ตำนานชิมได้ที่โอซาก้า! - เพจ ปั่นเรื่อง เป็นภาพ

หากพูดถึงโอซาก้าแล้ว แน่นอนว่าแทบทุกคนจะนึกถึงป้ายไฟนักวิ่งกูลิโกะอันเป็นตำนาน แต่ยังมีอีกหนึ่งที่เรียกได้ว่าเป็นของที่เรานึกถึงไม่แพ้ป้ายไฟกูลิโกะ นั้นก็คือ เจ้าปูยักษ์ขยับขาไปมาที่อยู่ข้างๆ ป้ายไฟนั้นเอง เรามักเห็นรูปถ่าย เห็นภาพยนตร์ ที่มาถ่ายแถวย่านนัมบะจะต้องมีถ่ายติดป้ายกูลิโกะกับเจ้าปูยักษ์ไปด้วยเสมอๆ สองสิ่งนี้เปรียบเหมือนสัญลักษณ์ของย่านการค้าในโอซาก้าเลยก็ว่าได้

เจ้าปูยักษ์แท้จริงแล้วมันคือป้ายร้าน Kani Doraku ร้านอาหารที่มีซิกเนเจอร์อยู่ตรงที่ใช้ปูไซส์ยักษ์มาทำเมนูอาหารต่างๆ ในย่านนัมบะเองก็มีร้าน Kani Doraku อยู่ถึง 2-3 ร้าน 

แต่ร้านที่ถือว่าเป็นไฮไลท์แลนมาร์คของโอซาก้า ก็คือร้านที่อยู่ตรงหัวมุมทางข้ามคลองโดทงโบริ ตั้งอยู่ข้างๆ กับป้ายไฟกูลิโกะนั้นเอง แต่ด้วยเพราะสาขานี้มีชื่อเสียงมาก ใครมาโอซาก้าต่างก็ต้องแวะมาทานที่สาขานี้ทำให้ในแต่ละวันจะมีคนมาต่อคิวยาว บางทีต้องรอเป็นชั่วโมง สองชั่วโมง ดังนั้นหากใครมีแพลนไปโอซาก้าและต้องการไปร้าน Kani Doraku ที่สาขานัมบะนี้ แนะนำว่าให้เข้าไปจองที่นั่งล่วงหน้าได้ที่เว็ปไซต์ทางร้านก่อน http://douraku.co.jp.e.at.hp.transer.com/

เวลามาเที่ยวจะได้ไม่ต้องรอนาน  ซึ่งผมเองก็ทำการกดจองที่นั่งไว้ตั้งแต่อยู่เมืองไทยนานข้ามเดือนกันเลยทีเดียว ในเว็ปไซต์จะมีให้เราเลือกภูมิภาคที่เราจะไปแบ่งออกเป็น 5 ภูมิภาค คือ คันไซ, คันโต, โชโกกุ, ชิโกกุ และฮามามัตสึ ซึ่งถ้าเรามาที่โอซาก้าเราต้องเลือกภูมิภาคคันไซ (Kansai Region) จากนั้นก็มีหน้าต่างให้เราเลือกร้าน เลือกสาขาที่เราจะไป ซึ่งผมต้องการไปร้าน Original ที่เป็นแลนด์มาร์ค ก็ต้องกดเลือกร้าน Dotornbori Honten (The Original/Main restaurant) อันเป็นสาขาต้นตำรับที่ดังที่สุด เมื่อกรอกรายละเอียดทุกอย่างครบถ้วนเสร็จแล้ว จะมีอีเมล์ส่งมาคอนเฟิร์มกับเรา ถ้าไม่มีอีเมล์มาแสดงว่าการจองของเราไม่สมบูรณ์ ต้องกลับไปจองใหม่ 

ผมกดจองที่นั่งไว้ตอนเย็นช่วงเวลาหกโมงครึ่ง เมื่อถึงวันนัดหมายผมมาล่วงหน้าก่อนเวลา 20 นาที ด้านหน้าของทางร้านมีคนยืนรอคิวยาวเหยียด มีทั้งคนญี่ปุ่น คนจีน ฝรั่ง และคนไทย ที่หน้าร้านมีขายปูย่างให้เราซื้อกลับบ้านกิน หรือซื้อมากินตอนยื่นรอเรียกน้ำย่อยได้ เมื่อผมมาถึงก็ยื่นใบจองที่ทางร้านส่งอีเมล์มาคอนเฟิร์มให้กับพนักงาน ใช้เวลารอไม่นานพนักงานก็นำผมเข้าร้านได้เลยทันที ภายในร้านจะมีตู้เลี้ยงปูยักษ์อยู่หลายตู้ แต่ละตู้จะมีปูยักษ์ขนาดไซส์ต่างๆ ดูไปดูมาก็นึกสงสารพวกมันแต่ก็แพ้ใจตัวเองกับการอยากกินปู ผมจึงเดินต่อไปยังด้านในของร้าน พนักงานภายในร้านจะแต่งชุดกิมิโนคอยต้อนรับอย่างดีและนำผมเข้าลิฟต์ ร้านที่สาขา Dotornbori Honten แห่งนี้จะมีหลายชั้น โดยแบ่งเป็นชั้นที่สูบบุหรี่ได้ กับห้ามสูบบุหรี่ ซึ่งเราสามารถกดเลือกได้ตั้งแต่ทำการจองที่นั่งแล้วว่าจะเลือกโซนสูบบุหรี่ หรือไม่สูบบุหรี่ โดยชั้น 1 ชั้น 2 และชั้น 4 จะเป็นชั้นที่ห้ามสูบบุหรี่ ผมได้ที่นั่งชั้น 2 ใกล้ๆ กับกระจกที่สามารถเห็นวิวย่านร้านค้าในนัมบะได้

