โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

รื่นเริงอย่างไรไม่ให้ทัวร์ลง? สำรวจไอเดียจัดคอนเสิร์ตยุคนิวนอร์มัล - จุดประเด็น

LINE TODAY

เผยแพร่ 29 ก.ค. 2563 เวลา 19.41 น. • AJ.
ภาพโดย Pien Muller / unsplash.com
ภาพโดย Pien Muller / unsplash.com

สถานการณ์โควิด 19 (COVID19) ในไทยเริ่มจะคลี่คลาย กิจการหลายอย่างเริ่มกลับมาให้บริการ บรรยากาศเก่า ๆ เริ่มหวนคืนในรูปแบบ "นิวนอร์มัล" (New Normal) ผู้คนเริ่มออกไปใช้ชีวิตนอกบ้าน เลิกเก็บตัว เลิกกลัวโควิด แต่ส่วนมากยังเคร่งครัดในการใส่หน้ากากและล้างมืออย่างจริงจัง

งานรื่นเริงต่าง ๆ เริ่มกลับมาคึกคัก เราเห็นคนกลับมาจัดงานแต่งงาน ฉลองวันเกิด อีเวนต์และคอนเสิร์ตเริ่มผุดขึ้นในปฏิทิน จนกระทั่งไม่กี่วันมานี้ที่เราเห็นข่าวการจัดคอนเสิร์ตโดยไม่เว้นระยะห่างและไม่มีการใส่หน้ากากอนามัยของนักร้องหญิงชื่อดังรายหนึ่ง ซึ่งแม้ภายหลังทางผู้จัดได้ออกมาชี้แจงว่างานคอนเสิร์ตถูกจัดตามกฎระเบียบการเว้นระยะห่าง (Social Distancing) แล้ว แต่ด้วยกระแสทางสังคมที่ค่อนข้างรุนแรง ร้อนถึงนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ถึงกับต้องสั่งการตรงให้ผู้ว่าฯ ตรวจสอบข้อเท็จจริงกันเลยทีเดียว

และไม่ใช่แค่ศิลปินที่อยากกลับมาจัดคอนเสิร์ตให้มิตรรักแฟนเพลงของพวกเขาได้สนุกกันเร็ว ๆ ฝั่งแฟนคลับอย่างเราก็คิดถึงศิลปินที่เรารักเช่นกัน แม้เราคงไม่ได้เห็นการจัดคอนเสิร์ตแบบ "ปกติ" ในเร็ว ๆ นี้อย่างแน่นอน แต่ก็ต้องขอบคุณเทคโนโลยี และไอเดียจากศิลปินเหล่านี้ ที่ทำให้เราได้ใกล้ชิดและสนุกกับเสียงเพลง แม้ยังต้องรักษาระยะห่างก็ตาม!

คอนเสิร์ตแบบไดรฟ์อิน (Drive-In)

ไม่ใช่แค่การดูหนังที่ผู้ชมสามารถขับรถเข้าไปนั่งดูได้ แต่ศิลปินทั่วโลกก็พยายามคิดหาวิธีที่จะทำให้แฟนคลับของเขาได้กลับมาเอนจอยคอนเสิร์ตเหมือนเดิม ศิลปินหลายคนเริ่มจัดคอนเสิร์ตแบบไดร์ฟอิน อย่างแมดส์ แลงเกอร์ (Mads Langer) ศิลปินชาวเดนมาร์กที่พลิกแพลงเปลี่ยนคลื่นวิทยุบนรถเป็นเครื่องถ่ายทอดสัญญาณเสียง ให้ผู้ชมบนรถได้ฟังเพลงจากแมดส์สด ๆ เพียงหมุนคลื่นให้ตรงกัน ซึ่งหลังจากประกาศว่าจะมีการเล่นคอนเสิร์ต ตั๋วของแมดส์ก็ขายหมดภายในเวลาไม่เท่าไหร่ รู้เลยนะเนี่ยว่าขาคอนเสิร์ตทั่วโลกก็คิดถึงบรรยากาศการแสดงสดอยู่เหมือนกัน แม้รูปแบบจะเปลี่ยนไปเป็นแบบนิวนอร์มัลแล้วก็ตามที

