โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

อาชญากรรม

ตม.สุราษฎร์ฯ ชี้คนร้ายก่อเหตุปล้นคริปโทชาวรัสเซีย 1.8 ล้าน หลบหนีออกนอกประเทศอีก 2 รวมเป็น 4 ราย

MATICHON ONLINE

อัพเดต 30 ก.ย 2565 เวลา 07.36 น. • เผยแพร่ 30 ก.ย 2565 เวลา 07.16 น.
รัสเซีย3

ตม.สุราษฎร์ฯ ชี้คนร้ายก่อเหตุปล้นคริปโทชาวรัสเซีย 1.8 ล้าน หลบหนีออกนอกประเทศอีก 2 รวมเป็น 4 ราย

วันที่ 30 กันยายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา ที่มีกลุ่มร้ายเป็นชายฉกรรจ์ชาวต่างชาติ จำนวน 6 คน เข้ามาข่มขู่ ทำร้ายร่างกาย และปล้นทรัพย์ นายเอฟกีนี่ อับดุลลิน (MR.EVGENll ABDULLIN) อายุ 31 ปี สัญชาติรัสเซีย กับภรรยา ขณะกำลังใช้บริการอยู่ภายในร้านกาแฟแห่งหนึ่งใน อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี โดยกลุ่มคนร้ายบังคับให้ผู้เสียหายโอนสกุลเงินดิจิทัลหรือคริปโทเคอร์เรนซี มูลค่า 50.000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 1.8 ล้านบาท หลังคนร้ายได้ทรัยพ์สินไปแล้วได้ใช้รถตู้สีดำ รถจักรยานยนต์ ขับหลบหนีไป

โดยเมื่อวันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุได้ 1 คน ทราบชื่อคือ นายอันเดรย์ นิจโกรอดต์ (MR.ANDREY NIZHEGORODTSEV) อายุ 37 ปี สัญชาติคาซัคสถาน จับกุมได้ที่บ้านพักในจ.ชลบุรี พร้อมของกลางรถตู้สีดำที่ใช้เป็นยานพาหนะในการก่อเหตุ ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 5 ราย ตรวจสอบพบว่าได้หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว 2 คน ได้แก่ นายซัลมาน อัลมาตี (MR.SALMAN ALMATY) อายุ 56 ปี สัญชาติคาซัคสถาน หลบหนีออกนอกประเทศไปเมื่อวันที่ 17 กันยายน 65 และนายชินกิส อัคมาโดฟ (MR.TSCHINGIS AKHMADOV) อายุ 39 ปี สัญชาติเยอรมัน หลบหนีออกไปเมื่อวันที่ 20 กันยายน

ด้าน พ.ต.อ.ศุภฤกษ์ พันธ์โกศล ผกก.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า จากการสืบสวนและติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุปล้นทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย พบว่าผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุได้หลบหนีออกนอกประเทศก่อนที่ผู้เสียหายจะไปแจ้งความดำเนินคดีอีก 2 คน ทราบชื่อว่านายมิเชล อายุ 35 ปี สัญชาติเยอรมัน หลบหนีออกนอกประเทศไปเมื่อวันที่ 18 กันยายน 65 และนายโกดาวอฟ อายุ 49 ปี สัญชาติคาซัคสถาน หลบหนีออกนอกประเทศไปเมื่อวันที่ 20 กันยายน 65 รวมหลบหนีออกไปทั้งหมด 4 คน

ส่วนที่อีก 1 คนคาดว่ายังหลบหนีอยู่ในประเทศไทย และเป็นคนขับรถตู้สีดำที่ใช้เป็นยานพาหนะในการก่อเหตุและหลบหนี ขณะนี้ยังไม่ทราบชื่อและสัญชาติ แต่จากกล้องวงจรปิดและสอบถามพยานร้านสะดวกซื้อ และพนักงานท่าเรือ ให้การว่าลักษณะรูปพรรณหน้าตาคล้ายคนเอเชีย แต่ไม่แน่ชัดว่าเป็นคนไทย ชาวจีน หรือชาวคาซัคสถาน ซึ่งทางตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานีอยู่ระหว่างการสอบสวนเพื่อติดตามตัวมาสอบปากคำต่อไป

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0