เติมเต็มหัวใจด้วยเพลงเศร้า เคล้าเนื้อเพลงชวนคิดตาม กับ 'บีน นภสร' นักร้องสาวเสียงนุ่ม แต่ทรงพลัง ผู้ที่แฟนคลับขนานนามให้เป็น 'ตัวแทนแห่งความอกหัก' เปิดใจเล่าถึงกระบวนการคิดในการสร้างตัวตน ผ่านโจทย์ไม่ง่ายอย่างการเป็นศิลปินที่เน้นทำเพลงช้า (และเศร้า) ที่เข้าใจคนฟัง ไปจนถึงเหตุผลที่หลายเพลงของเธอถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับ 'Toxic Relationship' หรือความสัมพันธ์เป็นพิษ ที่นักฟังหลายคนอาจเคยมีประสบการณ์ร่วมจนทำให้อิน และ 'หลงรัก' บทเพลงของเธอได้ง่ายๆ
พร้อมปลดล็อกความรู้สึกของการ 'กล้าตัดสินใจ' ไปกับบีน ในเพลงใหม่ล่าสุด 'ทำดีตอนนี้ไม่ทันแล้ว'
บีน นภสร คือใคร?
"หลายๆ คนอาจจะรู้จักบีนจากเพลง 'เธอรักเขาตอนเรารักกัน' 'ไม่อยากเป็นเพื่อนกับแฟนเก่า' และเพลงใหม่ล่าสุดคือ 'ทำดีตอนนี้ไม่ทันแล้ว' เป็นเพลงเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน จริงๆ สังเกตจาก 'เธอรักเขาตอนเรารักกัน 'ไม่เกรงใจฉัน' บีนจะพยายามยึดคอนเซปต์นี้ในการถ่ายทอดเรื่องราวในเพลง คือทุกเพลงจะมีบุคคลที่สามมาเกี่ยวข้องเสมอ พูดง่ายๆ คือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่ท็อกซิก (Toxic Relationship)
"เพลง'ทำดีตอนนี้ไม่ทันแล้ว' เป็นสถานการณ์ที่ถ้าเราต้องตกอยู่ในความสัมพันธ์ที่อีกฝ่ายหนึ่งนอกใจเราจะรู้สึกยังไง? แล้วถ้าเขากลับมาขอโอกาส เราจะให้โอกาสเขาแก้ตัวไหม?
"แล้วมันก็จะมาถึงจุดที่วันนึงเราคุยกับตัวเองว่าเราจะให้โอกาสเขาบ่อยๆ ดีไหม? ถ้าสมมติว่าเรากลับมามองว่าเรารู้สึกยังไงกันแน่ เรามีความสุขเหรอ? และบางทีเราก็จะอาจจะเลือกได้ว่า ถ้าเขามาทำดีตอนนี้ มันจะทันไหม?"
เรื่องเพลงเศร้าต้องยกให้ 'บีน'
"ตัวบีนเข้ากับเพลงช้าได้ดีกว่าอยู่แล้ว ด้วยเสียงเราและความเป็นเราหลายๆ อย่าง คือบีนก็สนุกได้นะ แต่เพลงช้าเหมาะกับเรามากกว่า ประกอบกับครีเอทีฟคือ 'พี่น้ำตาล จิณห์วรา' ซึ่งเป็นคนที่เขียนเพลงเกือบทุกเพลงของบีนเลย ร่วมกับ 'พี่กัปตัน OneOne' เขาเห็นลุค และความเป็นบีน ทุกอย่างมันคลิกกันหมด ลงตัวที่เพลงช้า"
บาลานซ์ตัวตนกับเพลงเศร้า
