ความพยายามจุดกระแส "อุ๊งอิ๊ง" แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวสุดเลิฟเฮียโทนี่ ทักษิณ ชินวัตร ให้เจิดจรัสบนฟากฟ้าอยู่ภายใต้การจับตาจากทั้งศัตรูคู่แค้นทางคับแคบอย่างค่ายพลังประชารัฐ และคู่แข่งฝ่ายประชาธิปไตยเหมือนกัน อย่างค่ายก้าวไกลของ หนุ่มทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่สืบสานเจตนารมณ์มาจาก "เสี่ยเอก" ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ใช้การตลาดจับการเมือง ทำให้มัดใจกลุ่มเยาวชนคนหนุ่มสาวได้เป็นอย่างดี
โดยในช่วงจังหวะการเมืองร้อนแรงอย่างในศึกอภิปรายในสภา หนุ่มพิธา ทำความผลงานได้เป็นอย่างดี มีลูกหนัก ลูกเบา วาจาคมคายปนเหน็บแนมอย่างต่อเนื่อง จนได้รับคำชมทั้งจากฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลเอง แถมในช่วงปี 2564 ผลโพลจากสำนักหนึ่ง ปรากฏว่านายกรัฐมนตรีที่ประชาชนส่วนใหญ่อยากได้คือ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ร้อยละ 28.67 รองลงมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร้อยละ 21.27
ส่วน "อุ๊งอิ๊ง" นั้น เทียบโปรไพล์กับ พิธา นั้นใกล้เคียงกันมาก ทั้ง รูปร่างหน้าตา การศึกษา ชาติตระกูล ฐานะทางสังคม คุณวุฒิ วัยวุฒิ และการที่ เฮียโทนี่ ส่ง "อุ๊งอิ๊ง" เข้าสู่ตลาดการเมืองนั้น ย่อมหมายใจจะเข้าไปแย่งชิงมวลชนจากกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่ ค่ายก้าวไกล กุมหัวใจ คน Gen X, Gen Y และ Gen Z ไว้ได้เกือบเบ็ดเสร็จ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนแบรนด์ ของเพื่อไทยให้มีลุคทันสมัย และคนรุ่นใหม่เข้าถึงได้มากขึ้น
และแม้ ทั้งค่ายเพื่อไทยและ ซุ้มก้าวไกล จะอยู่ในฝั่งฝ่ายค้านเหมือนกัน มีเป้าประสงค์ต้องการล้มรัฐบาลลายพรางเหมือนกัน แต่กลยุทธ์การเดินเกมทางการเมือง หรือยุทธศาสตร์ในการสร้างตัวตน รวมไปถึงจุดยืนทางการเมืองไม่เหมือนกัน จึงทำให้เกิดการขบเหลี่ยม ปีนเกลียวกันหลายครั้ง ไล่มาตั้งแต่สมัยพ่อของฟ้าธนาธร ไปทะลึ่ง พาดพิง จนโดนถล่มหนัก จนต้องออกมาขอโทษขอโพยกันยกใหญ่
หรือจะประเด็นที่ติ่งส้มที่ต้องการไปให้ทะลุเพดาน ประกาศกล้าท้าชนนายทุน ขุนศึกศักดินา เพื่อเปลี่ยนแปลงแบบล้มกระดานโครงสร้างสังคมไทย แต่สาวกเพื่อไทยไม่สนองตอบกับประเด็นดังกล่าว กลับไปเน้นย้ำที่จะเข้าไปนั่งในหัวใจของคนรากหญ้าเหมือนเดิม พร้อมมีความหวังสูงสุดที่อยากให้คนแดนไกลกลับบ้าน จึงทำให้ติ่งส้มไม่แฮปปี้ มองว่าทักษิณสู้ไม่เต็มสูบ มีกั๊ก จึงทำให้ไม่เก็ตประเด็น "จะพาพ่อกลับบ้าน"ของอุ๊งอิ๊ง
ดังนั้นเมื่อคราวที่ "อุ๊งอิ๊ง"เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี2564 นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เด็กค่ายส้มออกมาบอกว่าพรรคเพื่อไทยจะเอาใครมาทำงานก็ได้ แต่การเป็นพรรคที่ประชาชนคาดหวัง จะต้องเป็นสถาบันทางการเมือง ไม่ใช่เป็นของตระกูลใดตระกูลหนึ่ง หรือกลุ่มทุนใดกลุ่มทุนหนึ่ง
และที่ผ่านมาปรากฏร่อยรอยความขัดแย้งระหว่างเพื่อไทยและก้าวไกลมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในและนอกสภา หรือแม้กระทั่งในสนามเลือกตั้งซ่อม โดยความแย้งดังกล่าว ทาง "ใบตองแห้ง" คอลัมนิสต์ชื่อดัง เคยเขียนไว้ว่า "ทั้งสองพรรคแม้อยู่บนฐานประชาธิปไตยไม่เอาเผด็จการ แต่มีความแตกต่างในแนวทาง เป้าหมาย ความคิด วิธีทำงานการเมือง ตั้งแต่แกนนำ องค์กร ไปถึงมวลชน ก็มีทัศนะและที่มาแตกต่างกัน"
"เพื่อไทยกับก้าวไกลเป็นแนวร่วมประชาธิปไตย ที่ทั้งต้องร่วมมือกันและต่อสู้แข่งขันกันเอง เลี่ยงไม่ได้ที่จะซัดกัน ทั้งตัวพรรค ตัวบุคคล และกองเชียร์ แต่ประเด็นสำคัญคือเคารพสิทธิผู้เลือกตั้ง ยอมรับว่าคนเลือกแต่ละพรรคมีความคิดต่าง ถ้าเขาไม่เลือกก็อย่าโทษประชาชนหรือด่าพรรคคู่แข่ง ต้องน้อมรับและปรับตัวเอง ว่าทำไมไม่ชนะใจคน"
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews