ชัชชาติ ย้ำ ผู้ว่าฯ ต้องรับมือน้ำท่วมทั้งปี ไม่ใช่แค่หน้าฝน เสนอ 'อุดฟันหลอ' คันกั้นแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมใช้เทคโนโลยี ป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพฯ

ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 8 ลงพื้นที่เขตดุสิต ที่ตลาดเทวราช พร้อมสำรวจสถานีสูบน้ำเทเวศร์ บริเวณปากคลองผดุงกรุงเกษมเชื่อมแม่น้ำเจ้าพระยา

ชัชชาติ กล่าวว่า เขตดุสิตมีจุดเสี่ยงน้ำท่วมบนถนนสายหลักและจุดเฝ้าระวังน้ำท่วม เช่นเดียวกับใน กทม. หลายพื้นที่ เป็นเหตุให้เกิดน้ำท่วมกรณีฝนตกหนัก อย่างไรก็ตาม นอกจากปริมาณน้ำฝน ปัจจัยที่ก่อความเสี่ยงน้ำท่วมในเขตดุสิต ยังมีสาเหตุจากน้ำเหนือและน้ำทะเลหนุน เนื่องจากพื้นที่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา ดังนั้น นอกจากการขุดลอกคลองและท่อระบายน้ำอย่างสม่ำเสมอ ชัชชาติยังเสนอให้สำรวจคันกั้นน้ำบริเวณชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งยังพบปัญหา “ฟันหลอ” หรือยังไม่มีการก่อสร้างคันกั้นน้ำ นอกจากนี้ ยังเสนอใช้เทคโนโลยีคาดการณ์ความเสี่ยงน้ำท่วม พร้อมทบทวนแผนการและผลักดันโครงการทั้งระบบ ครอบคลุมปัญหาน้ำท่วมถนนสายหลักและตรอกซอยทั่วกรุงเทพฯ

“การแก้ปัญหาน้ำท่วมไม่ควรแก้ช่วงหน้าฝน เพราะถึงหน้าฝนก็สายเสียแล้ว จริงๆ ต้องเริ่มรับมือตั้งแต่หน้าแล้ง ต้องขุดลอกคูคลอง ขุดลอกท่อระบายน้ำ แล้วตรงเทเวศร์ปัญหาไม่ใช่แค่น้ำฝน แต่ยังมีน้ำคลอง น้ำทะเลหนุน น้ำเหนือลง เพราะถ้าน้ำไหลเร็วเกิน 2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะเกิดปัญหาน้ำเอ่อล้นออกมา เพราะฉะนั้นต้องเร่งสำรวจคันกั้นน้ำ และเร่งแก้ไขปัญหาจุดที่เป็นฟันหลอ” ชัชชาติ กล่าว

ชัชชาติ ยังกล่าวถึงศักยภาพของคลองผดุงกรุงเกษมว่าเป็นเส้นทางสัญจรทางน้ำสำคัญ ปัจจุบัน กทม. ได้ให้บริการเดินเรือเชื่อมต่อกับเรือด่วนเจ้าพระยา เรือคลองแสนแสบ และรถไฟฟ้าบางสถานี เป็นต้นแบบที่สามารถขยายการให้บริการในพื้นที่ฝั่งธนบุรี เช่น คลองภาษีเจริญ ที่ปัจจุบัน กทม. ได้ยุติการให้บริการชั่วคราว ขณะที่ฝั่งพระนคร เสนอให้ขยายเส้นทางเดินเรือคลองแสนแสบไปยังพื้นที่กรุงเทพฯรอบนอก และเรือคลองลาดพร้าวที่เชื่อมต่อกับเส้นทางรถไฟฟ้าทั้งเก่าและใหม่หลายสถานี

สำหรับผลการสำรวจความคิดเห็นประชาชนต่อการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก. โดยสถาบันพระปกเกล้า ชัชชาติมองว่า ถือเป็นเรื่องดี เนื่องจากสะท้อนให้เห็นความตื่นตัวของประชาชนต่อการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ในรอบ 9 ปี และ ส.ก. ในรอบ 13 ปี ทั้งนี้ ยังจำเป็นต้องปรับกลยุทธ์หาช่องทางสื่อสารไปยังกลุ่มที่ยังไม่ตัดสินใจเลือกใครให้มากยิ่งยิ่งขึ้น เช่น นำเสนอนโยบายผ่านสื่อกระแสหลัก เช่น วิทยุ-โทรทัศน์ รวมทั้งแจกเอกสารแนะนำตนเองเพิ่มเติม ย้ำพยายามทำทุกทางให้ดีที่สุดในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง