องค์กรยุคนี้ต้องการคนแบบไหน สมัยก่อนจะต้องเป็นคนเก่งเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ได้รับเลือก แต่เดี๋ยวนี้คนเก่งอาจไม่ใช่คำตอบสำหรับบางองค์กรแล้วก็ได้
มารู้ก่อนว่าคนเก่งกับคนขยันแตกต่างกันอย่างไร
คนเก่ง คือ คนที่มีความสามารถในการทำงาน มีพื้นฐานการคิดวิเคราะห์ มีทักษะต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานเป็นอย่างดี ทำให้เรียนรู้ได้เร็ว เรียกว่าใช้เวลาน้อยกว่าแต่ทำงานได้มีคุณภาพมากกว่าคนอื่น ๆ ส่วนคนขยันก็คือคนที่มุ่งมั่นทุ่มเทในการทำงาน เอาการเอางาน พยายามเรียนรู้ทุกอย่าง แม้จะมีปัญหาอุปสรรคก็สามารถทำให้งานประสบความสำเร็จอย่างมีคุณภาพได้ แต่อาจใช้เวลามากกว่า
หลายคนอยากรู้ว่าถ้าเราไม่เก่ง แต่ขยัน องค์กรที่เราหมายตาอยู่จะรับเข้าทำงานหรือไม่ ระหว่างคนเก่งกับคนขยัน องค์กรอยากได้คนแบบไหนมากกว่ากัน
คำตอบก็คือ องค์กรอยากได้ทั้งคนเก่ง และคนขยัน ซึ่งเป็นบุคลากรในฝันของทุกองค์กร เพราะคนที่ทั้งเก่งทั้งขยัน มีแนวโน้มที่จะทำให้องค์กรประสบความสำเร็จสูงกว่าคนประเภทอื่น แต่การที่องค์กรรับคนแบบนี้เข้ามาทำงานก็เป็นความท้าทายของทั้งฝ่ายทรัพยากรบุคคล หัวหน้างาน และผู้บริหารด้วย เพราะคนเก่งแถมขยันจะเป็นพวกที่ชอบงานท้าทาย กระหายความสำเร็จ ถ้าหัวหน้างานไม่รู้จักบริหารจัดการงานที่เหมาะกับคนแบบนี้ โอกาสที่คนเก่งแถมขยันจะโบยบินออกจากองค์กรก็มีมาก อย่าลืมว่าคนเหล่านี้เป็นที่ต้องการของทุกองค์กร
แต่ถ้าตัวเลือกมีแค่คนเก่งหรือคนขยันอย่างใดอย่างหนึ่ง องค์กรส่วนใหญ่ก็มักจำเป็นต้องเลือกคนขยันมากกว่า เพราะโอกาสที่จะฝึกคนขยันให้กลายเป็นคนเก่งได้นั้น มีมากกว่าการจะฝึกที่คนเก่งอยู่แล้วให้กลายเป็นคนขยัน เพราะความขยัน ตั้งใจเป็นสิ่งที่ฝึกฝนกันได้ยาก และไม่ใช่ทุกคนที่ทำได้
อย่าลืมว่าคนเก่งบางคน มักจะเป็นคนขยันด้วย เพราะความขยันเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เก่งขึ้น แต่ก็มีบางคนที่ฉลาดแม้จะไม่ขยันเลยก็ตาม อย่าลืมว่าความฉลาดอย่างเดียว ไม่สามารถอยู่รอดในองค์กรได้ ต้องมีคุณลักษณะอื่น ๆ ประกอบด้วย ไม่ว่าจะเป็นความรับผิดชอบ เอาใจใส่ มีน้ำใจ ฯลฯ ซึ่งเป็นนิสัยพื้นฐานของการอยู่ร่วมกันในองค์กรอยู่แล้ว
แต่เหนือสิ่งอื่นใด นอกจากคนเก่ง คนขยันแล้ว คนที่ทุกองค์กรต้องการมากที่สุดก็คือ “คนดี”
