โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ศีล 5 ข้อห้ามที่ขัดแย้งกับชีวิตจริงของคนไทย

ศิลปวัฒนธรรม

อัพเดต 13 ก.ย 2566 เวลา 05.12 น. • เผยแพร่ 13 ก.ย 2566 เวลา 05.08 น.
ภาพปก-รูธ
ภาพจากปกหนังสือ “วัฒนธรรมและพฤติกรรมของไทย” (สนพ.มติชน)

รูธ เบเนดิกต์ เผยเรื่อง “ศีล 5” ข้อห้ามที่ขัดแย้งกับชีวิตจริงของคนไทย

ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 สหรัฐอเมริกาทำความเข้าใจโลกในระหว่างและหลังสงคราม ด้วยการใช้ประโยชน์จากองค์ความรู้ของสังคมศาสตร์ โดยเฉพาะนักมานุษยวิทยาในระหว่างสงครามเพื่อเข้าใจมิตรและศัตรูของสหรัฐอเมริกา ทำให้แนวคิดทางวิชาการนี้เริ่มได้รับความนิยมในหมู่เจ้าหน้าที่รัฐและผู้กำหนดนโยบาย หนึ่งในนักมานุษยวิทยาที่มีชื่อและผลงานทรงอิทธิพลก็คือ รูธ เบเนดิกต์

ผลงานชิ้นหนึ่งของ รูธ เบเนดิกต์ คือ Thai Culture and Behavior” ฉบับแปลภาษาใช้ชื่อว่า “วัฒนธรรมและพฤติกรรมของไทย” (สนพ.มติชน) ถือเป็นงานทางมานุษยวิทยาที่มีการศึกษาอย่างเป็นระบบเกี่ยวกับประเทศไทย และเป็นแรงบันดาลใจให้นักมานุษยวิทยารุ่นต่อมานำไปเป็นรูปแบบการศึกษาสังคมไทย

ตอนหนึ่งในผลงานดังกล่าวของ รูธ เบเนเดิกต์ กล่าวถึง “ศีล 5” กับคนไทยไว้ว่า

1. ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต คนไทยถือปฏิบัติตามกฎข้อนี้อย่างคิดเข้าข้างตนเอง เช่น การรับประทานเนื้อสัตว์ ไม่ว่าใครที่สั่งให้คนจากตลาด หรือสั่งให้คนรับใช้ของตนไปตลาดเพื่อซื้อสัตว์ชนิดหนึ่งๆ หรือซื้อเนื้อสัตว์บางชนิดที่ผ่านการฆ่ามาแล้วล้วนแต่เป็นบาป แต่หากซื้อสัตว์หรือสัตว์ปีกที่ตายมาก่อนแล้วก็นับว่าไม่เป็นบาป (Alabaster: 60)

2. ไม่ลักทรัพย์ของผู้อื่น ในประเทศไทยมีการลักขโมยกันมาก “จำนวนขโมยขโจรนั้นมีมากจนน่ากลัว ในปี ค.ศ. 1903-1904 (พ.ศ. 2446-2447) มีรายงานว่า เพียงกรุงเทพฯ แห่งเดียวซึ่งมีจำนวนประชากรราว 750,000 คน มีคดีลักขโมยถึง 5,570 คดี ซึ่งนับเป็นจำนวนที่มากกว่าคดีลักขโมยของพม่าตอนใต้ทั้งหมดที่มีประชากรถึง 5 ล้านคน…” (P.A. Thompson: 69-70) ไม่มีผู้ให้ข้อมูลคนไหนอธิบายเหตุผลใด แต่มักกล่าวว่าเป็นเพราะความจน

3. ไม่ประพฤติผิดในกาม อลาบาสเตอร์ (P: 62) ได้สรุปคำพูดของนักวิจารณ์ไทยที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งเกี่ยวกับศีลข้อนี้ไว้ว่า “สตรีผู้ซึ่งเป็นที่หวงแหนของผู้อื่น ได้แก่ ภรรยาและสตรีโสด ซึ่งมีสามีหรือญาติพี่น้องเป็นผู้ดูแลคุ้มครอง และสตรีที่มีคู่หมั้นหมาย ล้วนแล้วแต่เป็นสตรีที่ไม่เหมาะจะพึงปรารถนา แต่ในเมื่อ ข้อคิดเห็นเหล่านี้เป็นเพียงความคิดเห็นที่ไม่มีใครมาถกเถียง’ จึงมีพวกชายโฉด ที่คิดว่าการผิดประเวณีไม่เป็นพิษภัยหากไม่มีผู้จับได้”

ประเด็นที่ควรพิจารณาก็คือ ทำไมศีลข้อนี้จึงวางฐานะบุรุษและสตรีไว้ต่างกัน และนี่คือเหตุผลว่าทำไม “การมีคู่ครองหลายคนในบุรุษจึงเป็นที่ยอมรับได้”

4. ไม่กล่าวเท็จ สุภาษิตและคำสอนต่างๆ ล้วนให้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสัจธรรมของคนไทย สุภาษิตบางบทก็เป็นสำนวนที่ใช้ทั่วไป เช่น

“สิ่งที่คนพูดกันนั้น ต้องเอา 5 หาร”

“สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น” (หมายถึง แม้คน 10 คนอาจพูดเท็จหรือพูดเกินความจริง ทางที่ดีต้องเห็นด้วยตาตนเอง)

