โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

อสังหาริมทรัพย์

เลือกแบบคอนโดอย่างไรให้เหมาะกับการปล่อยเช่า-ขายต่อในปี 2565

DDproperty

เผยแพร่ 15 ม.ค. 2565 เวลา 07.46 น.
เลือกแบบคอนโดอย่างไรให้เหมาะกับการปล่อยเช่า-ขายต่อในปี 2565
เลือกแบบคอนโดอย่างไรให้เหมาะกับการปล่อยเช่า-ขายต่อในปี 2565

คอนโดเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับความนิยมในการลงทุน หลังจากคอนโดกลายมาเป็นเทรนด์ที่อยู่อาศัยของคนเมือง เพราะการลงทุนคอนโดสามารถสร้างผลตอบแทน ทั้งระยะสั้นและระยะยาว แต่จะเลือกแบบคอนโดอย่างไรให้เหมาะกับการลงทุน มาดูกันว่า แบบคอนโดแบบไหนที่เหมาะกับการลงทุนปล่อยเช่าและขายต่อในปี 2565

Subscription Banner for Article
Subscription Banner for Article

9 ปัจจัยสำคัญในการเลือกแบบคอนโดเพื่อลงทุนปล่อยเช่า-ขายต่อ

ในยุค New Normal มีปัจจัยในการเลือกแบบคอนโดเพื่อลงทุนปล่อยเช่าและขายต่อ จำเป็นต้องมีองค์ประกอบมากกว่าอดีตที่ผ่านมา แต่องค์ประกอบที่ยังได้รับความนิยม คือ

1. ทำเลที่ตั้งโครงการ แน่นอนว่าทำเลเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่ผู้ซื้อคอนโดส่วนใหญ่มักมองหา หากโครงการตั้งอยู่ในทำเลที่น่าอยู่อาศัย ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ก็จะเป็นที่ต้องการมากกว่าโครงการอื่น

รวมถึงโครงการที่ตั้งอยู่ในทำเลพิเศษ เช่น คอนโดติดสวน, คอนโดติดห้างสรรพสินค้า หรือคอนโดติดแม่น้ำเจ้าพระยา ทำเลเหล่านี้มักดึงดูดผู้เช่า-ผู้ซื้อมากขึ้น

2. ใกล้ศูนย์กลางธุรกิจ อีกหนึ่งปัจจัยที่ผู้เลือกซื้อคอนโดมองหาคือ ใกล้แหล่งงาน ยิ่งทำเลคอนโดใกล้ศูนย์กลางธุรกิจหรือแหล่งงานมากเท่าไหร่ก็เป็นที่ต้องการของผู้ที่ต้องทำงานในเมืองมากขึ้น

3. มีระบบขนส่งมวลชนที่ดีรองรับ เช่น ใกล้สถานีรถไฟฟ้า ทางด่วน ทำเลเหล่านี้เป็นทำเลที่ทุกคนต้องการเสมอ

4. ราคาไม่สูงจนเกินไป เพราะช่วยลดค่างวดในการผ่อน แถมตั้งราคาปล่อยเช่าได้ง่าย หรือหากจะขายต่อก็สามารถทำกำไรมากกว่าคอนโดที่มีราคาสูง ๆ

5. พัฒนาโดยบริษัทที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับ เพราะบริษัทที่มีชื่อเสียงมักการันตีคุณภาพได้ในระดับหนึ่ง นอกจากนี้ยังสามารถหาข้อมูลต่าง ๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจได้ง่าย รวมทั้งผู้ที่จะมาเช่าหรือซื้อต่อก็มักใช้ชื่อแบรนด์ในการตัดสินใจด้วยส่วนหนึ่ง

6. ทิศของห้องคอนโด หากเลือกทิศคอนโดได้เหมาะสมก็ทำให้ปล่อยเช่า-ขายต่อได้ง่าย ยกตัวอย่าง ถ้าคอนโดแห่งนั้นวางตัวในแนวตะวันออก-ตะวันตก และแบ่งห้องเป็น 2 ฝั่งคือ ฝั่งทิศเหนือและทิศใต้ รับรองได้เลยว่าผู้ที่เป็นเจ้าของห้องทางทิศเหนือจะขายต่อได้ง่ายกว่ามาก เพราะห้องไม่ร้อนและระหว่างวันก็ไม่มีแดดจัดส่องเข้ามาด้านใน วัสดุโครงสร้างต่าง ๆ ก็ไม่เสื่อมสภาพเร็วจากความร้อน

