โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

รักได้ แต่อย่าไร้สติ 10 เทคนิคดึงตัวเอง..ไม่ให้โง่เพราะรัก - ฟาร์มรัก

LINE TODAY

เผยแพร่ 01 มี.ค. 2563 เวลา 13.45 น.

ภาพประกอบ @mandy_mandarin 

เดี๋ยวนี้คนเรามักตัดสินปัญหาความรักด้วยความรุนแรง บางคนก็ทำตัวบ้า ๆ จนกลายเป็นพฤติกรรมโง่ ๆ เวลามีความรัก

ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะคนส่วนใหญ่มักจะมีความรักแบบไร้สติ พอไม่มีสติเมื่อไหร่ก็มีแนวโน้มที่จะทำอะไรแบบไม่คิดได้เสมอ โดยเฉพาะการทำตัวโง่ ๆ เวลามีความรัก ซึ่งบางครั้งก็ถลำลึกจนกู่ไม่กลับ เพราะรักแบบไร้สติที่ทำให้ชีวิตบางคนพังเอาง่าย ๆ

แล้วทำไมคนเราต้องรักอย่างมีสติ ก็เพราะ ‘สติ’ ทำให้เห็นความจริง ถ้ารักอย่างมีสติก็จะทำให้เห็นความรักในแบบที่มันควรจะเป็น ไม่ใช่ความรักโง่ ๆ ที่เราหรือใครอยากให้เป็น แต่จะรักยังไงไม่ให้ไร้สติ 10 เทคนิคนี้อาจจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด ที่ทำให้เราไม่โง่เวลามีความรัก เพราะความรักก็แบบนี้แหละ ควบคุมไม่ได้ แต่เข้าใจได้

1. ขาดเธอ..ไม่ต้องขาดใจ

คนส่วนใหญ่เวลามีความรักมักจะทุ่มเททุกอย่างแบบเต็มที่ ให้ไปหมดทั้งตัวและหัวใจ ความสุขของเค้าก็คือความสุขของเรา เรียกว่าใช้หัวใจมากกว่าใช้สมอง พอความรักไม่เป็นไปอย่างที่ต้องการก็เจ็บมาก เจ็บหนักจนไร้สติ เผลอทำอะไรโง่ ๆ ทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว

ถามว่าแบบนี้คือความรักไหม..ก็คงต้องตอบว่า “ใช่” แต่เป็นรักโง่ ๆ ที่เหมือนเป็นบ้าอยู่ฝ่ายเดียว เพราะความจริงแล้ว คนเรามีความสุขได้ด้วยตัวเอง อยู่ได้ด้วยตัวเอง และพึ่งพาตัวเองได้ ถ้ามัวแต่คิดว่าขาดเธอแล้วฉันอยู่ไม่ได้ก็เข้าข่ายรักไร้สติ ที่สักวันอาจกลายเป็นความรักโง่ ๆ ที่กว่าจะรู้ตัวก็สายไปแล้วก็ได้

2. รักตัวเองให้มากกว่ารักคนอื่น

เรื่องแปลกอย่างหนึ่งของความรักก็คือ เวลามีความรักเรามักจะรักคน ๆ นั้นมากกว่าตัวเองเสมอ เรียกว่ายอมทุกอย่างแบบถวายหัว จะเสียเปรียบก็ไม่เป็นไร จะอึดอัดใจก็ไม่เป็นไร หรือจะไม่มีความสุขไปบ้างก็ไม่เป็นไร ขอแค่ให้อีกคนได้อย่างที่เค้าต้องการก็พอ

สำหรับความรัก..การทำแบบนี้ไม่ใช่เรื่องผิด แต่ผิดตรงที่เราไม่ได้คิดถึงตัวเองเลย ถึงจะอึดอัด ไม่สะดวกใจก็ยอมทำ ซึ่งถ้าทำแบบไปเรื่อย ๆ เราก็จะสูญเสียความเป็นตัวเองจนไม่ด้วยซ้ำว่าอะไรคือความต้องการของแท้จริงของเรา และเมื่อความเป็นตัวเองค่อย ๆ ลดลง ก็จะเห็นค่าของตัวเองน้อยลง สุดท้ายเราจะไม่รู้จักวิธีรักตัวเอง เพราะความสุข ความต้องการของเราไปอยู่ที่อีกคนจนหมดแล้ว