เมนูอาหารทุกอย่างจะทำมาจากเนื้อปูทั้งหมด มีทั้งแบบแยกเป็นจานๆ หรือแบบเมนูเป็นเซ็ต ราคาโหดใช้ได้ เหมือนเทียบกับความคุ้มค่าแล้วผมจึงเลือกสั่งอาหารแบบเป็นเซ็ต ใช้เวลาไม่นานอาหารก็เริ่มทยอยถูกเสิร์ฟตรงหน้าผม

เริ่มจาก ซุปเนื้อปู มาในถ้วยเล็กๆ น่ารักๆ รสชาติหวานอร่อยกลมกล่อม

จานต่อมาเป็น ก้ามปูสด เนื้อปูเย็น แต่หวานมาก เมื่อเนื้อปูเข้าปากแทบจะละลายได้ทันที เราสามารถกินได้แบบง่ายมากแค่ดูดเนื้อก็หลุดหมดเข้าปากแล้ว

จานต่อมาเรียกว่าทีเด็ดเลยก็ว่าได้ จานที่ว่า คือมันปู พนักงานสอนวิธีให้เราเอาเนื้อปูลงผสมลงไปกับมันปูแล้วตั้งไฟให้ร้อนพอได้ที่แล้วก็จัดการชิมได้ จานนี้มีความเค็มนิดๆ มันหน่อยๆ เมื่อเนื้อปูผสมลงไปจึงได้รสหวานของเนื้อปู ทำให้มี texture รสชาติที่แตกต่างกัน แต่เข้ากันได้ดีอย่างมาก

จานต่อไปเป็น ซูชิเนื้อปู อาจเรียกได้ว่าจานนี้จะเป็นจานที่ทำให้ท้องผมอิ่มได้ดีที่สุด เพราะมีข้าวเข้ามาผสม โดยส่วนตัวผมคิดว่าจานนี้ธรรมดาทั่วไปไม่ได้โดดเด่นอะไร แต่ต้องกินกันไม่อิ่ม 55555

ปูเผา จานนี้ทำมาแบบร้อนไม่เย็นเหมือนจานอื่นๆ เนื้อหอมหวานอร่อย จานนี้ตัดเลี่ยนจากการกินเนื้อปูแบบเย็นได้อย่างดี

แล้วพนักงานก็ยกหม้อมาวางตรงหน้าผม มันคือ เซ็ตสุกี้ชาบู ที่ในเซ็ตมีทั้งก้ามปู ขาปู และเห็ด ผักหอมเครื่องเคียงให้เรานำมาต้ม ผมไม่พูดพร่ำทำเพลง ผมก็นำทุกอย่างเทลงหม้อทั้งหมด พอน้ำเดือดได้ทีก็จัดการทันที น้ำซุปรสชาติหวานอร่อยมาก เนื้อปูก็นิ่มหวานตามสูตรเป๊ะ ที่จะติดก็คือน้ำจิ้มของทางญี่ปุ่นจะออกเปรี้ยวๆ ไม่ได้มีรสเผ็ดเข้มข้นเหมือนกับทางบ้านเรา

ผมใช้เวลานานพอสมควรในการกินอาหารมื้อนี้ เพราะพนักงานจะค่อยๆ เสิร์ฟมาให้ทีละเมนู และเมนูบางอย่างก็ต้องใช้เวลาในการทำ แต่มันก็เป็นช่วงเวลาที่ทำให้ผมมีความสุขอย่างมาก เพราะรสชาติ เนื้อปู ก้ามปู ของร้านนี้หอมหวานอร่อยมาก ซึ่งแตกต่างจากร้านบุฟเฟ่ต์ขาปูยักษ์เวลาเรามากับทัวร์โดยสิ้นเชิง มันเป็นของแตกต่างของสิ่งธรรมดากับตำนานได้อย่างชัดเจน

กว่าที่จะเป็นตำนานได้ ต้องผ่านเรื่องราว ผ่านกาลเวลาให้พิสูจน์มานักต่อนักเหมือนกับร้าน Kani Doraku ที่เป็นตำนานชิมได้ที่โอซาก้า! มาอย่างยาวนานที่รอให้เราไปพิสูจน์…

ติดตามผลงานเขียนอื่นๆ จากเพจปั่นเรื่อง เป็นภาพ อีกได้ที่ https://www.facebook.com/writestoryforphoto