง เพื่อลดจำนวนคนไข้ที่ตกค้างรอรับไว้ในโรงพยาบาล

สภาพเช่นนี้กำลังเกิดขึ้นกับโรงพยาบาลใหญ่อีกหลายแห่งทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด

สวนทางกับตัวเลขรายวันที่แจ้งว่ายังมีเตียงรองรับผู้ป่วยโควิดเหลืออีกมาก

ตัวเลขที่ว่านั้นเป็นแค่กรอบจำนวนเตียงที่จะขยายขึ้นได้ภายใต้เงื่อนไข
แต่ที่มีใช้งานอยู่จริงตอนนี้เริ่มร่อยหรอเต็มที

ติดเชื้อโควิดจริง 5 หมื่นรายต่อวัน
ติดเชื้อโควิดจริง 5 หมื่นรายต่อวัน

ส่วนกรอบที่จะขยายได้ก็ถูกนำไปใช้กับผู้ป่วยอื่นที่ไม่ใช่โควิดจนเกือบไม่เหลือหรอแล้ว

จากข้อมูลที่รับทราบมา ตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยจริงเมื่อปลายสัปดาห์ก่อน น่าจะอยู่ที่ราววันละห้าหมื่นคนแล้ว

ต่างกับตัวเลขรายวันที่เราเห็นกันในรายงาน แถมยังมีปรากฏการณ์ยอดตกช่วงต้นสัปดาห์เช่นดังรูปของวันนี้

ซึ่งเป็นผลจากระบบการตรวจหาเชื้อและรายงานผลช่วงวันหยุด

ส่วนตัวเลขผู้ป่วยอาการรุนแรงที่เพิ่มขึ้นจาก 600 แล้วมาหยุดแถวก่อน 700 ดังในอีกรูปนั้น

ก็เป็นผลจากระบบการรายงานที่จะมียอดวิ่งเข้ามาเป็นก้อนๆ ไม่ได้สม่ำเสมอในทุกวัน

วันนี้เป็นวันสุดท้ายของระบบการเบิกจ่ายเงินค่าตรวจรักษาโรคโควิด-19 ในรูปแบบเดิม เพื่อเปลี่ยนผ่านเข้าสู่รูปแบบปกติของระบบสุขภาพพื้นฐาน

เรียกว่าเป็นส่วนหนึ่งของการเดินหน้าเข้าสู่การเป็นโรคประจำถิ่น ที่ได้เตรียมการรองรับกันไว้มานานก่อนหน้าแล้ว

เมื่อประกอบกับสถานการณ์การระบาดที่กลับปะทุขึ้นใหม่ แม้จะยังไม่แรงถึงครึ่งหนึ่งของช่วงพีคโอไมครอนครั้งก่อน

แต่ต้นทุนประเทศในการดูดซับปัญหาเราร่อยหรอยอบแยบเต็มที

ทั้งด้านงบประมาณและด้านบุคลากร หากไม่ออกแรงฮึดช่วยกันชะลอควบคุมการระบาดให้อยู่มือ

อาจเห็นมีผู้ป่วยอาการรุนแรงตกค้างในชุมชนและจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น แล้วคงหลีกเลี่ยงดราม่าครั้งใหม่ไม่พ้นแน่

ถึงเวลาแล้วที่ภาครัฐต้องบอกความจริง และออกมาเตือนให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือ

ไม่ใช่คอยแต่ให้ท้ายเพื่อปลดหน้ากากหรือเพิ่มกิจกรรมทางสังคมที่เสี่ยงแต่เพียงด้านเดียว

#โควิดยังไม่หมดอย่ารีบปลดหน้ากาก

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0

ความเห็น 137

  • Than
    ขอบคุน อจ ที่ ออก มาเตือน ค่ะ
    04 ก.ค. 2565 เวลา 08.14 น.
  • Cham
    เดิ๋ยวนี้คนไม่ค่อยระวังตัวกันเลยค่ะ เห้อ
    04 ก.ค. 2565 เวลา 08.54 น.
  • phungpat
    ก็เปิดประเทศไง ถึงเวลาตัวใครตัวมัน
    04 ก.ค. 2565 เวลา 08.46 น.
  • Cha_oui
    ขนาดรมต.สธยังติดคนไม่ระวังไปคิดเอาเองขอบคุณหมอที่พูดความจริง
    04 ก.ค. 2565 เวลา 10.02 น.
  • ROONG
    ใช่ค่ะที่ อ.พูด เพราะที่บ้านดิฉันอาทิตย์ก่อนมีคนไปรวมกลุ่มศาสนาครั้งแรกกลับมาแค่สองวันมีอาการเลยผลตรวจเป็นโควิตเกือบครึ่งบางคนเป็นรอบสองอาการรุนแรงกว่ารอบแรก นอกจากนี้มหาวิทยาลัยตของภาคเหนือ​ได้ข่าวมาว่า นศ ติดกันหลายคนและมีการนอน รพ.ด้วย รวมถึงโรงเรียนนานาชาติ​ที่ลูกสาวเพื่อนเรียนอยู่ก็ติดกันไปหลายคน
    04 ก.ค. 2565 เวลา 09.00 น.
ดูทั้งหมด