7. ตำแหน่งของห้องคอนโด การเลือกตำแหน่งห้องก็มีส่วนสำคัญ ตำแหน่งห้องที่ดีควรตั้งห่างจากลิฟต์ หรือห้องทิ้งขยะมากพอควร เพื่อป้องกันปัญหาความวุ่นวายจากสี่ยงรบกวน เช่น คนเดินเข้าออกลิฟต์ หรือห้องทิ้งขยะ แต่ก็ไม่อยู่ห่างมากเกินไป เพื่อสะดวกในการใช้งาน

มีโอกาสเลือกห้องคอนโดใหม่ก่อนใคร ห้องตำแหน่งไหนที่ควรจับจอง
มีโอกาสเลือกห้องคอนโดใหม่ก่อนใคร ห้องตำแหน่งไหนที่ควรจับจอง

Guide

มีโอกาสเลือกห้องคอนโดใหม่ก่อนใคร ห้องตำแหน่งไหนที่ควรจับจอง

8. สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ใช้ดึงดูดผู้เช่า-ผู้ซื้อ หากมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ก็ยิ่งตอบรับกับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยได้มาก โดยสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานที่ต้องมีก็คือ สวน, ฟิตเนส และสระว่ายน้ำ

สิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามาในปี 2565 คือ เทคโนโลยีต่าง ๆ ที่เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในการอยู่อาศัย รวมถึงลดการสัมผัสในพื้นที่ส่วนกลาง เช่น ระบบสแกนหน้า, ระบบการจองการใช้พื้นที่ส่วนกลางต่าง ๆ เป็นต้น

9 สิ่งอำนวยความสะดวกที่ควรมีในโครงการบ้าน-คอนโด
9 สิ่งอำนวยความสะดวกที่ควรมีในโครงการบ้าน-คอนโด

Guide

9 สิ่งอำนวยความสะดวกที่ควรมีในโครงการบ้าน-คอนโด

9. แบบคอนโด ควรเลือกแบบคอนโดที่เหมาะสมกับการใช้ชีวิต อาทิ แบบคอนโด High Rise ที่มักมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากกว่า แต่จำนวนห้องมาก ก็อาจมาพร้อมกับความวุ่นวาย หรือแบบคอนโด Low Rise ที่เหมาะกับผู้ที่ชอบความสงบ เพราะส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในซอย และมีจำนวนยูนิตน้อยกว่า

 

แบบคอนโด ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ช่วยดึงดูดผู้เช่า-ผู้ซื้อ
แบบคอนโด ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ช่วยดึงดูดผู้เช่า-ผู้ซื้อ

แบบคอนโดไหนที่เหมาะกับการลงทุน

การปล่อยเช่าคอนโด หรือขายต่อ ต้องคำนึงถึงกลุ่มเป้าหมายเป็นหลัก โดยกลุ่มผู้เช่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในตลาด คือ กลุ่มคนทำงานใหม่ หรือ First jobber ดังนั้นการเลือกแบบคอนโดให้เหมาะกับคนกลุ่มนี้จึงมีความสำคัญ

1. แบบคอนโดที่มีขนาดห้องเหมาะสม

- แบบคอนโด สตูดิโอ

แบบคอนโด ขนาดสตูดิโอ เป็นขนาดเริ่มต้นของคอนโดโดยทั่วไป จากกฎกระทรวง ฉบับที่ 55 พ.ศ. 2543 กำหนดว่าห้องคอนโดต้องไม่เล็กกว่า 20 ตารางเมตร ทำให้ห้องส่วนใหญ่จะเริ่มต้นที่ประมาณ 21-22 ตารางเมตร ซึ่งข้อดีของคอนโดแบบ Studio คือ มีขนาดที่กะทัดรัด ดูแลง่าย ราคาขายเริ่มต้นถูก

เนื่องจากที่พื้นที่ต่อตารางเมตรน้อยกว่าห้องแบบอื่น ๆ เหมาะสำหรับรองรับผู้เช่าที่มีงบประมาณไม่มากนัก หรืออยู่อาศัยเพียง 1-2 คน อาทิ กลุ่ม First jobber หรือนิสิต/นักศึกษา   