ถ้าวันหนึ่งความรักและคนรักไม่เป็นไปตามต้องการ คนที่ไม่รักตัวเองจะเสียศูนย์ได้มากกว่าคนทั่วไป บางทีอาจถึงขั้นทำอะไรโง่ ๆ ในแบบที่ไม่เคยทำ ซึ่งถ้าหัดมีภูมิต้านทานอย่างการรักตัวเองไว้บ้าง ต่อให้ไม่มีใครรัก เราก็จะไม่ทำอะไรโง่ ๆ

>>คิดจะรักใคร..ต้องรักตัวเองให้เป็น<< 

3. รักเป็นก็ต้องทุกข์ให้เป็น

คนมีความรักทุกคนต้องรู้ไว้เลยว่า ‘รัก’ ทำให้เราทั้งทุกข์และสุขได้ในเวลาเดียวกัน ไม่มีทางที่เราจะพบเจอแต่ความสุขเพียงอย่างเดียว แถมโอกาสที่จะเจอความทุกข์ก็มีมากกว่าเสียด้วย เพราะเมื่อมีความรัก คนเราก็จะมีความต้องการที่เพิ่มขึ้น ไม่ใช่รักธรรมดา ๆ อีกต่อไป แต่จะเป็นรักที่อัดแน่นไปด้วยความปรารถนาและความคาดหวังต่าง ๆ นานา ซึ่งเมื่อไม่เป็นไปตามต้องการ สุดท้ายความรักก็กลายเป็นความทุกข์ที่ทำให้เราโง่งมไม่หลุดพ้นสักที

เมื่อเข้าใจว่าความรักมักมาพร้อมกับความทุกข์ เราจะจัดการกับความทุกข์ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตได้ง่ายขึ้น เรียกว่าไม่ทำอะไรบ้า ๆ ไม่ทำตัวโง่ ๆ เวลามีความรัก เพราะเรารู้แล้วว่าความรักก็แบบนี้แหละ ควบคุมไม่ได้ แต่เข้าใจได้

4. เห็นแก่ตัวเองบ้างก็ดี

จริงอยู่ที่คนเห็นแก่ตัวเป็นคนน่ารังเกียจ ไม่มีใครอยากอยู่ใกล้ แต่ในสถานการณ์ของความรักที่ไม่ปกติ บางครั้งเราก็ต้องยอมใช้ความเห็นแก่ตัวให้เป็นประโยชน์ เพื่อจะได้ไม่ต้องโง่ ไม่ต้องเจ็บ และไม่ต้องทุกข์

อย่าคิดว่ารักแล้วต้องทน คนเรามีทางเลือกเสมอ ถ้ารักไปแล้ว ไม่มีความสุขก็จงเห็นแก่ตัวเองแล้วถอยออกมา เลิกทำเพื่อเขาแต่ให้ทำเพื่อตัวเอง เพราะรักไม่จำเป็นต้องยอมทุกอย่าง ถ้ารักแล้วไม่ได้ความรักดี ๆ ตอบกลับมาก็แค่หยุดแล้วกลับมารักตัวเอง

>>'รัก' หรือ 'หลง' ตัวเอง<< 

5. รู้จักความเปลี่ยนแปลง

ทุกสิ่งบนโลกเปลี่ยนไปได้เสมอ นับประสาอะไรกับความรักที่ต้องมีวันจืดจาง เลือนหายไปในสักวัน ซึ่งถ้ายอมรับไม่ได้ก็มีโอกาสสูงที่เราจะยึดติดกับความรักจนทำอะไรโง่ ๆ โดยไม่รู้เลยว่าเรื่องแบบนี้มันเป็นธรรมดาของโลกไปแล้ว

