เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ญี่ปุ่นมีข่าวที่น่าสนใจครับ เป็นคดีเกี่ยวกับการต้มตุ๋นที่จะว่าไปก็คล้าย ๆ คดีต้มตุ๋นทางโทรศัพท์ให้ไปโอนเงินผ่านตู้ธนาคารเหมือนที่บ้านเราโดนนั่นแหละ โดยที่ญี่ปุ่นมีชื่อเรียกคดีแบบนี้ว่าการต้มตุ๋นแบบ “ore ore sagi !” หรือแปลได้ประมาณว่าการต้มตุ๋น “นี่ชั้นเองนะ !”
โดยแต่เดิมวิธีการต้มตุ๋นแบบนี้ก็จะใช้วิธีการโทรไปหาคุณตาคุณยายที่อยู่บ้านคนเดียว แล้วก็ทักไปในโทรศัพท์ว่า “นี่ผมเองนะ” ซึ่งถ้าบังเอิญโทรไปเจอบ้านที่เขามีลูกชาย คุณตาคุณยายก็อาจจะหลุดพูดชื่อของลูกตัวเองออกมา หลังจากนั้นโจรก็จะสวมรอยเป็นลูกชาย บอกว่ากำลังเดือดร้อน โดนยากูซ่าจับตัวไว้บ้าง หรือเป็นหนี้จนคนมาตามฆ่าบ้าง ให้ไปธนาคารเบิกเงินสดมาเพื่อช่วยเหลือหน่อย
ที่ผ่านมาก็มีผู้สูงอายุที่ตกเป็นเหยื่อของแก๊ง “นี่ชั้นเองนะ !” เป็นจำนวนมาก และมูลค่าความเสียหายก็ว่ากันเป็นครั้งละหลายสิบล้านเยน เพราะส่วนใหญ่ผู้สูงอายุของญี่ปุ่นเขาจะมีเงินเกษียณเก็บเอาไว้กันอยู่แล้ว พอคิดว่าลูกตัวเองกำลังเดือดร้อน ก็ขาดสติรีบเบิกเงินมาให้เหล่ามิจฉาชีพได้โดยง่าย
ในช่วงหลังมานี่รายได้ของแก๊ง “นี่ชั้นเองนะ !” ลดลงมาก เพราะญี่ปุ่นพยายามประชาสัมพันธ์ให้ผู้สูงอายุทุกคนรู้จักรู้ทันโจร ทั้งออกรายการทีวี ติดป้ายเตือน หรือให้ตำรวจทำการออกแจกใบปลิวตามบ้าน เพื่อไม่ให้หลงเชื่อแก๊ง “นี่ชั้นเองนะ !” อีก ซึ่งก็ได้ผลเป็นอย่างดี จำนวนคนที่หลงเชื่อลดลงมากและไม่ค่อยมีการแจ้งความเรื่องคดี “นี่ชั้นเองนะ !” มากเหมือนก่อน
แม้จะทำการป้องกันดีขนาดไหน เหล่ามิจฉาชีพคนชั่วก็ไม่ได้อยู่เฉย ๆ เมื่อวิธีเดิมเริ่มใช้ไม่ได้ผล ต้มตุ๋นใครไม่ได้อีก ก็ต้องทำการอัปเกรดตัวเองขึ้นมาให้กลายเป็น “นี่ชั้นเองนะ ! เวอร์ชั่น 2.0” ซึ่งก็สามารถต้มตุ๋นเงินได้ถึง 32.5 ล้านเยน จากคน ๆ เดียวในคดีล่าสุดที่เป็นข่าวนี้ครับ
แล้วเขาใช้วิธีการไหนถึงแนบเนียนขนาดนี้ ?
อย่างที่บอกไปแล้วว่ามาตรการแก้ไขของทางการญี่ปุ่นคือการออกรายการทีวี ติดป้ายเตือน และให้ตำรวจทำการออกแจกใบปลิวตามบ้าน เจ้ามิจฉาชีพสุดฉลาดก็ใช้ช่องโหว่ตรงจุดนี้แหละครับ โดยทำการ “ปลอมตัวเป็นตำรวจ” ออกมาแจกใบปลิวรณรงค์ไม่ให้หลงเชื่อแก๊ง “นี่ชั้นเองนะ !” (ซึ่งก็คือตัวมันเองนั่นแหละ) ซะเลย !!
อ้าว ! แล้วการออกมาแจกใบปลิวรณรงค์ไม่ให้หลงเชื่อตัวเองนี่ มันจะเป็นประโยชน์ต่อตัวมันเองยังไงฟระ !?
