แอบส่องเพื่อนร่วมโลก! วันแม่ในต่างแดน

ยินดีต้อนรับสู่ช่วงเทศกาลวันแม่ของประเทศไทย อย่างที่ทราบกันดีว่าวันแม่ของประเทศไทยตรงกับวันที่ 12 สิงหาคมของทุกปี ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยประเทศไทยได้เริ่มใช้วันดังกล่าวเป็นวันแม่แห่งชาติเมื่อ พ.ศ. 2519 จนมาถึงปัจจุบัน โดยในวันแม่ของประเทศไทยก็จะมีการพาคุณแม่ไปพักผ่อนตามที่ต่าง ๆ มีการเขียนการ์ด และมอบ “ดอกมะลิ” ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำวันแม่นั่นเอง 

สำหรับใครหลาย ๆ คน ในช่วงนี้ก็คงจะคิดถึงแม่เป็นพิเศษ เพราะไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศรอบตัว หรือโปรโมชั่นพิเศษต่าง ๆ ก็มักจะเสนอข้อเสนอพิเศษให้กับเหล่าแม่ ๆ (คลิกเลย! > ของฟรีมีในโลก! รวมสิ่งดี ๆ ที่ ‘ฟรี’ ในวันแม่) แต่วันนี้ LINE TODAY ขอพาไปส่องวันแม่ในประเทศอื่น ๆ รอบโลกกันบ้าง ว่าวันแม่ของพวกเขาตรงกับวันไหน มีที่มามาจากอะไร และพวกเขาเหล่านั้นทำอะไรเป็นพิเศษในวันแม่กันบ้าง 

USA 

เริ่มต้นที่ประเทศผู้ที่เป็นคนตั้งวันแม่สากลอย่าง สหรัฐอเมริกา โดยเรื่องราวของวันแม่เกิดจาก Anna Jarvis ที่เธอได้สูญเสียคุณแม่อันเป็นที่รักของเธอไปในปี 1905 เธอก็พยายามจะหาวิธีที่จะยกย่องแม่ของเธอ รวมไปถึงเหล่าคุณแม่คนอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน เธอเลยเริ่มจัดงานในวันครบรอบการจากไปของแม่ของเธอ ครั้งแรกในวันที่ 10 พฤษภาคม 1908 โดยในปีนั้น วันนี้ยังไม่ได้รับการประกาศให้เป็นวันหยุดจากสภาฯ เธอเลือกจัดงานในโบสถ์ที่แม่ของเธอเคยสอน และมอบดอกคาร์เนชั่น ซึ่งเป็นดอกไม้ที่แม่ของเธอชอบ ให้กับลูกสาวและลูกชายที่แม่ได้รับยกย่องในปีนั้น จำนวน 500 ดอก 

หลังจากนั้นเธอก็ได้เขียนจดหมายเพื่อกระจายถึงความต้องการให้รัฐบาลประกาศให้วันแม่เป็นวันหยุดประจำปี รวมไปถึงต้องการให้ทั่วโลกสนใจความสำคัญของวันแม่ จนในที่สุดในปี 1914 วันแม่ก็กลายเป็นวันหยุดที่รับรองโดยสภาคองเกสในสหรัฐอเมริกา และหลังจากมีวันแม่เกิดขึ้นมาไม่กี่ปี วันแม่ก็ได้กลายเป็นสินค้า เมื่อธุรกิจต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้ การ์ด ของขวัญ บริการไปรษณีย์ ฯลฯ ได้ใช้วันแม่เป็นเครื่องมือทางการตลาด Jarvis ก็เลยพยายามที่จะต่อสู้เพื่อความหมายอันแท้จริงของวันแม่ แต่ว่าเธอก็ไม่สามารถสู้กับระบบทุนนิยมได้ วันแม่จึงไม่ได้เป็นอย่างที่เธอตั้งใจไว้ แต่ว่าท้ายที่สุดเธอก็ได้รับการขนานนามว่าเป็น แม่ของวันแม่ อยู่เช่นเดิม 

MEXICO

ต่อด้วยประเทศเม็กซิโก ที่นอกจากจะมีวันแม่ในวันที่ 10 พฤษภาคมที่เป็นวันหยุดประจำปีแล้วนั้น ก็ยังมีเพลงวันแม่อีกด้วย อีกทั้งจะมีธรรมเนียมในแต่ละปีก็คือครอบครัวจะจ้างวงดนตรีมาแสดงที่บ้านเพื่อเฉลิมฉลอง และจะให้เหล่าคุณแม่สามารถขอเพลงโปรดของตัวเอง นอกจากนั้นก็จะมีการรับประทานอาหารดี ๆ รวมไปถึงวันแม่ของชาวเม็กซิกันจะมีอาหารเช้าดั้งเดิมที่มีชื่อว่า tamales พร้อมเครื่องดื่มที่ทำจากข้าวโพดอย่าง atole กินในวันนั้นอีกด้วย 