ทางออกง่าย ๆ ที่แสนจะเบสิกก็คือ เราต้องรู้จักยอมรับความเปลี่ยนแปลง ไม่เฉพาะแค่เรื่องความรัก เพราะทุกอย่างบนโลกเปลี่ยนไปได้เสมอ ถ้ารู้จักยอมรับ เข้าใจ และปรับตัวได้เร็ว เราก็จะกลับมาเป็นคนใหม่ได้ง่าย แต่ถ้ายังยึดติดกับความรัก ไม่ยอมเปลี่ยน สุดท้ายตัวเราเองนั่นแหละที่จะจมอยู่กับความเสียใจแบบไม่มีวันหายสักที

6. คิดซะว่าความจริงก็คือความจริง

ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย และอะไรก็เกิดขึ้นได้กับความรักของเรา อย่างที่บอกว่าความรักเปลี่ยนแปลงได้เสมอ มีรักมากก็ต้องมีรักน้อยลง มีรักก็ต้องมีเลิก เรื่องพวกนี้ล้วนเป็นความเปลี่ยนแปลงของความรักที่เราต้องยอมรับความจริงทั้งนั้น และไม่ว่าความจริงเป็นอย่างไร เราก็ต้องเผชิญหน้ากับมันอยู่ดี

การหนีอาจเป็นทางเลือก แต่ไม่ใช่คำตอบ เพราะไม่มีใครหนีความจริงได้พ้น และต่อให้เราต้องโง่กับความรักสักกี่ครั้ง แต่ถ้ายอมรับความจริงได้แค่สักครั้งก็ถือเป็นเรื่องดี ถึงจะไม่ใช่ความรักครั้งนี้ แต่ต่อไปเราจะรักอย่างฉลาดและไม่ทำให้ตัวเองต้องเจ็บอีก

7. รักได้แต่อย่าหลง

อะไรคือความรัก และอะไรคือความหลง

ความรักก็ง่าย ๆ เป็นอารมณ์ เป็นความรู้สึก การมีใจผูกพันด้วยความห่วงใยในสิ่ง ๆ หนึ่ง ส่วนความหลง คือ การไม่รู้ตามความเป็นจริง เพราะเมื่อหลงในสิ่งใดก็จะยึดติดในสิ่งนั้น ซึ่งถ้าเป็นความรักที่มาพร้อมกับความหลงก็จะเป็นรักที่ยึดติด เหมือนเรากำอะไรบางอย่างไว้แน่น ๆ เราเองก็ไม่สบายตัวที่กำแน่นเกินไป ส่วนของในมือก็แหลกเพราะถูกรัดเอาไว้

พูดง่าย ๆ ความรักแบบไม่หลงก็คือการคลายมือ รักกันไว้แบบพอดี ไม่แน่นจนอึดอัด และไม่หลวมจนปล่อยให้หายไป เป็นความรักแบบสบาย ๆ ที่ทั้งเราและเค้าต่างก็มีสติที่จะรักด้วยกันทั้งคู่

8. รักคนที่มีค่าพอจะรัก

เหตุผลที่คน ๆ หนึ่งทำอะไรโง่ ๆ ลงไป อาจเป็นเพราะรักคนผิดก็ได้ ความรักก็เป็นเรื่องแปลกแบบนี้แหละ มีโอกาสที่คนเราจะรักคนที่ไม่มีค่าพอที่จะรักได้เสมอ ซึ่งพอความรักแบบนี้มันดำเนินไปแล้ว ก็ใช่ว่าหยุดรักหรือถอนตัวกันได้ง่าย ๆ เพราะยังไงมันก็คือความรักอยู่ดี

ทางออกที่ดีที่สุดก็คือ ต้องใช้สติให้มากกว่าเดิม เพราะคนเรามีแนวโน้มจะทำอะไรบ้า ๆ เวลาไม่สมหวังในเรื่องต่าง ๆ อยู่แล้ว ยิ่งถ้าเป็นเรื่องความรัก ก็ยิ่งมีโอกาสที่จะทั้งบ้า ทั้งโง่มากกว่าปกติ ดังนั้นการจะดึงตัวเองไม่ให้ทำอะไรโง่ ๆ สิ่งที่ต้องใช้มากที่สุดก็คือสติ การรู้สึกตัว และระลึกได้ว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่คืออะไร มีผลกระทบหรือประโยชน์อะไรกับเราไหม ถ้าไม่มีก็อาจต้องบอกตัวเองให้พอได้แล้ว เพราะแบบนี้ล่ะมั้งเค้าถึงได้บอกกันตลอดไงว่า จะมีใครเข้ามา ชีวิตต้องดีขึ้น ถ้าเท่าเดิมหรือแย่ลง อยู่คนเดียวเหอะ