- แบบคอนโด 1 ห้องนอน

สำหรับแบบคอนโด ขนาด 1 ห้องนอน เป็นอีกหนึ่งแบบคอนโด ที่พัฒนาออกมารองรับความต้องการของกลุ่มคนที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น เช่น กลุ่มชาวต่างชาติ หรือวัยทำงาน โดยขนาดห้องเริ่มต้นไม่ใหญ่และไม่เล็กเกินไป แถมราคาขายเริ่มต้นที่ยังไม่สูงจนเกินไป แต่เป็นขนาดห้องที่มีความเป็นสัดส่วนมากกว่าห้องสตูดิโอ

ข้อดีของห้องคอนโดขนาด 1 ห้องนอน คือ มีการแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนมากขึ้น มีการแบ่งกั้นผนังห้องระหว่างพื้นที่โซนห้องนั่งเล่นที่เป็นโซฟา TV และส่วนชุดครัว กับพื้นที่ห้องนอนที่มีเตียงออกจากกัน

ส่วนข้อด้อยของห้องคอนโดขนาด 1 ห้องนอน คือ มีขนาดพื้นที่ใช้สอยไม่กว้างมากนัก หากมีการกั้นห้องนอนด้วยบานเลื่อน อาจให้ความรู้สึกที่ไม่แตกต่างจากห้องแบบสตูดิโอ รวมถึงราคายังสูงขึ้นกว่าห้องคอนโดสตูดิโอ กลุ่มผู้เช่า-ผู้ซื้อจึงต้องมีความพร้อมทางด้านการเงินที่สูงขึ้น

- แบบคอนโด 2 ห้องนอน

ขนาดห้องคอนโดที่มีจำนวนไม่มากนักในแต่ละโครงการ พื้นที่ใช้สอยประมาณ 50-100 ตารางเมตร โดยจะมี 2 ห้องนอนตามชื่อ ส่วนห้องน้ำอาจมี 1-2 ห้อง บางโครงการอาจมีอ่างอาบน้ำมาให้ด้วย ด้วยขนาดของห้องจึงเหมาะกับครอบครัวที่มีลูก 1 คน หรือมีญาติผู้ใหญ่ จะปล่อยเช่า-ขายต่อจึงค่อนข้างเฉพาะกลุ่ม

อีกกลุ่มเป้าหมายคือ ผู้ที่ต้องการชื่นชอบการชมวิวเมือง หรือวิวสูง หรืออยู่ในตำแหน่งพิเศษของโครงการ เพราะคอนโด 2 ห้องนอน มักตั้งอยู่บนชั้นสูง ห้องหัวมุมที่เปิดรับวิวได้มากกว่า ห้องติดสวน หรือพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ รวมถึงผู้ที่มีรถและต้องการที่จอดรถแบบประจำ เพราะหลายโครงการมักให้สิทธิ์กับผู้ที่ซื้อห้องขนาด 2 ห้องนอน สามารถมีที่จอดรถประจำได้

เลือกขนาดห้องคอนโดเท่าไหร่ให้เหมาะกับคุณ
เลือกขนาดห้องคอนโดเท่าไหร่ให้เหมาะกับคุณ

Guide

เลือกขนาดห้องคอนโดเท่าไหร่ให้เหมาะกับคุณ

2. แบบคอนโด Single Corridor

แบบคอนโดที่ออกแบบให้เป็น Single Corridor เป็นอีกแบบคอนโด ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากตำแหน่งของห้อง มีส่วนสำคัญมากในการเลือกซื้อคอนโด ซึ่งห้อง Single Corridor เป็นอีกจุดที่มีข้อดี ในเรื่องของความเป็นส่วนตัว ไม่ต้องเปิดประตูมาพบกับเพื่อนห้องฝั่งตรงข้าม รวมทั้งปริมาณคนสัญจรผ่านไปมามีจำนวนน้อย จึงมีความเป็นส่วนตัวสูง

นอกจากนี้ ห้อง Single Corridor ยังมีลมโกรก เย็นสบาย เพราะการเปิดโล่งของโถงทางเดิน ทำให้มีลมพัดผ่าน เพิ่มความสดชื่นให้ผู้อยู่อาศัย ที่สำคัญคือ ห้อง Single Corridor มีวิวที่สวยงาม ดังนั้น แบบคอนโด ประเภท Single Corridor จึงเป็นห้องชุดที่ได้รับความนิยมและเป็นที่ต้องการของผู้เช่าพักอาศัยและผู้ซื้อ

