เฮลซ์บลูบอย เริ่มต้นจากร้านโชห่วย สู่รายได้พันล้าน เปิดตัวบลูฮาวาย กลิ่นใหม่ในรอบหลายสิบปี
เชื่อว่าหลายบ้านต้องมีขวดน้ำหวานสีแดงติดบ้านกันไว้บ้าง นั่นคือ เฮลซ์บลูบอยกลิ่นสละ ทั้งยังเป็นรสชาติที่คุ้นเคยกันมาตั้งแต่เด็ก และเป็นรสชาติขายดีของแบรนด์
มาวันนี้ เฮลซ์บลูบอยเปิดตัวน้ำหวานสีฟ้าตัวใหม่ กลิ่นบลูฮาวาย แม้หลายความเห็นในโลกออนไลน์จะคอมเมนต์ในทิศทางว่ามาช้า แต่ในด้านของแบรนด์น้ำหวานที่อยู่มามากกว่า 6 ทศวรรษ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่
เพราะไม่แน่เราอาจจะได้เห็นสี และกลิ่นอื่นๆ ของเฮลซ์บลูบอยมากขึ้นก็เป็นได้ ซึ่งเรื่องราวที่มาที่ไปจะเป็นอย่างไร 9 กลิ่นก่อนหน้ามีอะไรบ้าง
จุดเริ่มต้น “เฮลซ์บลูบอย”
เรื่องราวของแบรนด์น้ำหวานแบรนด์นี้ เริ่มต้นเมื่อปี 2502 จากการมองเห็นโอกาสและการคิดค้นโดย พี่น้อง 4 คนแห่งตระกูลพัฒนะเอนก ซึ่งขณะนั้นยังทำร้านโชห่วย และเห็นช่องว่างของธุรกิจนี้ เพราะยังมีน้อยมากในตลาดเมืองไทย
จึงได้เริ่มพัฒนาสูตรน้ำหวาน และวางขายที่ร้านของตัวเอง แต่กลับกลายเป็นว่า สินค้าขายดีอย่างมาก จึงมองเห็นโอกาสใหม่ นั่นคือ การสร้างแบรนด์ ซึ่งเฮลซ์บลูบอย ถือเป็นแบรนด์น้ำหวานลำดับแรกๆ ของไทยที่สร้างแบรนด์และมีเครื่องหมายการค้าที่ชัดเจน และกลายมาเป็นน้ำหวาน “เฮลซ์บลูบอย” ที่ทุกคนชื่นชอบมาจนถึงตอนนี้
กระทั่งปี 2521 เริ่มจดทะเบียน บริษัท เฮลซ์เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ทำหน้าที่ผลิตและจำหน่ายน้ำหวานเข้มข้น และน้ำตาลก้อนสำหรับใช้กับเครื่องดื่มกาแฟ
หนึ่งในภาพจำสำคัญของแบรนด์นี้คือ ตัวอักษรและรูปเจ้าหนูบลูบอยที่เป็นโลโก้สำคัญของแบรนด์ ซึ่งทำมาจากการสลักบนแผ่นไม้ด้วยมือทั้งหมด ไม่ได้ผ่านการออกแบบจากคอมพิวเตอร์แต่อย่างใด ทำให้ได้เอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร และยากต่อการเลียนแบบด้วยเช่นกัน
น้ำหวาน “ขวดแก้ว”
อีกหนึ่งเอกลักษณ์สำคัญของ “เฮลซ์บลูบอย” คือ การใช้ขวดแก้วเป็นบรรจุภัณฑ์ ซึ่งช่วยให้น้ำหวานมีอายุการเก็บรักษาที่นานกว่าเดิม นอกเหนือจากการใช้วัตถุดิบคุณภาพดี
และสิ่งที่แบรนด์คิด ก็ไม่ได้อนุมานหรือจินตนาการขึ้นมาเอง เพราะมี ข้อมูลยืนยัน ว่า การใช้ขวดแก้ว ช่วยให้คุณภาพของน้ำหวานหรือน้ำเชื่อมต่างๆ คงอยู่ได้นานกว่าการใช้ขวดพลาสติก เนื่องจากออกซิเจนสามารถซึมผ่านขวดพลาสติก และทำปฏิกิริยาต่อน้ำหวานหรือน้ำเชื่อมที่บรรจุภายในขวดพลาสติก ซึ่งจะทำให้สีของน้ำหวาน-น้ำเชื่อมมีความเข้มขึ้น และมีผลต่อรสชาติอีกด้วย
อีกหนึ่งความเจ๋งของน้ำหวานคือ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ต้องแนะนำหรืออธิบายการใช้งานให้มากมาย เพราะสามารถใช้ชงกับน้ำดื่มหรือโซดา เป็นเครื่องดื่มเย็นๆ ชื่นใจได้เลย หรือจะหยิบมาครีเอตเป็นเมนูของหวานต่างๆ ได้ตามใจ
ซึ่งในตลอดระยะเวลา 64 ปีที่ผ่านมา เฮลซ์บลูบอย มีทั้งหมด 9 กลิ่น ดังนี้
น้ำหวานเฮลซ์บลูบอยกลิ่นสละ
น้ำหวานเฮลซ์บลูบอยกลิ่นครีมโซดา
น้ำหวานเฮลซ์บลูบอยกลิ่นสับปะรด
น้ำหวานเฮลซ์บลูบอยกลิ่นองุ่น
น้ำหวานเฮลซ์บลูบอยกลิ่นสตรอเบอร์รี
น้ำหวานเฮลซ์บลูบอยกลิ่นแคนตาลูป
น้ำหวานเฮลซ์บลูบอยกลิ่นซาสี่
น้ำหวานเฮลซ์บลูบอยกลิ่นมะลิ
น้ำหวานเฮลซ์บลูบอยกลิ่นกุหลาบ
และใหม่ล่าสุดกลิ่นที่ 10 คือ น้ำหวานเฮลซ์บลูบอยกลิ่นบลูฮาวาย
ส่องผลประกอบการ เฮลซ์บลูบอย
ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า บริษัท เฮลซ์เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด มีทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 60 ล้านบาท และมีผลประกอบการ 5 ปีย้อนหลัง ตั้งแต่ปี 2560-2564 เป็นดังนี้
พ.ศ. 2560
รายได้รวม 2,594,036,000.00 บาท
รายจ่ายรวม 2,003,858,000.00 บาท
กำไรสุทธิ 465,097,000.00 บาท
พ.ศ. 2561
รายได้รวม 2,888,963,000.00 บาท
รายจ่ายรวม 1,953,730,000.00 บาท
กำไรสุทธิ 749,186,000.00 บาท
พ.ศ. 2562
รายได้รวม 3,768,881,000.00 บาท
รายจ่ายรวม 2,394,970,000.00 บาท
กำไรสุทธิ 1,099,086,000.00 บาท
พ.ศ. 2563
รายได้รวม 3,319,766,000.00 บาท
รายจ่ายรวม 1,999,857,000.00 บาท
กำไรสุทธิ 1,057,203,000.00 บาท
พ.ศ. 2564
รายได้รวม 3,563,337,165.83 บาท
รายจ่ายรวม 2,140,796,076.67 บาท
กำไรสุทธิ 1,137,320,288.98 บาท
ขอบคุณข้อมูลจาก ประชาชาติธุรกิจ