โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

สรุปเหตุการประท้วงใหญ่ในฮ่องกง เบื้องหลังกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน

LINE TODAY

เผยแพร่ 08 ส.ค. 2562 เวลา 08.02 น. • Expinion.J

#สรุปเหตุการประท้วงใหญ่ในฮ่องกง เบื้องหลังกฎหมายการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน

เมื่อหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาการประท้วงใหญ่ในฮ่องกงทวีความรุนแรงมาอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มประท้วงมายาวนานตั้งแต่เดือนมิถุนายน หลายคนอาจจะยังไม่เข้าใจว่าสาเหตุอะไรที่ปลุกให้คนฮ่องกงนับล้านออกมาต่อต้านรัฐบาลของพวกเขาเอง

อย่างแรกต้องทำความเข้าใจก่อนว่า สมัยก่อนฮ่องกงถูกปกครองอยู่ภายใต้อานิคมของอังกฤษ อยู่ 99 ปี หลังจากที่อังกฤษส่งคืนเกาะฮ่องกงกลับสู้อ้อมอกจีน ทางจีนก็ให้คำมั่นสัญญาไว้ว่าจะใช้ระบบการปกครองแบบ 1 ประเทศ 2 ระบบ พูดง่ายๆก็คือ จีน จะยังคงระบบคอมมิวนิสต์ แต่ฮ่องกงจะปกครองแบบระบบทุนนิยม 

จนเมื่อไม่นานนี้รัฐบาลฮ่องกง นำโดย นางแคร์รี แลม ผู้บริหารเกาะฮ่องกงได้ประกาศว่าจะอนุมัติกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกลับไปดำเนินคดีที่จีน มองเผินๆแล้วมันส่งผลกับคนฮ่องกงขนาดนั้นเลยเหรอ?

มากกว่าการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปดำเนินคดีที่จีน คนฮ่องกงมองว่า กฎหมายนี้จะทำให้จีนค่อยๆเข้ามาแทรกแทรงกระบวนการยุติธรรมของฮ่องกง และเริ่มกลืนกินฮ่องกงเข้าสู่ระบบคอมมิวนิสต์ ทำให้สูญเสียเสรีภาพ ซึ่งเป็นสิ่งที่คนฮ่องกงกลัวมาก 

นอกจากนี้ยังมองว่าจีนอาจจะใช้อำนาจดังกล่าวดำเนินคดีกับชาวฮ่องกงที่เห็นต่าง เพราะในฮ่องกงก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่เป็นผู้ลี้ภัยอพยพเข้ามา อีกทั้งระบบการลงโทษของจีนก็ไม่ค่อยเป็นที่น่าพอใจนัก เพราะนักโทษไม่ค่อยได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานที่พึงได้

ซึ่งก่อนหน้านี้ถึงแม้ว่าทางรัฐบาลได้ออกมาระงับกฎหมายและอ้างว่าได้ปรับแก้เพื่อตอบสนองข้อเรียกร้องไปแล้ว แต่จะไม่ยอมถอนกฎหมายข้อนี้ออกเด็ดขาด โดยแครี แลม ได้ให้เหตุผล เป็นเครื่องมือในการต่อสู้กับอาชญากรรมข้ามชาติ จึงทำให้ชาวฮ่องกงยังคงออกมาประท้วงอย่างต่อเนื่อง

อีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจ คือ การประท้วงแบบปกปิดตัวตนด้วยเทคโนโลยีต่างๆที่น่าสนใจเซอร์

เนื่องจากเมื่อปี 2014 ที่เกิดการประท้วง กลุ่มที่เป็นแกนนำส่วนใหญ่ถูกตามจับกุมไปลงโทษ บทเรียนนี้ทำให้ผู้ประท้วงเกิดความหวาดระแวงและพยายามปกปิดตัวตนด้วยวิธีการต่างๆ

อย่าง แอปพลิเคชั่น Telegram ซึ่งเป็นพื้นที่สื่อสารของกลุ่มผู้ชุมนุม เพื่อใช้ในการนัดหมาย ติดต่อ สื่อสารระหว่างกัน

เครื่องยิงเลเซอร์ป้องกันการตรวจจับใบหน้า กลุ่มผู้ปะท้วงใช้วิธีการยิงเลเซอร์ตอบโต้เทคโนโลยีตรวจจับใบหน้าของทางฝั่งตำรวจ 

อีกทั้งผู้ประท้วงทุกคนจะสวมหน้ากากปกปิดใบหน้า เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ และไม่ใช่บัตรโดยสาธารณะ เพื่อป้องกันการนำข้อมูลส่วนตัวส่งไปให้กับทางการจีน

จะเห็นได้ว่าชาวฮ่องกงไม่ไว้วางใจต่อรัฐบาลของตัวเองขนาดไหน และ ความก้าวล้ำของเทคโนโลยีสสมัยนี้ สามารถสร้างพลังการสื่อสารที่จะดึงให้คนจำนวนมากออกมาเรียกร้องเพื่อสิทธิของตัวเองได้มากกว่าสมัยก่อนมาก

#สรุปแล้วก็คือสิ่งที่ขับเคลื่อนให้คนฮ่องกงจำนวนมมากออกมาประท้วงในครั้งนี้เพราะ กลัวว่า สิทธิการปกครองตนเองตามกฎหมายฮ่องกงที่เป็นแบบระบบทุนนิยม จะถูกจีนดึงกลับเข้าไปสู่ระบบการปกครองแบบคอมมิวนิสต์

แม้ว่าสถาณการณ์ในฮ่องกงล่าสุดจะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งการยิงแก๊สน้ำตา ปิดสนามบิน ขัดขวางการจราจร เพื่อเรียกร้องให้ ผู้บริหารยกเลิกกฎหมายนี้ และลากออกจากตำแหน่ง

จนตอนนี้ทางฝั่งจีนก็เริ่มออกอาการฮึ่มและประกาศกร้าวเพื่อเป็นสาสน์เตือนว่า อย่าเล่นกับไฟ! 

ทั้งนี้ชะตากรรมของเกาะฮ่องกงจะเป็นอย่างไรคงต้องตามกันต่อไป…

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0