 

3. แปลนห้องคอนโดที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์

- แปลนห้องแบบเปิด

แปลงห้องแบบเปิด คือ ห้องที่มีการจัดสรรพื้นที่ของห้องแต่ละห้องหรือมุมต่าง ๆ ที่เปิดถึงกัน โดยไม่มีฉากหรือประตูกั้นแยกขาดชัดเจน

ข้อดีของแปลนห้องแบบเปิดก็คือช่วยให้พื้นที่เชื่อมต่อถึงกันได้อย่างทั่วถึง อีกทั้งยังเปิดรับแสงธรรมชาติและถ่ายเทอากาศได้ง่าย มีพื้นที่กว้างขวาง ไว้ดัดแปลงไว้รองรับกิจกรรมต่าง ๆ ได้

ข้อด้อยคือ อาจทำให้เสียความเป็นสัดส่วนและความเป็นส่วนตัว ซึ่งอาจไม่เหมาะกับครอบครัวที่อยู่กันหลายคน หรือผู้ที่ Work from Home ที่ต้องการสมาธิในการทำงาน

- แปลนห้องแบบปิด

แปลนห้องแบบปิด คือ ห้องที่มีการจัดสรรพื้นที่ภายในห้องแยกขาดชัดเจน ทำให้ห้องมีระเบียบ เหมาะสำหรับผู้ที่รักความเป็นส่วนตัว หรือต้องการสมาธิในการทำงานสูง

ข้อด้อยคือ ค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้สร้างและต่อเติมพื้นที่ให้เป็นสัดส่วน รวมถึงพื้นที่ห้องอาจได้รับแสงธรรมชาติไม่เท่ากัน หรือถ่ายเทอากาศได้ไม่ดี

สรุปข้อดี-ข้อเสียของแปลนห้องแบบเปิด-ปิด

ข้อดีของแปลนห้องแบบเปิด

ข้อดีของแปลนห้องแบบปิด

เชื่อมต่อถึงได้สะดวก  

มีความเป็นส่วนตัว

ทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ง่าย

ห้องดูเป็นสัดส่วน

แสงสว่างทั่วถึง

แต่ละห้องออกแบบให้เป็นตัวเองได้มากกว่า

4. แบบคอนโดที่ตอบรับ Next Normal

ปัจจุบันการปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิต กำลังเปลี่ยนไปสู่ ความปกติในวิถีชีวิตใหม่ หรือ Next Normal มากขึ้น ทำให้บ้านหรือคอนโดไม่ใช่เป็นเพียงแค่ที่อยู่อาศัย แต่กลายเป็นห้องทำงาน, ฟิตเนส หรือพื้นที่ขายของ

ดังนั้น แบบคอนโดที่ตอบโจทย์กับ Next Normal ดังกล่าวจึงเป็นรูปแบบคอนโดที่เหมาะสมกับการอยู่อาศัยและลงทุน ไม่ว่าจะเป็นสัญญาณ Wi-Fi ที่เร็วและแรงเพื่อตอบสนองต่อการ Work from Home ที่มีประสิทธิภาพ สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการที่ตอบรับกับการออกกำลังกายมากขึ้น ระบบที่เอื้อต่อการสั่งอาหารแบบเดลิเวอรี่

รวมถึงการตอบรับการอยู่อาศัยแบบ Touchless Society เพื่อลดการสัมผัสในการใช้ชีวิตในโครงการ ไม่ว่าจะเป็นระบบแอปพลิเคชันที่ใช้ติดต่อสื่อสารกับนิติบุคคล หรือการใช้ระบบสแกนใบหน้าในการเข้า-ออกโครงการ

 

ทั้งหมดนี้เป็นแบบคอนโดที่จะได้รับความสนใจจากผู้เช่าและผู้ซื้อในยุค Next Normal และเป็นแบบคอนโดที่เหมาะกับการปล่อยเช่าและขายต่อทำกำไรในปี 2565  

 

สนใจรับบทความดีดี อัปเดต ข่าวอสังหาริมทรัพย์ และ อ่านคู่มือซื้อขาย พร้อม รีวิวโครงการคอนโดฯ ใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคา รวมถึง ทำความรู้จักกับทำเลฮอตทั่วกรุง เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการซื้อ-ขาย-เช่า

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0