1 ปีที่ผ่านมาชีวิตของเราเป็นอย่างไรกันบ้าง? หลังจากอ่านคำถามนี้แล้วหลายคนอาจรู้สึกว่าไม่ง่ายเลย กับการนึกทบทวนและถ่ายทอดสิ่งที่เกิดขึ้นใน 365 วันหรือ 8,760 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ถ้าทบทวนแล้วจะมีประโยชน์สักแค่ไหน? ถ้าคุณเชื่อว่า “อดีตคือองค์ประกอบของปัจจุบัน ปัจจุบันคือองค์ประกอบของอนาคต"
การทบทวนก็คือกระบวนการหนึ่งในการสร้างอนาคตด้วยตัวคุณเอง เราลองมาทบทวนด้วยการค่อยๆ ถามตัวเองไปพร้อมๆ กันนะคะ
1. ตอนเป็นเด็กคุณรักที่จะทำอะไร ก่อนที่จะมีคนอื่นอาจเป็น (พ่อ/แม่) มาบอกว่าเราควรทำหรือไม่ควรทำอะไร?
เช่นฉันมีความสุขมากกับการได้อยู่กับเสียงเพลง ได้เล่นดนตรี อยากเป็นนักดนตรีก่อนที่พ่อจะบอกว่าดนตรีเป็นโลกความฝันส่วนการที่เรียนวิทยาศาสตร์ได้ดี การเป็นแพทย์คือโลกของความจริงในชีวิต (คำถามนี้จะพาเรากลับไปหาพลังงานแห่งตัวเรา)
2. นึกถึงประสบการณ์ 2 เรื่องสำคัญในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ที่มีอิทธิพลหรือมีผลกับการเปลี่ยนแปลงชีวิต ?
เช่น 1. เป็นปีที่สุขภาพมีปัญหาที่สุดทั้งที่เป็นแพทย์ที่ดูแลสุขภาพคนอื่น 2. ลาออกจากงานประจำที่เคยคิดว่าสิ่งนี้คือความมั่นคง
3. จาก 2 เรื่องสำคัญที่เกิดขึ้นเราได้ตระหนักรู้อะไรในตัวเองเพิ่มขึ้นหรือไม่?
เช่น ฉันกำลังฝืนร่างกาย, งานที่ทำอยู่ทำให้ฉันได้ใช้ศักยภาพในตัวเองน้อยลง, ฉันกำลังเหนื่อยและไม่มีความสุข, ฉันต้องการเวลาและอิสระกลับคืน
3.1 เราได้เรียนรู้อะไรบ้างจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น?
จิตใจและร่างกายคือสิ่งที่ควรได้รับการดูแลเคียงคู่กัน, ฉันไม่ได้หาเงินไว้เพื่อรักษาตัวเองยามเจ็บป่วยเท่านั้น, สิ่งที่ฉันคิดว่ามั่นคงที่สุดในวันนั้นอาจไม่มั่นคงที่สุดในวันนี้, ไม่มีอะไรทำให้ฉันทุกข์ทรมานได้เท่าการไม่ได้ทำในสิ่งที่เรารู้ว่าเราทำมันได้ดีกว่าใคร
3.2 เราค้นพบอะไรใหม่ในตัวเองหรือไม่?
ฉันมีความกล้าหาญมากพอที่จะออกจากรูปแบบชีวิตเดิมๆ (comfort zone) ที่เคยคิดว่าปลอดภัยที่สุดจากที่ไม่เคยกล้าแม้แต่จะคิด
3.3 เราเกิดการตัดสินใจอะไรบ้างในตัวเอง?
ฉันลงมือเปลี่ยนแปลงชีวิตด้วยการปฏิบัติ แทนการเอาแต่นั่งคิดและถอนหายใจ
3.4 เรายังมีความลังเลสงสัยอะไรในตัวเองและสิ่งที่เกิดขึ้นหรือไม่?
