“ศิริโชค” โพสต์เฟซฯ แจง ปม “ศรีสุวรรณ” ชี้ หญิงแฟนคลับจิตไม่ปกติ ชอบอ้างเป็นเมียมีลูกด้วยกัน ทั้งไม่เคยมีความสัมพันธ์ใดๆ แถมรุกล้ำความเป็นส่วนตัว บุกโรงแรมที่ กทม. ยันบ้านที่สงขลา จนต้องแจ้งข้อหาบุกรุก ลั่น ไม่เลิก ดำเนินคดีถึงที่สุด
วันที่ 8 ส.ค. 2563 นายศิริโชค โสภา อดีต ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว Sirichok Sopha ชี้แจงกรณีข่าวที่ถูกพาดพิงว่า “เรียนพี่น้องประชาชน และสื่อมวลชนที่เคารพ
สืบเนื่องจากที่ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้รับการร้องเรียนจาก น.ส.เพ็ญจันทร์ ล้อสีทอง ว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรม จากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สุทธิสาร อันเนื่องมาจากการไม่เร่งรัดจับกุมผู้กระทำความผิด ฐานเจตนาร่วมกันทำร้ายร่างกายและจิตใจ สาเหตุมาจากถูก อดีต ส.ส. ซึ่งเป็นนักการเมืองชื่อดัง ค่ายสีฟ้า และลูกน้องรุม รวม 5 คน ร่วมกันทำร้ายร่างกาย ณ โรงแรมของนักการเมืองดังกล่าวที่ตั้งอยู่บริเวณ ถ.วิภาวดี 20 ตั้งแต่เมื่อ วันที่ 3 ม.ค.63 แล้วนั้น ผมต้องขออนุญาตชี้แจงข้อเท็จจริงที่มีการพาดพิงถึงผม แม้ว่าจะไม่มีการเอ่ยชื่อผมก็ตาม
ข้อเท็จจริงในประเด็นนี้ก็คือ ผู้หญิงคนนี้เป็นแฟนคลับ รายการ "สายล่อฟ้า" และมีความคลั่งไคล้ คุกคาม และติดตามผมไปแทบทุกที่ เป็นเวลาประมาณ 5-6 ปี แล้ว โดยที่ผมไม่เคยมีความสัมพันธ์ หรือรู้จักเป็นการส่วนตัว ผู้หญิงคนนี้แอบอ้างอยู่เสมอว่าเป็นภรรยาผม จนล่าสุดผมได้ดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาในเฟซบุ๊ก ที่ สน.สุทธิสาร เนื่องจากผู้หญิงคนนี้ได้ไปโพสต์ข้อความหลอกลวงคนทั่วไปว่า แต่งงานกับผมแล้ว (ตามภาพ)
นอกจากนี้ ผู้หญิงคนนี้ยังมีความผิดปกติทางจิต จินตนาการว่า คุยกับผมทางโทรจิต ทุกคืน และยังบังอาจกุเรื่องขึ้นมาว่า "มีลูกกับผม" ตามคลิปที่ได้โพสต์ นอกจากนี้ ผู้หญิงคนนี้ยังก่อกวน บุกรุก มาที่โรงแรมของที่บ้าน และบริเวณบ้านพักในกรุงเทพมหานคร แม้จะถูกตำรวจเชิญตัวออกหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่หยุด จนล่าสุดถูกดำเนินคดีข้อหาบุกรุกอีก 1 กระทง ที่ สน.สุทธิสาร และล่าสุดเมื่อเดือนมิถุนายน ปี 63 ที่ผ่านมา ผู้หญิงคนนี้ก็ยังบุกรุกมาบริเวณบ้านพักผมที่ อ.นาทวี จ.สงขลา บังคับให้คนทำความสะอาด เปิดบ้านพักและห้องนอนผม (โดยอ้างว่า ถ้าไม่เปิดก็จะไม่กลับ) จนผมได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.นาทวี อ.นาทวี จ.สงขลา ไว้แล้ว