"บีน นภสร ในมุมมองของคนที่ฟังเพลงหรือที่ติดตามเรา อาจมองว่าเราเป็นคนเท่ มั่นใจ เคยมีคนบอกว่าเราร้องเพลงเศร้าตลอดเวลาเลย เป็นตัวแทนแห่งความอกหัก แต่จริงๆ แล้วบีนคนนี้เป็นไม่ค่อยได้มั่นขนาดนั้นนะ เรียกว่าง้องแง้ง เงอะงะเลยมั้งคะ (หัวเราะ) คือไม่ได้เป็นคนมั่นใจเหมือนที่หลายคนเห็นในเพลงเลย
"บีนรู้สึกว่าตัวตนเราจริงๆ เป็นคนที่อ่อนไหวพอสมควร คิดหลายอย่างก่อนจะทำอะไร แต่บีน นภสร ในเพลงหรือจากผลงานที่หลายๆ คนเห็นน่าจะเป็นคนที่ถ้าคิดได้แล้วตัดสินใจทำทันที นั่นคือความต่างค่ะ
"ซึ่งความต่างนี้มันก็มีข้อดีและไม่ดี ตัวเราก็มีโอกาสเข้าใจบีน นภสรในมุมที่เขามั่นใจ รู้สึกยังไง หรือว่าคิดยังไง ในอีกมุมถ้าเป็นคนอย่างเราก็คงไม่ได้คิดแบบนั้น แต่มันไม่ได้ยากนะคะ เพราะเราเบลนด์มันเข้าหากัน แล้วเราไม่ได้ให้มันคอนทราสต์กันเหมือนหยินหยางขนาดนั้น เราทำให้มันออกเทาๆ มากกว่า"
ตัวจริงเรื่อง 'ร้องสด'
"เราถนัดเรื่องร้องเพลงและเพอร์ฟอร์มอยู่แล้ว พอต้องทำงาน เราก็สามารถเป็นตัวตนของ 'บีน นภสร' ได้เลย เพราะบีนถ่ายทอดผ่านบทเพลงล้วนๆ และมันจะเป็นด้านที่เข้ากับเรามาก คือจับไมค์ปุ๊บแม่มาเลย (หัวเราะ)
"เวลาจะขึ้นเวทีบีนจะชอบคิดในหัวว่า"ไป! ไปโชว์ให้เขาดู! ทุกคนตั้งใจมาดูเรา" ก็พยายามนึกคำเหล่านี้วนไปเรื่อยๆ เราต้องทำให้เต็มที่ นี่จะเป็นโชว์ที่ดีที่สุดของคนดูในทุกๆ ครั้งที่ดู อันนี้คือการเตรียมตัวทางด้านจิตใจ
"ส่วนเรื่องเตรียมตัวด้านร่างกายก็มีวอร์มเสียง ทำตัวใหญ่ๆ เข้าไว้เวลาอยู่บนเวที เราอยากส่งอินเนอร์และความรู้สึกจริงๆ ที่เราอยากสื่อ ให้คนรู้สึกผ่านเสียงของเรา สมมติว่าคนมาดูเขาอยู่ไกลสุดนู้น เราจะทำยังไงดีให้เสียงของเราส่งอารมณ์ไปถึงเขาให้ได้ แต่สำหรับเราการเอ็นเตอร์เทนเป็นส่วนที่ยากที่สุด เพราะปกติเวลาเราไปดูคอนเสิร์ตมันจะมีพาร์ทนึงที่เราอยากจะจอยกับศิลปินด้วย แล้วเพลงสนุกเราค่อนข้างน้อย (หัวเราะ) ก็เลยต้องหาเรื่องสนุกมาเอ็นเตอร์เทนคนดูให้ได้"
หรือบีนต้องมี TikTok Challenge!
"ยังคิดไม่ออกนะคะ แต่ประเด็นคือคุณต้องเต้นเก่งด้วยไง ซึ่งบีนอะ.. (หัวเราะ) เดี๋ยวลองดูแล้วกันว่าจะทำได้ไหม อาจจะทำแบบ POV ไปก่อนแล้วกัน อาจจะไม่ถึงทำชาเลนจ์ ถ้าบีนทำอาจจะเป็นเซอร์ไพรส์ใหญ่สำหรับแฟนคลับเลยนะ (หัวเราะ) อยากให้รอติดตามแล้วกันว่าปีนี้จะมีอะไรเซอร์ไพรส์ เพราะมีแน่นอน!"
