หุ้นสหรัฐฯ ปรับฐาน นักลงทุนรายย่อยสบโอกาสเข้าซื้อสัปดาห์ที่ผ่านมาเงินไหลเข้า 7,300 ล้านดอลลาร์ ดัชนี S&P 500 ปรับลงกว่า 4% ชี้ขาลงยังไม่สิ้นสุด
บทวิเคราะห์ฟินโนมีนา เปิดเผยว่า แม้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา แต่นักลงทุนรายย่อยยังคงทุ่มเงินเข้าซื้อหุ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีเงินไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นสหรัฐฯถึง 7,300 ล้านดอลลาร์ ทั้งที่ดัชนี S&P 500 ปรับตัวลดลงกว่า 4% และหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ก็ร่วงลงอย่างหนัก
ฟินโนมีนา ระบุว่า นักลงทุนรายย่อยไม่เพียงแต่ซื้อหุ้นโดยตรงเท่านั้น แต่ยังทุ่มเงินหลายพันล้านดอลลาร์เข้าสู่กองทุน ETF แบบเลเวอเรจ ที่เพิ่มผลตอบแทนให้สูงขึ้น เช่น กองทุนที่อ้างอิงกับดัชนี Nasdaq 100 หรือกองทุนยอดนิยมอย่าง ARK Innovation ETF ของ Cathie Wood
ความเชื่อมั่นนี้เกิดจากประสบการณ์ตั้งแต่วิกฤตการเงินโลกที่ผ่านมา ที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มักจะฟื้นตัวและปรับตัวขึ้นปีแล้วปีเล่า ยกเว้นบางช่วงเวลา
ขณะที่นักลงทุนมืออาชีพในวอลล์สตรีทเริ่มระมัดระวังมากขึ้น โดยรอดูผลกระทบจากสงครามการค้าของประธานาธิบดีทรัมป์และการตัดงบประมาณรัฐบาลที่อาจส่งผลต่อเศรษฐกิจ
แต่นักลงทุนรายย่อยมักจะเป็นกลุ่มสุดท้ายที่ลดการถือครองหุ้น และบางความเห็นระบุว่าตลาดจะยังไม่ถึงจุดต่ำสุดจนกว่านักลงทุนรายย่อยจะเริ่มขายหุ้นออกมา
สถานการณ์นี้น่าเป็นห่วงเป็นพิเศษสำหรับกลุ่มเบบี้บูมเมอร์ที่กำลังเข้าสู่วัยเกษียณหรือเพิ่งเกษียณไม่นาน เพราะหากตลาดหุ้นยังคงร่วงลงต่อเนื่องในขณะที่พวกเขาต้องถอนเงินมาใช้จ่าย อาจทำให้พอร์ตการลงทุนไม่สามารถฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่ เป็นความเสี่ยงที่เรียกว่า"sequence of return risk"