ฉันจะไปรอดมั้ยกับการไม่มีงานประจำทำ ฉันจะมีวินัยในตัวเองเพียงพอหรือไม่
4. เราปรารถนาจะเห็นตัวเองเป็นอย่างไรในอีก 10 ปี ข้างหน้า?
ฉันอยากมีสุขภาพที่ดี มีครอบครัวที่ดี มีเวลามองลูกๆ ค่อยๆ เติบโตตามศักยภาพของตัวเอง และเป็นแพทย์ที่ได้ถ่ายทอดความเชี่ยวชาญในด้านการสื่อสารกับตัวเองและคนรักเพื่อชีวิตที่มีความสุขให้กับคนที่อยากเรียนรู้เรื่องนี้จากฉัน
5. เราจะเชื่อมโยงความสุขเดิมแท้ของเราใน (ข้อ 1) การเรียนรู้จากประสบการณ์ใน (ข้อ 2, 3) และความปรารถนาในอีก 10 ปีข้างหน้า (ข้อ 4) ให้เป็นเป้าหมายเดียวกันได้อย่างไร?
เช่น ฉันพบว่าเป้าหมายที่ฉันอยากเป็นชัดเจนขึ้นมาก นั้นคือการมีชีวิตที่สมดุลและการเป็นแพทย์ที่ได้ใช้ศักยภาพของตัวเองในด้านการสื่อสารเพื่อความรักและความสุข
แต่มีอีกเป้าหมายที่คนเราส่วนใหญ่มักหลงลืมไปนั้นคือ เป้าหมายที่เราเกิดมาเพื่อเป็น
เป้าหมายที่เราเกิดมาเพื่อเป็น จะว่าไปก็เปรียบเสมือนแบรนด์ที่จักรวาลส่งเรามาเพื่อทำอะไรบนโลกนี้ซึ่งแตกต่างจากคนอื่น จากตัวอย่าง ในเมื่อรู้แล้วว่าสิ่งที่มีคือการเป็นแพทย์ ทักษะการสื่อสารเพื่อความรักและความสุข
สิ่งที่จักรวาลให้มาตั้งแต่เกิดคือความสุขทุกครั้งที่เราได้ฟังดนตรี ได้เล่นดนตรี
เป้าหมายที่เราเกิดมาเพื่อเป็นคือ การเป็นผู้ฟื้นฟู เยียวยาและปลุกความน่ารักในตัวคน โดยใช้ดนตรีและทักษะการสื่อสารกับตัวเองและคนรัก เพื่อความรักและความสุขที่จะเกิดขึ้นกับตัวเองและสังคม
เราเช็คเป้าหมายที่เราเกิดมาเพื่อเป็นได้โดย การทบทวนช่วงชีวิตที่ผ่านมา ถ้าเป้าหมายนี้ใช่! เราจะพบว่า ไม่ว่าเราจะทำอะไร เมื่อไร บทบาทไหน สุดท้ายเราจะถูกดึงกลับมาให้เกี่ยวพันกับสิ่งนั้นอยู่ดี
จงทบทวน จงทบทวน และปล่อยวางความกลัวการเปลี่ยนแปลง เพราะการเปลี่ยนแปลงคือหนทางที่จะทำให้เราได้พบเป้าหมายที่เราเกิดมาเพื่อเป็น นอกเหนือจากเป้าหมายที่เราอยากเป็น
หมอเอิ้น พิยะดา
Unlocking Happiness
จิตแพทย์/นักแต่งเพลง/วิทยาการการสื่อสารด้วยความรัก
https://youtu.be/kKQ0nIFNeSU ค้นพบความหมายของงาน ความงามของชีวิต
Page FB ดีต่อใจ โดย หมอเอิ้น พิยะดา : https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=10156783544953550&id=306538978549
----------------------------------------------------------------------------
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCUkLOuK0DwOyIsb6ho8G_ew
----------------------------------------------------------------------------
IG : https://www.instagram.com/earnpiyada/
----------------------------------------------------------------------------
Website : http://www.earnpiyada.com/