'ทำดีตอนนี้ไม่ทันแล้ว'
"เพลงนี้เราต้องการให้ไดเรกชั่นของ บีน นภสร มันชัดเจน ดังนั้นในเรื่องของเพลงก็เลยมีโจทย์ว่าเราจะเล่าถึงความสัมพันธ์ที่ท็อกซิก แต่เราจะเล่ายังไงดีไม่ให้ซ้ำกับสิ่งที่เคยพูดมาแล้วพี่น้ำตาล พี่กัปตัน แล้วก็พล คชภัค (ผู้บริหารค่ายเพลง Boxx Music) นั่งคุยกันแล้วก็ได้เดโม่ท่อนฮุกมาเสนอเรา ซึ่งโดนรื้อหมดเลยตอนแรก (หัวเราะ) แต่เรื่องราวและคอนเซ็ปต์มันไม่ได้เปลี่ยนอะไรค่ะ จากนั้นก็ส่งให้พี่หมู Instinct เรียบเรียง
"สำหรับเพลงนี้บีนชอบตั้งแต่อินโทรที่มีเสียงกีตาร์โปร่ง พอบีนได้ยินเสียงนั้นบีนชอบเลย เพราะมันคือเสียงที่พี่พลเป็นคนเล่นเอง แล้วมันก็เป็นเสียงที่เราคุ้นเคย เราโตมากับเพลงป๊อปร็อกยุค 2000 แบบนี้ แล้วนี่คือกลิ่นอายที่เราจะสื่อ เป็นความลงตัวที่ประกอบเป็นบีนได้พอดีเลยค่ะ"
เพลงที่ทำให้ทบทวน 'ความสัมพันธ์เป็นพิษ'
"เราให้ความสำคัญกับคนที่อยู่ในความสัมพันธ์แบบนี้มากเลย เราถึงตั้งใจเล่าเรื่องพวกนี้ผ่านเพลง แม้ว่าตอนนี้เขาจะเศร้าที่สุดแล้ว เขาไม่เหลือใครแล้ว แต่เพลงเรามันยังเป็นเพื่อนให้เขาได้ จริงๆ เคยมีแฟนคลับเดินเข้ามาบอกว่าเวลาเขาฟังของบีน เขารู้สึกว่าเพลงของเราเป็นเพื่อนที่ให้พักพิง เหมือนเพลงเรามันมีความกล้าบางอย่างที่ตัวเขาเองอาจยังไม่มีตอนนั้น และเมื่อฟังแล้วมันทำให้เขารู้สึกกล้า กล้าที่จะเชื่อมั่นในตัวเองแล้ว มันก็เลยเหมือนเขาจะชอบมุมนี้ของเพลงเราค่ะ"
เพลงและ 'เพื่อน' ที่รับฟัง
"ตัวจริงบีนเป็นสายนั่งฟังเวลาเพื่อนมาปรึกษาเรื่องความรัก คือเราเป็นคนที่ชอบฟัง แล้วคนก็มักจะเข้าหาเพื่อเล่าให้เราฟัง เพราะเราไม่ค่อยตอบอะไรมั้งคะ (หัวเราะ) คือเราฟังเขาเล่ามากกว่า บีนรู้สึกว่ามันเป็นจิตวิทยานิดนึงว่าเวลาเขาได้พูด แล้วเราค่อยๆ ถามเขาว่าเขารู้สึกยังไง จะทำยังไงต่อ คิดยังไงอยู่ แล้วค่อยมาปิดท้ายว่าถ้าเป็นเรานะ อะไรแบบนี้
"ซึ่งก็มีนะ คนที่พอแนะนำแล้วเขาก็ทำแบบเดิมอยู่ดี (หัวเราะ)"
ความ 'ท็อกซิก' ที่ต่อให้ทำดียังไง..ก็ไม่ทัน
"เราให้ความไม่ซื่อสัตย์ค่ะ เพราะความรักมันไม่ควรมีรักที่มากกว่า 1 คน คือถ้ามีความนอกใจเกิดขึ้นมันก็เป็นเรื่องต้องห้ามอยู่แล้ว มันยากในการให้อภัยนะ เพราะถ้าเขามีคนอื่นก็แปลว่าเขาไม่ให้เกียรติเราขนาดนั้น มันทำให้ตั้งคำถามว่าเราไม่มีคุณค่าพอเขาถึงต้องไปหาคนอื่นเหรอ ถ้ามีเรื่องนี้คงเลิกเลยค่ะ"
ความสุขของ 'บีน นภสร'
"คือการร้องเพลงค่ะ มันเป็นการฮีลใจตัวบีนเองด้วย บีนว่าศิลปินส่วนใหญ่ก็น่าจะรู้สึกเหมือนกัน มันยากที่จะอธิบายแต่ว่ามันมีความสุขนะที่ได้เป็นตัวแทนถ่ายทอดเรื่องราวความไม่สมหวังเหล่านี้ ยิ่งเวลาเราไปโชว์แล้วเห็นว่ามีคนฟัง เราจะรู้สึกเลยว่าเราได้ปลดล็อกบางอย่างในความเศร้านั้นของเขา ก็เป็นความสุขอีกอย่างของเราเหมือนกัน"
ติดตามเพลง 'ทำดีตอนนี้ไม่ทันแล้ว' จาก 'บีน นภสร' ได้ทุกช่องทางสตรีมมิ่งแพลตฟอร์ม
ร่วมเป็นด้อม 'เมล็ดถั่ว' ของบีน ใน OPENCHAT :
IG : @beannbeann
FACEBOOK : Bean Napason
TWITTER : @BNapason
ความเห็น 0