โน๊ตบุ๊ค กลายเป็นอุปกรณ์จำเป็นของหลายๆ คนไปแล้ว โดยเฉพาะน้อง ๆ นักศึกษาหลายคนที่กำลังเรียนมหาวิทยาลัยนั้นก็คงอยากได้โน๊ตบุ๊คดีๆ ราคาถูกสักเครื่องไว้ทำรายงาน ไว้ใช้ตอนเรียน…แต่ว่าหลายคนก็ยังเลือกไม่ถูกว่าจะซื้อ โน๊ตบุ๊ครุ่นไหนดี งานนี้มีคำตอบครับ
ต้องบอกก่อนเลยว่า…อุปกรณ์สำคัญอย่างหนึ่งในการเรียนมหาวิทยาลัยก็คือ ' โน๊ตบุ๊ค ' ไม่ว่าจะเป็นงานกลุ่มหรืองานเดี่ยว แม้กระทั่งตัวจบ ก็มีเจ้าเครื่องนี้แหละที่จะเป็นคู่ทุกข์ คู่ยากของน้อง ๆ ไปตลอด 4 ปีหรือบางคนที่เรียนสายวิทยาศาสตร์สุขภาพก็ประมาณ 5 – 6 ปี
7 สิ่งที่จำเป็นจะต้องรู้ก่อนเลือกซื้อ โน๊ตบุ๊คมาฝากว่าที่นิสิต หรือ นักศึกษา
1. ต้องการโน๊ตบุ๊คมาทำอะไร
เพราะหลาย ๆ มักซื้อโน๊ตบุ๊คที่มีราคาและสเปคสูงมาก แต่กลับไม่ได้ใช้ประโยชน์เท่าที่ควร อย่างมากก็นั่งหาข้อมูลและพิมพ์งานส่งอาจารย์ ซึ่งไม่ได้มีความ จำเป็นต้องใช้สเปคและราคาที่สูงขนาดนั้น
ยกตัวอย่างเช่น คณะรัฐศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ (เรียกง่าย ๆ คือสายสังคม) ส่วนมากมักใช้งานแค่การค้นคว้าหาข้อมูล ทำรายงานและนำเสนอผลงานเท่านั้น ไม่ได้ใช้งานเท่าไร ยกเว้นคณะวิศวกรรมศาสตร์หรือกลุ่มคนที่เรียนเกี่ยวกับกราฟิกดีไซน์ สถาปัตยกรรมและวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ นักศึกษากลุ่มนี้จะมีการใช้โน๊ตบุ๊คทำงานที่ค่อนข้างหลากหลาย ฟังค์ชั่นเพียบ ดังนั้น จึงอาจจะต้องเลือกใช้ รุ่นที่มีสเปคสูงสักหน่อย (แต่ไม่ต้องสูงมากเท่าเหล่าโปรแกรมเมอร์) ซึ่งจะมีราคาค่อนข้างแรง
2. รู้ข้อมูลของ Notebook แต่ละยี่ห้อหรือยัง?
โน๊ตบุ๊คหรือแล็บท็อปในท้องตลาดมีหลายยี่ห้อมาก แล้วแต่ละยี่ห้อก็มีหลายรุ่นอีกเช่นกัน น้องๆ ควรจะหาข้อมูลแต่ละยี่ห้อ จากเว็บไซต์ที่เป็นชุมชนของผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ เพจให้ความรู้เกี่ยวกับโน๊ตบุ๊ค ฯลฯ และควรดูข้อดี – ข้อเสียเปรียบเทียบกันหรืออาจจะเป็นรีวิวจากผู้ใช้งานของแต่ละยี่ห้อว่า เขาปลื้มยี่ห้อไหนกัน แล้วก่อนหน้านี้เคยเจอปัญหาการใช้ของยี่ห้อไหนบ้าง ซึ่งจะช่วยในการตัดสินใจซื้อได้มากขึ้น
3. พกพานอกสถานที่ จำเป็นแค่ไหน?
แน่นอนว่าถ้าเราอยากได้คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คสักเครื่องเราก็มักจะต้องการให้พกพาไปไหนมาไหนได้อยู่แล้ว เพราะเมื่อเรียนในมหาวิทยาลัยจะต้องมีงานกลุ่มมากมายและต้องนัดกันทำงาน หรือเตรียมไปใช้พรีเซ้นท์งานอาจารย์อยู่แล้วแน่ๆ ของแบบนี้ยังไงก็ต้องเจอ เพราะฉะนั้นก่อนซื้ออย่าลืมดูเรื่อง ความจุแบตเตอรี่ หรืออายุการใช้งานของแบตเตอรี่เวลาที่ใช้นอกสถานที่ด้วย
ที่บอกให้ดูความจุแบตเตอรี่ ทั้งนี้ก็เพราะว่าหากคณะของน้อง ๆ อนุญาตให้เสียบสายชาร์ตได้ก็ดีไป แต่หากที่เสียบสายชาร์ตเต็มหรือมีกฎห้ามชาร์ตไฟในคณะ การทำงานก็คงจะลำบากแน่ ดังนั้น แบตเตอรี่ของโน็ตบุ๊คทั่วไปควรอยู่ 6 – 8 ชั่วโมง ซึ่งเวลาในการใช้งานของแบตเตอรี่จะขึ้นอยู่กับจำนวน Cell ของแบตเตอรี่ ในปัจจุบันส่วนใหญ่จะมีประมาณ 6 cell ทำให้สามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องเสียบ สายไฟได้นานขึ้น
4. ราคา และงบที่เราตั้งไว้
เป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจเลือกซื้อ Notebook เลยก็ว่าได้ โดยทั่วไปแล้วโน๊ตบุ๊คจะมีระยะเวลาในการใช้งาน 5 ปี หลังจากนั้นก็จะเริ่มเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา (โดยเฉพาะปุ่มกด จะไปก่อนเพื่อนเลย) หากใครเลือกซื้อโน๊ตบุ๊คที่มีคุณภาพดี ราคาไม่แพงจนเกินไป ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับน้อง ๆนักศึกษา เช่น ยี่ห้อ Acer HP Toshiba เป็นต้น เหมาะสำหรับใช้เรียนในมหาวิทยาลัย พอเรียนจบทำงานแล้วก็ค่อยเลือกใช้ยี่ห้อดังสเปคสูงก็ได้ตามกำลังทรัพย์ของแต่ละคน
5. โน๊ตบุ๊คมือสอง อย่าลองเสี่ยง!!