นอกจากนี้ก็ยังมีสุภาษิตอื่นๆ ซึ่งอ้างถึงการพูดเกินความจริง เช่น

“ลิ้นยาวจนตวัดถึงใบหู”

ซึ่งตามคำกล่าวของเลอ เมย์ หมายความว่า คน “สามารถบิดเบือนคำพูดและจับต้นชนปลายจนสามารถทำให้กลายเป็นเรื่องราวตามที่เขาต้องการได้ รัฐบุรุษอาวุโสผู้ปราดเปรื่องคนหนึ่งของไทยเคยกล่าวว่า การเป็นนักการทูตที่ดีนั้นต้องไม่เพียงแต่ต้องตวัดลิ้นถึงใบหูได้เท่านั้น แต่ยังต้องสามารถตวัดรอบให้ได้ถึง 7 รอบ” (Le May A: 164)

5. ไม่ดื่มของมึนเมา “คนส่วนมากไม่ค่อยถือศีลข้อนี้มากนัก ในงานรื่นเริง งานมงคลสมรส งานนักขัตฤกษ์ หากไม่มีเบียร์ เหล้า และเครื่องดองของเมาทั้งหลายก็จะถือว่าไม่ได้ฉลองกันอย่างเต็มที่ ร้านขายเหล้าถือเป็นส่วนหนึ่งประจำเมืองใหญ่ๆ ทีเดียว” (Landon: 151) ที่กล่าวนี้มิได้หมายความว่า การมึนเมาเป็นปัญหาสังคมในเมืองไทย การเมาเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย และโดยทั่วไปแล้วสังเกตได้ว่าไม่มีการห้ามดื่มของมึนเมาต่างๆ

ทว่า “หนังสือเล่มนี้ไม่ได้ช่วยให้เข้าใจสังคมไทยได้ดีขึ้น หากจะมีประโยชน์อยู่บ้างก็ตรงที่ทำให้รู้ว่า ปัญญาชนชาวตะวันตกมีทัศนะต่อชนชาติที่ด้อยพัฒนาเช่นชาวไทยอย่างไร มีข้อน่าสังเกตว่าทัศนะเช่นนี้ช่างคล้ายกับทัศนะของอภิสิทธิ์ชนไทยที่มีต่อชาวนาชาวไร่เหลือเกิน” อานันท์ กาญจนพันธุ์ กล่าวไว้ใน “บทกล่าวนำ” ของหนังสือ วัฒนธรรมและพฤติกรรมของไทย

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่

ข้อมูลจาก :

รูธ เบเนดิกต์-เขียน, พรรณี ฉัตรพลรักษ์-แปล. วัฒนธรรมและพฤติกรรมของไทย, สำนักพิมพ์มติชน พิมพ์ครั้งที่ 2 ธันวาคม 2564 (ฉบับปรับปรุงใหม่)

เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 8 กุมภาพันธ์ 2565

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0

ความเห็น 13

  • คุณชาญ
    ทั้ง 5 ข้อเป็นกิเลสพื้นฐานของมนุษย์ ศีล 5 จึงเป็นสิ่งเตือนสติให้มนุษย์รู้จักยับยั้งชั่งใจไม่ให้ประพฤติปฏิบัติจนเกินเลยขอบเขต แต่จะให้ยับยั้งไม่ให้ทำเลยนั้นคงเป็นไปไม่ได้ตราบเท่าที่มนุษย์ยังมีกิเลส เพียงแต่ลดละเลิกให้สังคมสามารถดำรงค์อยู่อย่างสุขสงบได้ตามสมควร ชาวตะวันตกคงจะเข้าใจได้อยากเพราะวัฒนธรรมของเขาเคยชินกับการรุกรานเข่นฆ่าและเอาเปรียบผู้อื่น อย่าว่าแต่เว้นการฆ่าสัตว์เลยการฆ่ามนุษย์ต่างเผ่าพันธุ์สำหรับพวกเขายังเห็นเป็นเรื่องธรรมดาเลยครับ
    09 ก.พ. 2565 เวลา 04.42 น.
  • GRN 2017
    ศีล5ก็เหมือนกับกฏหมายของบ้านเมือง คนดีมักจะปฏิบัติได้ ส่วนคนที่ชอบทำตามใจตนเอง ไม่ว่ากฏใด เขาผู้นั้นก็จะขอแหกกฏได้อย่างไม่ละอาย ใจ คนแบบนี้จะนำเอาอารมณ์นำชีวิต จะไม่สนใจกฏเกณฑ์อะไรทั้งสิ้น มีให้เห็นทุกประเทศ เรียกว่า ที่ใดมีคนดี ที่นั้นก็มีคนไม่ดี
    09 ก.พ. 2565 เวลา 04.58 น.
  • กู้เกียรติ
    อึ่งอ่างในรอยตีนควาย..!
    09 ก.พ. 2565 เวลา 04.48 น.
  • Angthong
    จริงไม่เถียงเลย
    09 ก.พ. 2565 เวลา 04.41 น.
  • นลิน
    ไม่เข้มงวดในศีล5 แต่เน้นปฏิบัติในเรื่องการดำเนินชีวิตในทางสายกลาง มีคุณธรรม จริยธรรม ที่อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้โดยไม่ละเมิดผู้อื่น
    09 ก.พ. 2565 เวลา 05.00 น.
ดูทั้งหมด