UK

แม้ว่า Anna Jarvis จะพยายามที่จะสร้างวันแม่ขึ้นให้เป็นวันพิเศษ แต่ในสหราชอาณาจักรนั้น กลับนำเอาวันที่เรียกว่า Mothering Sunday ในอดีตเมื่อทศวรรษที่ 17 มาบัญญัติเป็นวันแม่ โดยวันนี้เกิดขึ้นในวันที่เสาร์ที่ 4 ของช่วงเทศกาลมหาพรต หรือเทศกาลเข้าสู่ธรรมของศาสนาคริสต์ โดยการฉลองวันแม่ไม่ได้ฉลองให้แม่เพียงอย่างเดียว แต่ว่าเป็นการยกย่องพระแม่มารีย์ด้วย โดยในวันแม่ชาวคริสต์ก็จะไปยังโบสถ์แม่ โบสถ์หลัก หรือโบสถ์ใหญ่ในแถว ๆ นั้น เพื่อที่จะนมัสการ สำหรับคนที่ทำงานใกล้บ้าน ก็จะได้รับอนุญาตให้กลับบ้านไปหาแม่ได้ และสำหรับแม่ ๆ นั้นก็จะเตรียมซิมเนลเค้ก หรือเค้กที่มีหน้าเป็นผลไม้แห้ง และมาร์ซิพาน 

DOMINICAN REPUBLIC  

สำหรับในโดมินิกันนั้น วันแม่จะตรงกับวันอาทิตย์สุดท้ายในเดือนพฤษภาคม วันแม่เป็นอีกหนึ่งเทศกาลที่พิสูจน์ว่าประเทศนี้มีความหลงใหลกับชีวิต และการเฉลิมฉลองในโอกาสต่าง ๆ จริง โดยในวันแม่ก็จะมีการรวมตัวของแม่ และเหล่าลูก ๆ โดยวันแม่ของชาวโดมินิกันถือว่าเป็นเทศกาลยิ่งใหญ่ ครอบครัวก็มันจะไปเที่ยวด้วยกัน มีการยกย่องแม่หลาย ๆ รุ่น หรือเรียกได้ว่าเป็นการรวมตัว และมีเวลาที่แสนพิเศษกับสมาชิกในครอบครัว กินข้าวด้วยกัน ดื่มด้วยกัน และเต้นรำด้วยกัน 

INDIA

เป็นประเทศที่เรียกว่าได้ว่าร่ำรวยทางวัฒนธรรมและประเพณีเป็นอย่างมาก เพราะเป็นประเทศที่มีเทศกาลมากมาย อีกทั้งยังเฉลิมฉลองกันยาวนานอีกด้วย แต่ในวันแม่ของอินเดียนั้นจะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่สองของเดือนพฤษภาคมในทุก ๆ ปี โดยการเฉลิมฉลองก็จะคล้ายกับในสหรัฐอเมริกา ก็คือการให้เด็ก ๆ มอบการ์ด และของขวัญแก่แม่ของตัวเอง ทำอาหารจานโปรดของแม่ แต่ว่าในอินเดียมีพิธีสำหรับฮินดูที่เรียกว่า “ทุรคาบูชา” ใน เดือนตุลาคม ที่เป็นเทศกาลบูชา “พระทุรคา” ซึ่งเป็นเทพเจ้าที่หลาย ๆ คนนับถืออีกด้วย

POLAND

วันแม่ในประเทศโปแลนด์เริ่มต้นจากปี 1923 ในเมืองคราโคว แต่ว่าเพิ่งจะมาเริ่มฉลองจริง ๆ จัง ๆ หลังสงครามโลกครั้งที่สอง โดยจะจัดขึ้นในวันที่ 26 พฤษภาคมของทุกปี โดยโรงเรียนจะเป็นคนจัดวันแม่ขึ้น และให้เด็ก ๆ นำของขวัญไปให้แม่ของพวกเขา จะมีการทำการ์ดประดิษฐ์ ตกแต่งด้วยดอกไม้ เขียนข้อความพิเศษความรักที่มีให้แม่ โดยวันแม่ก็จะเป็นอีกหนึ่งวันหยุดในโปแลนด์ แต่ว่าชาวโปแลนด์ไม่ได้นิยมการออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน แต่จะเป็นการมารวมตัวกันที่บ้านเพื่อมอบของขวัญไม่ว่าจะเป็นเค้ก หรือดอกไม้ ให้กับคุณแม่นั่นเอง

