ณ เวลานี้ทั่วทุกที่บนหน้าสื่อสิ่งพิมพ์และสื่ออนไลน์ของทั่วโลกคงมีแต่เรื่องของ ‘ไวรัส COVID-19’ ที่รุนแรงมากจน “องค์การอนามัยโลก” ยกสถานะให้เป็นโรคระบาดระดับโลกแล้ว และความรุนแรงของ COVID-19 ชัดเจนแล้วว่าส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ อย่างมาก คาดการณ์ในเบื้องต้นแล้วการเติบโตของ GDP ในไตรมาสที่ 1 และ 2 ในปีนี้หลายประเทศปรับตัวลงหนักอย่างแน่นอนอาจถึงขั้นติดลบในหลายประเทศ
เป็นครั้งแรกในรอบหลาย 10 ปี ที่ “วิกฤตเศรษฐกิจ” เกิดขึ้นจากปัจจัยเรื่อง ‘โรคระบาด’ และต้องบอกว่ามีผลกระทบที่รุนแรงอย่างมากต่อระบบเศรษฐกิจและการเงินทั่วโลก เพราะการระบาดของโรค COVID-19 นี้ได้ส่งผลไปถึงคนทุกคน ทุกเพศทุกวัยและทุกสถานที่บนโลก ทำให้การรับมือกับวิกฤตที่อาจจะกินเวลาไปอีกระยะนี้ จะเป็นการทำให้ทุกคนคำนึงถึงความสำคัญกับเรื่องสุขภาพของคนเองและคนใกล้ชิดเป็นหลัก
ทำให้ในช่วงนี้มีคำถามมาถึงผมจำนวนมากว่า ?? สถานการณ์ที่ยังไม่ผ่านจุดสูงสุด แต่การปรับตัวลงของสินทรัพย์ต่างๆ ปรับตัวลงถึงจุดต่ำสุดที่พอจะเข้าไปลงทุนได้หรือยัง ผมขอให้คำแนะนำในเบื้องต้นดังนี้ครับ บรรยากาศการลงทุนในตอนนี้ยังไม่ดีนัก แม้ ‘สินทรัพย์เสี่ยง’ จะปรับตัวลงมาอย่างหนักเกินกว่าปัจจัยพื้นฐานแต่ความผันผวนมีสูงมาก ‘นักลงทุนระยะสั้น’ ต้องใช้ความระมัดระวังในการเข้าเก็งกำไร ควรถือเงินสดไว้เพื่อรอสถานการณ์ก่อนนะครับ
ส่วน ‘นักลงทุนระยะยาว’ ที่มีเงินเย็นพอนั้น อาจต้องพิจารณากระจายการลงทุนให้ดีนะครับ ในเวลานี้ผมมองว่าสินทรัพย์ปลอดภัยที่ เช่น ทองคำ อสังหาริมทรัพย์ประเภทโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงหุ้นที่ยังจ่ายปันผลที่ดี ยังพิจารณาลงทุนได้พร้อมๆ ถือเงินสดเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกันนะครับ
แต่นอกเหนือจากคำแนะนำเรื่องการลงทุนแล้ว บทความนี้ผมอยากให้มุมมองที่เป็นข้อคิดในยามที่เกิด‘วิกฤติ COIVD-19’ ควบคู่ไปกับการบริหารการใช้จ่ายและการลงทุน ดังนี้
1.อย่าตื่นตระหนกมากเกิน : แต่ให้ตระหนักในเรื่องสุขภาพทั้งกายและใจให้ดี โดยเฉพาะกลุ่มคนวัยทำงานและกลุ่มคนสูงอายุ ที่อาจต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเพื่อรักษาสุขภาพและป้องกัน โดยเฉพาะคนที่มีโรคประจำตัวและต้องเดินทางในพื้นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็ควรป้องกันให้ดี
2.วางแผนการเงิน : ระยะนี้ควรลดการใช้จ่ายในสิ่งที่ไม่จำเป็นลง โดยเฉพาะคนวัยทำงานที่มีภาระหนี้ต่างๆ ซึ่งจะเห็นว่าทางธนาคารต่างๆ ได้มีมาตรการเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ออกมา ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ดังนั้นเราต้องวางแผนการใช้จ่ายต่างๆ ให้มากนะครับในระยะจากนี้ไป
3.มีสติในการใช้ชีวิตและทำงาน : ไม่หวาดระแวงต่อข่าวสารๆ ต่างที่ออกมา แต่ควรติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด ประเมินสถานการณ์ต่างๆ อย่างรอบคอบ ที่สำคัญอย่ากลัวและกล่าวโทษใครว่าอาจเป็นต้นเหตุ
4.ไม่ประมาท : หากเกิดการติดเชื้อหรืออยู่ในกลุ่มเสี่ยง อย่ากลัวจนเกินไป เพราะ COVID-19 นั้นรักษาหายได้ มีหน่วยงานต่างๆ ที่ให้การดูแลและให้การรักษาฟรีในเวลานี้ แต่ที่สำคัญเราจะต้องไม่ประมาทและไม่ทำให้ตัวเราเองเกิดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ และต้องมีวินัยในการรักษาความสะอาด
“นอกจากความเสี่ยงเรื่องการลงทุนแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นในยามนี้อาจทำให้เราได้เรียนรู้ถึงความเสี่ยงในอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ต้องใช้ f^และ ‘ความรอบคอบ’ ในการฝ่าฟันให้ผ่านไป และทำให้เราได้เรียนรู้ว่าสุขภาพนั้นสำคัญกว่าเงินแค่ไหน”
“เสียเงินไปกับดูแลสุขภาพให้เต็มที่…เพื่อให้มีสุขภาพที่แข็งแรงสำหรับหาเงินและใช้ชีวิตต่อไปครับ”