โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

โควิด-19 ยังไม่จบ!! WHO เปิดรายชื่อ 2 สายพันธุ์ใหม่มาแรง ปี 68

The Bangkok Insight

อัพเดต 16 ก.พ. เวลา 05.26 น. • เผยแพร่ 16 ก.พ. เวลา 05.26 น. • The Bangkok Insight

ศูนย์จีโนมฯ เตือนโควิด-19 ยังไม่จบ WHO เผยสายพันธุ์ใหม่ LP.8.1 และ XEC ที่กำลังมาแรงในปี 2568 แพร่ระบาดรวดเร็วในสหรัฐ

ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์เพจเฟซบุ๊ก ระบุว่า โควิด-19 ยังไม่จบ เปิดแฟ้มสายพันธุ์ใหม่ LP.8.1 และ XEC ที่กำลังมาแรงในปี 2568

โควิด-19

ในขณะที่หลายคนอาจคิดว่าโควิด เป็นเรื่องของอดีตไปแล้ว แต่ความจริงแล้วไวรัสตัวร้ายนี้ยังคงวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับสายพันธุ์ใหม่ที่น่าจับตามอง 2 สายพันธุ์ ได้แก่ LP.8.1 และ XEC ซึ่งกำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วทั่วโลก

LP.8.1: สายพันธุ์ลูกผสมที่แพร่เชื้อได้ดีขึ้น

LP.8.1 เป็นสายพันธุ์ย่อยที่พัฒนามาจาก JN.1 โดยมีการกลายพันธุ์ที่ทำให้ไวรัสสามารถจับกับเซลล์มนุษย์ได้ดีขึ้น ส่งผลให้แพร่เชื้อได้ง่ายกว่าเดิม ที่น่าตกใจคือ ภายในเวลาเพียง 4 สัปดาห์ ความชุกของ LP.8.1 เพิ่มขึ้นจาก 1.9% เป็น 7.0% ของเชื้อโควิดทั้งหมดทั่วโลก

LP.8.1 มีการกลายพันธุ์เพิ่มเติมในโปรตีนหนาม ได้แก่ S31-, F186L, R190S, R346T, V445R และ K1086R เมื่อเทียบกับสายพันธุ์ที่แพร่ระบาดอยู่ก่อนหน้า โดยการกลายพันธุ์ V445R ช่วยเพิ่มความสามารถในการจับกับตัวรับ hACE2 บนผิวเซลล์มนุษย์ซึ่งอาจทำให้แพร่เชื้อได้ง่ายขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีสายพันธุ์ย่อย LP.8.1.1 ที่มีการกลายพันธุ์เพิ่มเติมที่ S:K679R ซึ่งอาจทำให้มีความได้เปรียบในการเจริญเติบโตเพิ่มขึ้นอีก 10-30% ต่อสัปดาห์ LP.8.1.1 อาจมีสัดส่วนมากกว่า 50% ของลำดับพันธุกรรม LP.8.1 ทั้งหมดแล้ว

XEC: ลูกผสมพันธุ์ใหม่ที่แพร่ระบาดเร็วที่สุด

XEC เป็นสายพันธุ์ลูกผสมที่เกิดจากการรวมตัวของสายพันธุ์ย่อย KS.1.1 และ KP.3.3 ซึ่งทั้งคู่เป็นสายพันธุ์ย่อยของ JN.1 โดยมีอัตราการแพร่ระบาดที่น่าตกใจยิ่งกว่า LP.8.1 ในเวลาเพียง 4 สัปดาห์ ความชุกของ XEC เพิ่มขึ้นจาก 26.9% เป็น 36.8% ของเชื้อโควิดทั้งหมดทั่วโลก ทำให้เป็นสายพันธุ์เดียวที่มีความชุกเพิ่มขึ้นในทุกภูมิภาคทั่วโลก

XEC มีโปรตีนหนามที่เหมือนกับ KP.3 แต่มีการกลายพันธุ์เพิ่มเติมที่ S:T22N และ S:F59S ซึ่งทั้งสองการกลายพันธุ์นี้ดูเหมือนจะเป็นประโยชน์ต่อไวรัส โดยเฉพาะ S:T22N ที่เกิดขึ้นอย่างอิสระในหลายสายพันธุ์ย่อยของ JN.1

ไม่ต้องตื่นตระหนก แต่ต้องระวัง

แม้ว่าตัวเลขการแพร่ระบาดของทั้งสองสายพันธุ์จะน่าตกใจ แต่องค์การอนามัยโลกยังคงประเมินความเสี่ยงด้านสาธารณสุขของทั้งสองสายพันธุ์นี้อยู่ในระดับต่ำ เนื่องจาก:

1. วัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบันยังคงมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อที่มีอาการรุนแรง

2. ยังไม่มีหลักฐานว่าทั้งสองสายพันธุ์ทำให้เกิดอาการรุนแรงกว่าสายพันธุ์ก่อนหน้า

3. ความสามารถในการหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันของทั้งสองสายพันธุ์อยู่ในระดับจำกัด

อย่างไรก็ตาม การศึกษาในห้องปฏิบัติการพบว่า LP.8.1 มีความสามารถในการหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันที่ใกล้เคียงกับ XEC แต่มีประสิทธิภาพในการจับกับตัวรับ ACE2 บนผิวเซลล์ที่สูงขึ้นมาก ซึ่งสนับสนุนการเติบโตอย่างรวดเร็วของสายพันธุ์นี้และคาดว่าในอนาคตจะมาแทนที่โอไมครอนสายพันธุ์ย่อย XEC

แล้วเราควรทำอย่างไร?

แม้ว่าความเสี่ยงจะอยู่ในระดับต่ำ แต่องค์การอนามัยโลกยังคงแนะนำให้ประชาชนและประเทศต่างๆ:

1. ติดตามข่าวสารและคำแนะนำจากหน่วยงานสาธารณสุขอย่างใกล้ชิด

2. รับวัคซีนและวัคซีนเข็มกระตุ้นตามคำแนะนำของแพทย์

3. ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันพื้นฐาน เช่น การล้างมือ และการสวมหน้ากากในพื้นที่แออัด

การระบาดของโควิด-19 อาจยังไม่จบลงในเร็ววันนี้ แต่ด้วยความร่วมมือของทุกคนและการพัฒนาทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง เราจะสามารถรับมือกับไวรัสตัวนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นเรื่อยๆ

นักวิทยาศาสตร์และหน่วยงานด้านสุขภาพยังคงติดตามการแพร่ระบาดและลักษณะของสายพันธุ์ใหม่เหล่านี้อย่างใกล้ชิด เพื่อทำความเข้าใจผลกระทบต่อการแพร่เชื้อ ภูมิคุ้มกัน และสาธารณสุขโดยรวม

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...