ดูโพสต์นี้บน Instagram

We did it again ❤️🙏🏼🎶 photo: Per Lange

โพสต์ที่แชร์โดย Mads Langer (@madslanger) เมื่อ พ.ค. 20, 2020 เวลา 1:15pm PDT

คอนเสิร์ต ผ่านวิดีโอคอล

คอนเสิร์ตออนไลน์ต้องมาแล้ว! โดยเฉพาะในยุคโรคระบาดแบบนี้ อีกกลยุทธ์ที่ค่ายเพลงต้องคิดหนักคือการทำโชว์ที่ดีเยี่ยมเทียบเท่ากับการแสดงสด ซึ่งล่าสุดค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ของเกาหลีอย่าง SM Entertainment ร่วมมือกับNAVER สร้างแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งคอนเสิร์ต 'Beyond Live' ที่สามารถถ่ายทอดการแสดงสดของศิลปินไปทั่วโลก โดยผู้ชมจะได้สัมผัสประสบการณ์เสมือนเข้าไปดูคอนเสิร์ตวงที่คุณรักแบบสด ๆ ทั้งภาพ แสง และสีบนเวที สเปเชียลเอฟเฟ็กต์ หรือการเชื่อมต่อ "แท่งไฟ" ที่ใช้เชียร์ศิลปินให้กะพริบและเปลี่ยนสีไปพร้อม ๆ กัน นับว่าตอบโจทย์แฟนคลับที่กำลังคิดถึงศิลปินของพวกเขา ทั้งยังเป็นมิติใหม่ของการแสดงคอนเสิร์ตในวงการเคป็อปอีกด้วย

คอนเสิร์ตวง WayV / ขอบคุณภาพจาก PRESS CENTER / SM Entertainment
คอนเสิร์ตวง WayV / ขอบคุณภาพจาก PRESS CENTER / SM Entertainment

Meet and Greet กับไอดอลผ่านหน้าจอมือถือ

ไม่ต้องจองบัตรจับมือให้เสี่ยงติดโควิดกันแล้ว เพราะในยุคที่ศิลปินดาราต่างต้องปรับตัวเพื่อฐานแฟนคลับของตัวเอง งานมีตแอนด์กรีตก็ต้องเปลี่ยนด้วย! หลาย ๆ ศิลปินยกอีเวนต์มีตแอนด์กรีต งานจับมือ หรือไฮทัช (High Touch : คล้าย ๆ งานจับมือแต่เป็นการแปะมือไฮไฟว์กันเบา ๆ) มาไว้ในโลกออนไลน์ ให้ความรู้สึกเหมือนได้คุยกับศิลปินที่คุณรักผ่านวิดีโอคอล ซึ่งก็ให้อารมณ์เหมือนคุยกับแฟน แม้ไม่ได้เจอกันก็ใจเต้นไปอีกแบบ!

คอนเสิร์ตในโลก 'เสมือนจริง'

ในเมื่อปล่อยเพลงกันจริง ๆ ไม่ได้ เหล่าศิลปินจึงยกโขยงไปทำโชว์ในเกมกันซะเลย! ซึ่งการโปรโมตเพลงหรือเล่นคอนเสิร์ตในเกมยังมีข้อดีตรงที่สามารถเจาะกลุ่มผู้ฟังหรือผู้ชมที่มากขึ้น ศิลปินหลาย ๆ คนจึงเริ่มยึดเอา "เกม" นี่แหละเป็นแพลตฟอร์มปล่อยของ โดยเฉพาะในช่วงโรคระบาดที่ผู้คนอยู่แต่ในโลกออนไลน์ด้วยแล้ว อุตสาหกรรมเกมยิ่งฮอตฮิตเป็นพิเศษ ดูอย่างคอนเสิร์ตของแทรวิส สก็อต (Travis Scott) ในเกม Fortnite ที่มีผู้เล่นเข้าชมมากกว่า 12 ล้านคนเฉพาะในเกม ยังไม่นับคนดูอีกเป็นล้านที่ไม่ได้เล่น แต่นั่งดูไลฟ์สตรีมใน YouTube หรือ Twitch อีกนะ

คอนเสิร์ตเต็มรูปแบบของ Travis Scott ในเกม 'Fortnite' ที่สุดเท่!

ไอเดียเหล่านี้อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นในการทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมเรากับศิลปินในช่วงเวลาที่ต้องห่างกันสักพัก คงต้องดูกันต่อไปว่าในอนาคต เราจะได้เห็นความ "นิวนอร์มัล" แบบไหนในวงการบันเทิงกันอีก รักษาสุขภาพและติดตามกันต่อไป!

อ้างอิง

smentertainment.com

web.tcdc.or.th

axios.com

gqthailand.com

fungjaizine.com

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0