คำตอบก็คือ มันทำไปเพื่อสร้าง “ฮีโร่” ขึ้นมานั่นเองครับ…
กลุ่มมิจฉาชีพจะทำการปลอมตัวเป็นตำรวจออกไปแจกใบปลิวตามบ้าน และให้เบอร์โทรติดต่อเอาไว้ด้วย โดยอ้างว่าเป็นเบอร์ของตำรวจที่รับผิดชอบเรื่องคดี “นี่ชั้นเองนะ !” โดยตรง ถ้ามีพวกมิจฉาชีพโทรมาให้รีบติดต่อมาที่เบอร์นี้เลยนะ เขาจะได้ทำการช่วยเหลือได้ทันที
แน่นอนว่าอีกไม่กี่วันต่อมาก็มีมิจฉาชีพแก๊ง “นี่ชั้นเองนะ !” โทรมาจริง ๆ (ก็แหงแหละ มันพวกเดียวกันนี่หว่า) ซึ่งคนที่ได้รับโทรศัพท์ก็กระหยิ่มยิ้มย่อง คิดว่า “แกเสร็จชั้นละ !” เพราะเพิ่งมีคุณตำรวจมาเตือน แจกใบปลิวถึงที่บ้าน มีเบอร์ติดต่อตรงถึงคุณตำรวจด้วย แค่ติดต่อคุณตำรวจไป พวกแกก็จะถูกจับอย่างแน่นอน เจ้าพวกโง่ !
พอคุณป้าโทรไปหาคุณตำรวจ (ตัวปลอม) ตามเบอร์ที่ให้ไว้ ไอ้เจ้าตัวปลอมก็แปลงร่างเป็นฮีโร่ผู้ช่วยเหลือป้าทันที บอกว่าจะทำการจับเจ้าพวกคนชั่วนี่ให้ได้ และอยากขอความร่วมมือจากคุณป้าในการจับโจรครั้งนี้ด้วย แน่นอนว่าเมื่อได้รับการขอร้องจากคุณตำรวจที่จะมาช่วยเหลือ เขาขออะไรมาก็ต้องยอมเชื่อทั้งนั้น ซึ่งก็เข้าทางโจรจ้า
เจ้าตำรวจปลอมก็ขอให้คุณป้าโอนเงินไปตามที่แก๊ง “นี่ชั้นเองนะ !” ขอร้อง เพื่อทำการแกะรอยเงินไปถึงรังโจร ใช้เป็นเงินเหยื่อล่อที่จะทำให้สามารถทลายแก๊งโจรได้เลยนะครับคุณป้า ! แน่นอนว่าเงินทั้งหมดเราจะคืนกลับมาให้ทางคุณป้าทุกเยนเลยครับ…คุณป้าก็หลงเชื่อแล้วก็โอนเงินไปด้วยความเชื่อใจตำรวจ
หลังจากนั้นเจ้าตำรวจปลอมก็ติดต่อมาอีกหลายครั้งเพื่อขอร้องให้คุณป้าช่วยติดต่อกับโจรบ้าง จะทำการล่อซื้อบ้าง จนสุดท้ายแล้วไป ๆ มา ๆ คุณป้าโอนเงินให้โจรไปมากกว่า 32.5 ล้านเยน (ประมาณ 9 ล้านกว่าบาท) กว่าที่คุณป้าจะรู้ตัวแล้วก็ติดต่อตำรวจ (จริง ๆ) จนรู้ว่าตัวเองโดนแก๊ง “นี่ชั้นเองนะ ! เวอร์ชั่น 2.0” ต้มตุ๋นไปเรียบร้อยแล้ว
การตามจับมิจฉาชีพพวกนี้ช่างเป็นเรื่องยาก แม้กระทั่งกับตำรวจญี่ปุ่นเองก็ตาม ทำให้คุณป้าก็ยังคงไม่ได้รับเงินคืน และทางตำรวจก็ทำอะไรไปไม่ได้มากกว่าทำการแจ้งเตือนให้ระวังอย่าหลงเชื่อตำรวจที่ปลอมเป็นตำรวจ ซึ่งก็แน่นอนว่าเป็นเรื่องยาก แล้วก็คงจะมีคนที่ตกเป็นเหยื่อให้กับแก๊ง “นี่ชั้นเองนะ ! เวอร์ชั่น 2.0” เพิ่มขึ้นอีกในอนาคตอย่างแน่นอน
แม้เรื่องราวนี้จะเกิดในญี่ปุ่น แต่ก็อย่าได้สบายใจไป เพราะเหล่าแก๊งโจรในไทยก็อาจจะใช้วิธีเนียน ๆ แบบนี้ในการหลอกเอาเงินจากเราก็เป็นได้ ดังนั้นเราควรมีสติอยู่ตลอดเวลาและไม่หลงเชื่อใครง่าย ๆ ไม่ว่าคนนั้นจะอ้างตัวเป็นบุคคลที่น่าเชื่อถืออย่างไรก็ตาม
เพราะบ่อยครั้งที่คนที่บอกว่าตัวเองเป็นฮีโร่ ก็ไม่ได้เป็นฮีโร่จริง ๆ อย่างที่เขาแสดง…
อ้างอิง : หนังสือพิมพ์อาซาฮีฉบับวันที่ 5 ธันวาคม 2019
ติดตามบทความใหม่เกี่ยวกับเรื่องน่ารู้และเรื่องแปลก ๆ ของประเทศญี่ปุ่นทาง LINE TODAY: TALK TODAY จากผมได้ทุกวันเสาร์นะครับ
ช่องทางการติดตามเพิ่มเติม
Facebook: Eak SummerSnow
Youtube: Eak SummerSnow