AUSTRALIA

ถ้าบ้านเราคือการมอบดอกมะลิให้กับแม่ ในออสเตรเลียก็จะมอบ “ดอกเบญจมาศ” ให้กับคุณแม่ในวันแม่ซึ่งในประเทศออสเตรเลียจะจัดตรงกับวันแม่สากลแบบสหรัฐอเมริกานั่นเอง โดยในช่วงนี้ก็จะเป็นช่วงฤดูกาลดอกไม้บาน หรือฤดูใบในร่วงในออสเตรเลีย นอกจากนี้ยังมีดอกคาร์เนชั่นที่ชาวออสซี่จะใช้แสดงออกว่าแม่ของพวกเขายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ถ้าแม่มีชีวิตอยู่ก็จะติดดอกคาร์เนชั่นหลากสี แต่ถ้าแม่ของพวกเขาล่วงลับไปแล้ว ก็จะติดคาร์เนชั่นสีขาวนั่นเอง

FRENCH

สำหรับวันแม่ในฝรั่งเศสนั้น เหล่าคุณแม่จะได้รับการพักผ่อนในวันนี้ โดยวันแม่ในฝรั่งเศสจะอยู่ในช่วงไม่ปลายเดือนพฤษภาคม ก็ต้นเดือนมิถุนายน ขึ้นอยู่กับเทศกาลเพ็นเทคอสต์ โดยกลายเป็นวันหยุดครั้งแรกในยุคของนโปเลียนในปี 1950 คือเหล่าแม่ ๆ ก็จะได้หยุดไปหาลูก ๆ และถือว่าเป็นวันของแม่จริง ๆ เพราะเหล่าแม่ ๆ ก็จะได้รับของขวัญ ได้กินอาหารมื้อใหญ่ เฉลิมฉลองวันแม่ให้สนุกที่สุดไปเลย เรียกกลาย ๆ ว่าเป็นวันหยุดของแม่จริง ๆ

CANADA 

เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ยึดวันเดียวกับวันแม่สากล สำหรับแคนาดา โดยในวันแม่ ถ้าอากาศดี (ในช่วงนั้นมักจะมีหิมะตก) ก็จะมาแม่ออกมานอกบ้าน มากินข้าว โดยลูก ๆ จะเป็นคนเตรียมไว้ให้เหล่าแม่ ๆ และก็เหมือนวันแม่ทั่ว ๆ ไปที่จะมีการมอบการ์ด ให้ของขวัญ พาไปทำกิจกรรมพิเศษต่าง ๆ และในวันแม่นี้เองคนแคนาดาก็จะมีการมอบคุกกี้ และเค้กให้กับคุณแม่ รวมไปถึงการติดดอกคาร์ชั่นเพื่อยกย่องคุณแม่อีกด้วย 

IRELAND

สำหรับไอร์แลนด์นั้น เรื่องราวของวันแม่จะคล้าย ๆ กับสหราชอาณาจักร ก็คือจะเป็นวันที่เด็ก ๆ หรือ ลูก ๆ ที่ทำงานต่างบ้าน ได้กลับมาหาครอบครัว และเฉลิมฉลองด้วยเค้ก มีการมอบดอกไม้ฤดูกาลใบไม้ผลิเพื่อเป็นการยกย่องคุณแม่ 

JAPAN

วันแม่ในญี่ปุ่นตรงกับวันอาทิตย์ที่สองในเดือนพฤษภาคม สัญลักษณ์ของวันแม่ก็คือดอกคาร์เนชั่น เพราะเป็นการแสดงความหมายถึงความเข้มแข็งของคุณแม่ เด็ก ๆ ญี่ปุ่นจะพูดคำว่า “Haha-no-hi” และมอบดอกไม้ให้กับคุณแม่ สำหรับประวัติศาสตร์วันแม่ของญี่ปุ่น ก็คือในสมัยโชวะจะมีการจัดงานเฉลิมฉลองวันเกิดให้กับจักรพรรดิโคจุน แต่ว่าวันแม่ในสมัยใหม่นั้นเริ่มมาตั้งแต่ปี 1913 ซึ่งเป็นมรดกจากสงครามโลกครั้งที่สองนั่นเอง 

ขอบคุณข้อมูลจาก

https://www.globalcitizen.org/en/content/mothers-day-traditions-around-the-world/ 

https://www.thebump.com/a/mothers-day-celebrations-around-the-world