ปัจจุบันราคา Notebook ถูกลงกว่าเมื่อก่อนมาก เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นที่เราต้องซื้อโน๊ตบุ๊คมือสองมาใช้ เพราะมันถูกกว่ากันนิดหน่อยเท่านั้นเอง แถมไม่ค่อยมีประกันด้วย
น้องๆ ลองเสียเงินเพิ่มอีกสักเล็กน้อย เพื่อแลกกับของดี มือหนึ่งก็เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า แล้วอย่าลืมว่า!!! น้อง ๆ จะต้องใช้เจ้าเครื่องนี้นานถึง 4 – 6 ปีเลยทีเดียว หากช่วงไหนที่ทำรายงานหรือตัวจบแล้วเครื่องเกิดมีปัญหาขึ้นมาละก็…ระวังจะแย่เอา เพราะในมหาวิทยาลัย อาจารย์ไม่สนใจข้ออ้างเหล่านี้ แถมค่าซ่อมโน๊ตบุ๊คยังมีราคาแพงอีกด้วย หากเทียบกันแล้ว การซื้อของมือ 1 ดีกว่าเยอะ
6. รู้จักสเปคของรุ่นที่จะซื้อหรือยัง?
สำหรับการเลือกซื้อโน๊ตบุ๊คมีสิ่งที่ควรคำนึงอยู่ 3 ส่วน นั่นคือ RAM, การ์ดจอ, CPU นอกจากนี้สิ่งที่พิจารณาเป็นอันดับต่อมาคือ ความจุของ Hard disk แต่ในปัจจุบันเทคโนโลยีของการจัดเก็บข้อมูลของ Notebook จะค่อนข้างสูงอยู่แล้ว เมื่อเทียบกับราคาที่ถูกลงเรื่อย ๆ เพราะฉะนั้น การดูความจุอาจจะไม่จำเป็นมากนัก
7. การรับประกันของแต่ละยี่ห้อ นานเท่าไร?
ข้อนี้สำคัญมากไม่ใช่แค่น้อง ๆ นักศึกษาเท่านั้น แต่ทุกคนต้องรู้เอาไว้จงอย่าลืมศึกษาและสอบถามข้อมูลกับผู้ขายให้ดี ๆ ก่อน หากคุณจะต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้น เพื่อได้รับความคุ้มครองหรือการประกันภัยเพิ่มขึ้น ระยะเวลาการประกันที่ยาวนานขึ้น ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะเราอย่าลืมความจริงข้อหนึ่งว่าโน๊ตบุ๊คมีความทนทานในการใช้งานน้อยกว่า คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ หากเราต้องมีการส่งซ่อมหรือเปลี่ยนอะไหล่อยู่ตลอด ก็อาจจะหน้ามืดกับค่าซ่อมแซมได้ง่าย ๆ เพราะค่าซ่อมนั้นมีราคาแพงมาก (ในกรณีที่ไม่ได้อยู่ในประกัน)
แต่อย่าลืม พิจารณาราคาของค่าประกัน รวมทั้ง ราคาโน๊ตุบ๊ค ในอนาคตด้วย บางทีการซื้อใหม่อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการนำไปซ่อมก็ได้
สุดท้ายนี้ หากถามว่าควรจะเลือกซื้อ โน๊ตบุ๊คยี่ห้อไหนดี ผมคงไม่สามารถให้คำตอบได้ แต่…อยากให้น้อง ๆ ลองใช้หลักทั้ง 7 ข้อที่เราได้นำมาแนะนำกันในวันนี้ และลองเปรียบเทียบรุ่นในแต่ละยี่ห้อดู ว่ายี่ห้อไหนที่ตรงกับความต้องการของเรามากที่สุด และนอกจากจะเปรียบเทียบรุ่นและยี่ห้อแล้ว ก็อย่าลืมเปรียบเทียบราคากันด้วย กำหนดงบประมาณในการซื้อ, เลือกที่เหมาะกับคณะที่ตนเองเรียนและเป็นสไตล์ที่ตนเองชอบ จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียดายในภายหลัง อาจจะไม่หรูมากแต่ก็ใช้ได้จนจบปริญญาตรี แค่นี้ก็ถือว่าคุ้มสุด ๆ แล้ว