นายศิริโชค ระบุต่อว่า สำหรับกรณีที่ผมถูกแจ้งความทำร้ายร่างกายนั้น ก็เป็นการแจ้งความเท็จ เพราะผู้หญิงคนนี้บุกเข้ามาที่โรงแรมฯ (โรงแรมประกาศเป็นบุคคลต้องห้าม ไม่ให้เข้า) ในจังหวะที่พนักงานโรงแรมเผลอ และมานั่งโต๊ะข้างๆ ผม และนั่งจ้องหน้าผม ขณะที่ผมกำลังนั่งคุยธุรกิจกับแขกคนจีนอยู่อีกโต๊ะ จากนั้นผู้หญิงคนนี้ก็ถือวิสาสะ เดินมาที่โต๊ะผม และส่งเสียงดังโวยวาย ผมและพนักงานโรงแรมจึงมีความจำเป็นต้องช่วยกันผลักดันให้ผู้หญิงคนนี้ออกไปจากโรงแรม เพื่อป้องกันผลที่จะกระทบกับแขกของโรงแรม พฤติกรรมของผู้หญิงคนนี้เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปของคนในพรรคประชาธิปัตย์ และนักข่าวในพรรคฯ เนื่องจากเป็นคนจิตไม่ปกติ อาศัยที่เป็นผู้หญิงที่มีอายุ (50+) และเป็นคนมีฐานะ จึงสามารถชักจูงโน้มน้าวให้คนเชื่อ และยังส่งข้อความไปยังแฟนคลับคนอื่น ว่า "จะยึดพรรคประชาธิปัตย์ และเป็นนายกรัฐมนตรี" (ตามภาพ) นอกจากนี้ยังส่งของใช้ต่างๆ มาให้ผมเป็นประจำ โดยระบุหน้าซอง ว่า "เป็นภรรยาคุณศิริโชค โสภา" ซึ่งผิดวิสัยของคนจิตปกติที่จะทำกัน ผมชื่นชมและให้กำลังใจคุณศรีสุวรรณ มาโดยตลอด ในการปฏิบัติหน้าที่ ตรวจสอบเพื่อประโยชน์ของสังคมโดยรวม ซึ่งไม่ต่างกับผมที่ทำงานตรวจสอบทั้งในสภาและนอกสภาฯ ผมจึงเข้าใจ แต่อย่างไรก็ตาม การทำหน้าที่ตรวจสอบ ถ้าเราไม่รอบคอบอาจจะกลายเป็นเหยื่อของผู้ไม่หวังดีได้ เช่นกรณีนี้ สำหรับ 3 คดี ที่ผมได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้หญิงคนนี้ ในเวลาไล่เลี่ยกัน กับที่ผู้หญิงคนนี้แจ้งความเท็จผมนั้น คดีเหล่านี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้าเช่นกัน แต่ผมถือว่าเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ที่เราเปิดโอกาสให้ตำรวจได้ทำงานอย่างเต็มที่ สุดท้ายนี้อยากจะฝากไปถึงพี่น้องประชาชน รวมทั้งสื่อมวลชน อย่าไปเชื่อการแอบอ้างของผู้หญิงคนนี้ ผมขอย้ำอีกทีครับ ผมไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว และไม่เคยมีความสัมพันธ์ใดๆ และหากยังไม่หยุดการแอบอ้าง ผมจะดำเนินคดีจนถึงที่สุด"
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง
- ถึงเวลาปฏิรูป ตร.-อัยการ "ศรีสุวรรณ" จ่อ ชง.ป.ป.ช.สอบ เป่าคดีโคเคน "บอส"
- ศรีสุวรรณ จี้ นายกฯ ตั้ง กก.สอบ "อัยการ-ตร." ถอนหมายจับ "บอส"
- ซัด "คดีบอส อยู่วิทยา" ไม่ชัดเจน ตู่ไม่โอเค ตามจับตาใกล้ชิด
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath
