โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

กรมศิลป์สั่งรื้อถอน ที่พักสงฆ์สร้างคร่อมทับโบราณสถาน ภายใน 60 วัน

ข่าวช่องวัน 31

อัพเดต 07 ต.ค. 2565 เวลา 04.27 น. • เผยแพร่ 07 ต.ค. 2565 เวลา 04.30 น.

วันที่ 7 ตุลาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีชาวบ้านในตำบลหลุ่งตะเคียน อำเภอห้วยแถลง จังหวัดนครราชสีมา ได้ร้องเรียนถึงปัญหาการบุกรุกพื้นที่โดยรอบโบราณสถานปราสาทบ้านหลุ่งตะเคียน ของที่พักสงฆ์วัดโคกปราสาท ซึ่งได้มีการสร้างอาคารครอบทับตัวปราสาทเก่าแก่และเข้าครอบครองพื้นที่โดยรอบโบราณสถานทำให้ชาวบ้านไม่สามารถเข้าใช้ประโยชน์ ประกอบพิธีกรรมตามความเชื่อที่สืบทอดกันมาได้ จนกระทั่งอธิบดีกรมศิลปากรได้มีหนังสือคำสั่งให้รื้อย้ายสิ่งปลูกสร้างที่บุกรุกพื้นที่โบราณสถาน เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมานั้น

ล่าสุดนายกิตติพันธ์ พานสุวรรณ อธิบดีกรมศิลปากร ได้มีหนังสือคำสั่งทางการปกครองแจ้งให้ผู้ดูแลที่พักสงฆ์วัดโคกปราสาท "ขอให้รื้อถอนอาคารหรือส่วนต่างๆ ของอาคารศาลาการเปรียญ (อาคารหมายเลข 44) ที่ปลูกสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาตออกจากเขตโบราณสถานปราสาทบ้านหลุ่งตะเคียน" ภายใน 60 วัน

ซึ่ง ดร.สุขอนันต์ วังสุนทร ประธานกรรมการบริหารองค์การสืบสวนการทุจริต ได้ประสานคณะกรรมการ FIO จังหวัดนครราชสีมา ในการขอเข้ารับสำเนาหนังสือคำสั่งที่สำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา เพื่อนำไปแจ้งให้กับชาวบ้านรับทราบข่าวสารหลังจากการต่อสู้ร้องเรียนมาเป็นเวลากว่า 10 ปี ใกล้จะได้ข้อสรุปในเร็ววันนี้ ท่ามกลางความยินดีของชาวบ้านที่จะได้ปราสาทหินคู่บ้านคู่เมืองกลับคืนมาให้ได้เป็นสมบัติของแผ่นดินสืบต่อไปถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน

ในขณะที่อีกด้านหนึ่งทางตัวแทนชาวบ้านผู้ร้องก็ได้เดินทางไปที่สถานีตำรวจภูธรเมืองพลับพลาและศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครราชสีมา หลังจากเอกสารสำคัญในหนังสือร้องเรียนซึ่งถือเป็นความลับในการต่อสู้ของชาวบ้านได้มีการหลุดไปยังฝ่ายตรงข้าม จนถูกแจ้งความกลับมาดำเนินคดีกับชาวบ้านเสียเอง อาทิ การแจ้งความในข้อหาลักทรัพย์เนื่องจากมีสิ่งของหลายรายการสูญหายไปจากตัวปราสาท ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการสืบค้นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังไม่ได้มีการออกหมายเรียกหรือแจ้งให้ผู้หนึ่งผู้ใดเข้าให้ปากคำ แต่ฝ่ายผู้ถูกร้องแจ้งความกลับดำเนินคดีในข้อหาแจ้งความเท็จ ทางฝ่ายตัวแทนชาวบ้านผู้ร้องจึงมีความสงสัยในการทำงานของหน่วยงานภาครัฐที่อาจจะมีส่วนรู้เห็นกับผู้ถูกร้อง จึงได้มายื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาคนใหม่ ผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครราชสีมา เพื่อช่วยกำชับการทำงานของหน่วยงานภาครัฐให้ทำงานอย่างตรงไปตรงมา ผิดถูกให้เป็นไปตามกฎหมาย

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0