“บ้านผีเสื้อ” จังหวัดเชียงใหม่ ถือเป็นบ้านพักอาศัยแห่งแรกของโลกที่ใช้พลังงาน Green Hydrogen ซึ่งเป็นโครงการบุกเบิกการพัฒนาที่อยู่อาศัยอย่างยั่งยืน และแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของพลังงานไฮโดรเจนในการสนับสนุนเป้าหมายของประเทศไทยในการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2050
โดยในปี 2025 นี้ ถือเป็นการครบรอบ 10 ปีของโครงการ ทางบ้านผีเสื้อจึงได้จัดการประชุม Hydrogen Summit 2025 ขึ้น เพื่อเป็นเวทีที่รวบรวมผู้นำและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมไฮโดรเจนจากทั่วโลก มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ร่วมกัน
“บ้านผีเสื้อ”เป็นบ้านพักอาศัยบนพื้นที่ขนาด 18 ไร่ ใช้พลังงานที่สร้างขึ้นเอง 100% จากพลังงานแสงอาทิตย์ โดยใช้เทคโนโลยีอิเล็กโทรไลเซอร์ไฮโดรเจน ในการแปลงน้ำเป็นไฮโดรเจน เพื่อผลิต จัดเก็บ และใช้ไฮโดรเจนเป็นพลังงาน ทำให้บ้านสามารถผลิตพลังงานเองได้ทั้งหมดโดยไม่ต้องพึ่งพาโครงข่ายไฟฟ้า นอกจากนี้ ยังรักษาการปล่อยก๊าซเป็นศูนย์
ตัวบ้านติดตั้งระบบพลังงานไฮบริดพลังงานแสงอาทิตย์-ไฮโดรเจน ใช้ประโยชน์จากพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อนำมาขับเคลื่อนบ้านด้วยพลังงานสะอาดตลอด 24 ชั่วโมงแม้จะไม่มีแสงแดดก็ตาม
ตัวระบบประกอบด้วยแผงโซลาร์เซลล์ขนาด 140 กิโลวัตต์ (kWp) ซึ่งผลิตกระแสไฟฟ้าในช่วงกลางวันเพื่อใช้ในบ้านและตอบสนองความต้องการพลังงานในทันที ขณะที่พลังงานแสงอาทิตย์ส่วนเกินจะถูกนำมาผลิตไฮโดรเจนผ่านอิเล็กโทรไลเซอร์ขนาด 20 kW ที่ทำการแยกน้ำออกเป็นไฮโดรเจนและออกซิเจน ไฮโดรเจนจะถูกเก็บในรูปแบบก๊าซที่แรงดัน 35 บาร์ ในถังจะเก็บไฮโดรเจนได้สูงสุด 42 กิโลกรัม ซึ่งสามารถจ่ายพลังงานให้กับบ้านได้ประมาณ 600 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh)
ในเวลากลางคืนหรือช่วงที่มีแสงแดดน้อย ไฮโดรเจนที่เก็บไว้จะถูกแปลงกลับเป็นกระแสไฟฟ้าโดยใช้ระบบเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน (Fuel Cell) ขนาด 8 กิโลวัตต์ เมื่อไฮโดรเจนรวมกับออกซิเจน จะเป็นไฟฟ้ากับน้ำ ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม ทำให้มั่นใจได้ว่ามีการใช้พลังงานที่สะอาดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้ ระบบภายในบ้านผีเสื้อยังมีแบตเตอรี่ขนาด 384 กิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) ซึ่งเมื่อทั้ง ไฮโดรเจนและแบตเตอรี่ใช้ร่วมกันจะสามารถกักเก็บพลังงานเพื่อใช้งานอย่างน้อย 7 วัน ในฤดูที่มีแดดน้อยและมีเมฆมากเป็นเวลานาน
บ้านผีเสื้อ ใช้เทคนิคการทำความเย็นแบบพาสซีฟ รวมถึงการประสานฉนวนที่เหมาะสมและอุปกรณ์ที่ใช้พลังงานต่ำที่สุด การออกแบบสถาปัตยกรรมแบบเปิดกว้างช่วยให้ใช้ประโยชน์จากแสงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ การก่อสร้างและโครงสร้างของบ้านยังใช้วัสดุที่ยั่งยืนกว่าร้อยละ 98 ที่มาจากในประเทศ เช่น บล็อกคอนกรีตอัดไอน้ำและหน้าต่างชั้นคู่ที่มีฉนวน
ระบบการชลประทานที่ซับซ้อนของบ้านนี้กักเก็บและบำบัดน้ำฝน เพื่อลดการพึ่งพาแหล่งน้ำจากภายนอก โดยน้ำจะถูกนำไปใช้ในการทำสวนและนาข้าว ซึ่งมีการปลูกพืชผักและผลไม้ท้องถิ่นที่เติบโตตามฤดูกาล นอกจากนี้ยังช่วยลดความจำเป็นในการใช้แหล่งอาหารจากภายนอกที่มักมีการปล่อยมลพิษจากการขนส่ง ส่งเสริมความมั่นคงด้านอาหารและลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกโดยรวมของครัวเรือน
บ้านผีเสื้อยังเป็นศูนย์กลางของโครงการที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 10 ปีก่อน โดยมีบทบาทในการช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล เช่น ถ่านหิน น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ ด้วยการใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียนธรรมชาติที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง