คดีพลิก ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เผยเคยล่อซื้อยาบ้าจาก “ชัยภูมิ” เยาวชนลาหู่ แต่หนีไปได้หวุดหวิด พบเส้นทางการเงินผิดปกติ
เมื่อวันที่ 22 มี.ค. ที่ผ่านมา ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พลตำรวจโท พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เรียกประชุมเจ้าหน้าที่เพื่อติดตามความคืบหน้าในคดี วิสามัญฆาตกรรมนักกิจกรรมชาวลาหู่ โดยขณะนี้ มีการสอบปากคำผู้ต้องหาและพยานบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องหลายปากแล้ว รอเพียงผลการชันสูตรและผลการตรวจสอบวัตถุพยานก็จะสามารถสรุปสำนวนได้
อย่างไรก็ตาม ชุดปราบปรามยาสพติดของสถานีตำรวจภูธณสันทราย จ.เชียงใหม่ รายงานว่าเมื่อวันที่ 24 ม.ค. ที่ผ่านมา ได้ทำการล่อซื้อยาบ้าจำนวน 600 เม็ด จาก นายชัยภูมิ และมีการโอนเงินเข้าบัญชีของ นายชัยภูมิ เพื่อมัดจำค่ายาบ้ามาครั้งหนึ่งแล้ว แต่ในขณะที่นัดหมายส่งมอบยาบ้า นายชัยภูมิ ซึ่งขับรถคันเดียวกันกับวันที่ถูกวิสามัญ เกิดไหวตัวหลบหนีไปได้หวุดหวิด หลังจากนั้นยังได้โทรศัพท์ข่มขู่เอาชีวิตพยานที่ให้ข้อมูลกับตำรวจ
โดย สภ.สันทราย กำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับ แต่ก็มาถูกทหารวิสามัญเสียก่อน นอกจากนี้ยังพบว่า รถฮอนด้าแจ๊สที่ นายชัยภูมิ ใช้ มีชื่อของนางหล้า ไม่ทราบนามสกุล เครือข่ายยาเสพติดใน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ที่อยู่ระหว่างหลบหนีคดีเป็นเจ้าของ ขณะที่ป้ายทะเบียนทั้งในตอนที่ล่อซื้อยาเสพติด และ ป้ายทะเบียนที่ใช้ขณะถูกวิสามัญฆาตกรรม ยังพบว่าเป็นป้ายทะเบียนปลอม
การประชุมครั้งนี้ ยังมีรายงานด้วยว่า พบเส้นทางการเงินที่ผิดปกติของ นายชัยภูมิ โดยพบว่ามีเงินเข้าออกมากผิดปกติของเด็กวัยรุ่น เช่นเดียวกับอายุที่ระบุในบัตรสีชมพูที่ระบุอายุ 21 ปี เจ้าหน้าเชื่อว่าจะไม่ตรงความจริง เนื่องจากนายชัยภูมิเรียน อยู่ชั้นมัธยมปลายที่อายุไม่น่าจะเกิน 20 ปี ซึ่งทั้งหมดเจ้าหน่าที่จะมีการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง