สำหรับคนที่ชื่นชอบในรสชาติของขนมหวานแล้ว ไม่อยากจะให้พลาดลองชิมขนมไทยดูบ้างแล้วจะได้ความแตกต่าง ระหว่างขนมของร้านกาแฟ ร้านน้ำชา หรือร้านขายขนมแบบทั่วๆ ไป เพราะขนมไทยนั้นโดดเด่น น่าสนใจมากทั้งเรื่องของรูปลักษณ์และรสชาติ รวมถึงวิธีการทำที่เรียกได้ว่า ประณีตงดงาม สมกับเป็นขนมไทย วันนี้เราเลยอยากจะนำขนมไทยโบราณที่หลายคนน่าจะไม่รู้จัก หรือคุ้นหน้าคุ้นตา มาแนะนำให้คุณได้ลองไปรู้จักกัน
#1. บุหลันดั้นเมฆ
เป็นขนมไทยที่เกิดในยุคสมัยรัชกาลที่ 2 ได้แรงบันดาลใจมาจากเพลงพระราชนิพนธ์ 'บุหลันเลื่อนลอย' ตรงกลางนั้นจะทำจากไข่แดงที่มีลักษณะเหมือนดวงจันทร์ในเวลาค่ำคืน ส่วนสีฟ้าด้านนอกทำจากแป้งมันผสมกับสีของน้ำอัญชัน จะได้แป้งที่มีลักษณะเป็นสีฟ้าอมม่วง ดูแล้วคล้ายกับสีก้อนเมฆในยามค่ำคืน ลักษณะพิเศษของขนมชนิดนี้ ยังมีไว้สำหรับการเสี่ยงทายในเรื่องของหน้าที่การงานได้อีกด้วย โดยทำนายจากการหยอดส่วนของไข่แดงตรงกลาง ถ้าหากออกมาดูสวยงามก็เป็นนิมิตหมายอันดี อาจจะได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง แต่ถ้าหากว่าย้อนออกมาแล้วไม่สวย อาจจะมีอุปสรรคในหน้าที่การงานได้
#2. ขนมมงกุฎเพชร
มีคนเข้าใจผิดว่าเป็นขนมจ่ามงกุฎมานาน เนื่องจากมีลักษณะคล้ายๆ กัน และยังงดงามคล้ายกับมงกุฎฝรั่งทางฝั่งยุโรปด้วย มีลักษณะต่างกันตรงที่ขนมมงกุฎเพชรฐานจะมีหยัก ไม่เรียบ สีสันสวยงามน่าลองชิม เป็นขนมที่มีมาตั้งแต่ในสมัยรัชกาลที่ 2 เช่นเดียวกัน ความหมายก็ดีหมายถึงการเป็นหัวหน้าซึ่งเป็นใหญ่เป็นโต จึงนิยมมอบขนมชนิดนี้เป็นของขวัญให้กับผู้ที่ได้รับการยกย่องในระดับที่สูงกว่า
#3. กระเช้าสีดา
เป็นขนมที่ได้แรงบันดาลใจมาจากต้นกระเช้าสีดาในวรรณคดีรามเกียรติ์ ด้านนอกทำมาจากแป้งมีลักษณะเป็นเหมือนกระเช้าหรือตะกร้า ลักษณะคล้ายแป้งพายหรือทาร์ตของขนมเบเกอรี่ ส่วนไส้ที่เป็นขนมนั้นทำมาจากมะพร้าวแก้ว เป็นอีกหนึ่งขนมที่มีความงดงาม หอมหวาน ชวนให้อยากลองรับประทานยิ่งนัก
#4. ขนมเรไร
หรือเรียกอีกชื่อว่า 'ขนมรังไร' เป็นขนมอีกหนึ่งชนิดที่เกิดขึ้นมาในช่วงสมัยรัชกาลที่ 2 อยู่ในกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน "รังไรโรยด้วยแป้ง เหมือนนกแกล้งทำรังรวง" รูปทรงเป็นเหมือนรังของตัวเรไร ในตัวแป้งมีสีสันสวยงามรับประทานกับมะพร้าวขูด และกะทิหยอดหน้าโรยด้วยน้ำตาลผสมกับงาคั่ว ได้รสทั้งหวานเค็มกลมกล่อมกำลังดี
#5. ขนมหันตรา
เป็นขนมที่เกิดขึ้นในช่วงรัชกาลที่ 2 ผู้ที่ทำขนมนี้คือสมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี (หรือเจ้าฟ้าหญิงบุญรอด) เป็นขนมที่นำถั่วกวนมาตกแต่งให้มีลักษณะดูน่ากินมากยิ่งขึ้น โดยการนำไข่มาขอให้เป็นตารางอย่างสวยงาม รสชาติของขนมนี้จึงหอมทั้งกลิ่นไข่และกลิ่นถั่วกวน เป็นขนมที่ใช้ในงานมงคลโดยเฉพาะในงานหมั้น ที่แสดงถึงการตีตราจองหญิงสาวว่ามีคู่หมั้นแล้ว
#6. ขนมเสน่ห์จันทน์
ด้วยรูปร่างทำเลียนแบบลูกจันซึ่งเป็นผลไม้ที่มีกลิ่นหอมหวานมาก และมีสีเหลืองทองจึงนิยมในงานมงคล จัดเป็นหนึ่งในขนมมงคลเก้าอย่าง นิยมมากในการนำมาใช้จัดใส่พานในงานแต่งงาน มีความเชื่อของคนโบราณว่าความมีเสน่ห์ตามชื่อขนมชนิดนี้ จะทำให้กินแล้วคู่รักจะรักใคร่ และหลงเสน่ห์ของกันและกัน
#7. ขนมพระพาย
เป็นอีกหนึ่งขนมที่นิยมใช้กันในงานแต่งงานของทางภาคกลาง มีความหมายดีๆ ว่าแป้งข้าวเหนียวที่ห่อหุ้มนั้น สื่อถึงความรักที่เหนียวแน่นมั่นคง ส่วนตัวไส้ขนมที่ทำจากถั่วกวนนั้นมีรสชาติหวาน สื่อได้ถึงความรักที่แสนหวานของคู่แต่งงาน ที่จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นหลังจากที่แต่งงานไปแล้ว โดยรวมแล้วเป็นขนมที่มีสีสันน่ารัก ราดด้วยกะทิ รสชาติทั้งหวานและกลมกล่อมมาก
#8. ขนมบุหงาบูดะ
เป็นขนมหวานของทางภาคใต้จังหวัดสตูล ชื่อ "บุหงาบูดะ" มาจากภาษามลายู เป็นขนมโบราณที่หากินยากรสชาติหวานหอม เป็นขนมแบบเดียวกันกับเกสรลำเจียก แต่มีรูปทรงและลักษณะด้านรูปทรงที่แตกต่างกันเท่านั้น เกสรลำเจียกจะม้วนเหมือนทองม้วน แต่บุหงาบูดะจะพับเป็นทรงสี่เหลี่ยม และไส้ในของบุหงาบูดะจะมีลักษณะแห้งและมีความร่วนกว่า แต่ส่วนผสมหลักก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่
#9. ขนมสัมปันนี
ขนมชนิดนี้มีลักษณะคล้ายๆ กับชื่อเรือ เนื่องจากมีลักษณะเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมรูปทรงแบบขนมเปียกปูน ดูแล้วคล้ายกับเรือสำปันนี นิยมทำแจกจ่ายกันในงานมงคล เพราะมีความสวยงามเหมาะแก่การตกแต่งบนโต๊ะอาหาร หรือจัดใส่พานเป็นอย่างยิ่ง ยังถือว่าเป็นขนมไทยโบราณที่ทำเองได้ไม่ยากจนเกินไปด้วย
#10. ขนมทองโปร่ง
เรียกอีกชื่อว่าขนมหน้านวล เป็นขนมไทยโบราณ เชื่อว่าได้รับวัฒนธรรมการทำขนมนี้มาจากโปรตุเกสโดยท้าวทองกีบม้า เป็นขนมที่ทำมาจากแป้งสาลีถูกหยอดลงในพิมพ์ที่มีลักษณะคล้ายกับเรือ ดูแล้วคล้ายกับขนมเบเกอรี่ ส่วนด้านในจะมีโพรงสำหรับเอาไว้ใส่ไส้ด้านใน ส่วนรูปร่างก็จะเป็นเหมือนก้อนทองแท่ง จึงจะเป็นหนึ่งในขนมที่นิยมใช้ในงานพิธีมงคลต่างๆ
เป็นอย่างไรบ้างคะ ไม่ทราบว่ารู้จักขนมไทยเหล่านี้กันหมดทุกชนิดหรือไม่ และเคยกินกันบ้างหรือเปล่า ถ้ามีโอกาสคงต้องหามารับประทานกันดู เผื่อที่จะได้บอกต่อกับคนอื่นๆ ได้ว่าขนมไทยของเรานั้น ก็มีรสชาติอร่อยและดีไม่แพ้กับขนมต่างประเทศเลย หรือจะลองมอบให้เป็นของขวัญก็ได้ ยิ่งถ้าหากว่ามีโอกาสเข้าครัวทำเองได้ก็น่าภูมิใจไม่น้อย ที่จะได้เป็นหนึ่งในคนที่พยายามสืบทอดขนมไทยโบราณให้ยังคงอยู่อีกด้วยค่ะ