9. รัก..ก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำอะไรก็ได้

ความรักมักถูกใช้เป็นเครื่องต่อรองโดยไม่รู้ตัวเสมอ รักแล้วต้องอย่างนั้น รักแล้วต้องอย่างนี้ ทั้งที่ความจริงรักไม่ได้มีกฎเกณฑ์อะไรทั้งนั้น รักแล้วก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำอะไรก็ได้ รักแล้วไม่จำเป็นต้องเจ็บตัว ไม่จำเป็นต้องฝืนทน และไม่จำเป็นต้องโดนเอาเปรียบ เพราะความรักเป็นเรื่องของการให้เกียรติ ไว้เนื้อเชื่อใจกัน ไม่ใช่ความรุนแรงหรือความเจ็บปวดทั้งร่างกายและจิตใจ

ดังนั้น จะรักมาก รักน้อยก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องยอมทุกอย่าง โดยเฉพาะการยอมเจ็บ ยอมโง่เพียงเพราะคำว่ารัก เพราะถึงแม้จะรักก็ต้องแยกให้ออกว่าอะไรเป็นอะไร รักต้องไม่ใช่การทำร้าย หรือความเจ็บปวด และเมื่อรู้สึกว่าไม่ใช่ก็อย่าปล่อยให้ตัวเองต้องเจ็บ บางทีการเดินออกมาอาจจะมีความสุขมากกว่าก็ได้ เพราะแบบนี้แหละ..เราถึงควรรักคนที่มีค่าพอจะรักไงล่ะ

10. ชีวิตเรา เราต้องดูแลเอง

อย่าลืมว่าก่อนจะมีความรัก เราก็อยู่ของเรามาได้ตั้งนาน พอมีความรัก โลกไม่ได้เปลี่ยนไป แค่จากคนเดียวเป็นสองคน แต่ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม เรายังดูแลตัวเองเหมือนเดิม ใช้ชีวิตด้วยตัวเองเหมือนเดิม เพราะการมีความรักไม่ได้หมายความว่าจะเอาความสุขหรือเอาทั้งชีวิตของเราไปฝากไว้ที่อีกคนได้

เมื่อไหร่ก็ตามที่ทำแบบนั้น โลกของเราจะเปลี่ยนไปทันทีและจะไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะการเอาของมีค่าอย่างความสุขและชีวิตไปฝากไว้ที่เค้าแล้ว เราก็เหมือนคนไร้ค่าที่แม้แต่ความสุขของตัวเอง ยังต้องขึ้นอยู่กับอีกคน แล้วจะเหลือคุณค่าอะไรในตัวเอง

ความรักไม่ใช่การทำอะไรแบบนี้ รักคือการที่ต่างคนต่างมีคุณค่าในตัวเอง เพื่อที่จะได้รักกันอย่างสบายใจและมั่นคง ถ้ารักแล้วอีกคนไร้ค่าก็คงไม่ใช่ความรัก

บทสรุปสุดท้ายของเรื่องนี้คงหนีไม่พ้นคำว่า “รักได้ แต่ต้องรักอย่างมีสติ” เพราะเหตุที่คนเราทำอะไรโง่ ๆ ส่วนใหญ่ก็มาจากการกระทำที่ไร้สติทั้งนั้น แต่สติไม่ควรถูกนำมาใช้กับเรื่องความรักเพียงอย่างเดียว เพราะถ้ามีสติคอยกำหนดการใช้ชีวิตในทุกด้าน เราก็จะรู้เท่าทันความเป็นจริง ไม่ประมาทแล้วก็ไม่ทุกข์…

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0