โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

คำถามที่ยังต้องการคำตอบ บุหรี่ไฟฟ้าช่วยให้เลิกบุหรี่ปกติได้จริงหรือ?

LINE TODAY

เผยแพร่ 15 ธ.ค. 2560 เวลา 10.05 น. • Chanatcha

ในช่วงหลายปีมานี้ จะเห็นได้ว่า บุหรี่ไฟฟ้า หรือ E-Ciggarettes ค่อนข้างจะเป็นที่นิยมสำหรับนักสูบทั้งหลาย บ้างก็ว่าช่วยในการเลิกบุหรี่ที่แบบมวนยาสูบ, มีอันตรายน้อยกว่า, ไม่มีกลิ่นเหม็นติดตัว ฯลฯ แต่ในอีกฝั่งก็ยังคงมีการถกเถียงกันอยู่ว่าเจ้าบุหรี่ไฟฟ้านี้ไม่ได้ช่วยให้สิงห์นักสูบลดหรือเลิกสูบบุหรี่ได้จริง แถมมีอันตรายมากกว่าบุหรี่ธรรมดาเสียอีก มากมายหลายเหตุผลที่ถูกหยิบยกมาพูดถึง วันนี้เราจะมาหาคำตอบเรื่องนี้ไปพร้อมๆกัน

บุหรี่ไฟฟ้าคืออะไร?

บุหรี่ไฟฟ้าประกอบไปด้วย ตัวบุหรี่ไฟฟ้าซึ่งมีแบตเตอรี่อยู่ และน้ำยาเฉพาะ ซึ่งมีหลากหลายกลิ่นและรสชาติ 

บุหรี่ไฟฟ้า หรือ E-Ciggarettes จะใช้แบตเตอรี่ในการให้ความร้อนกับ "น้ำยาเฉพาะ” โดยในน้ำยาหรือสารละลายนั้น ประกอบไปด้วยสารหลักคือ โพรพิลีนไกลคอล,กลีเซอรีน,น้ำ,นิโคตินเหลว และสารให้กลิ่นและรสชาติ

เมื่อน้ำยาได้รับความร้อนแล้ว จะทำให้น้ำยาเกิดการกระจายและเกิดละอองของเหลว(Aerosal) ระเหยออกมาเพื่อให้ผู้ที่สูบบุรี่ไฟฟ้านั้นได้สูบละอองเหล่านี้เข้าไป 

“ฉะนั้นการใช้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นการรับนิโคตินเหลวเข้าไปจากการระเหยด้วยความร้อน เป็นการนำนิโคตินเข้าร่างกายเหมือนบุหรี่ ต่างกันที่บุหรี่ไฟฟ้าไม่มีการเผาไหม้จากใบยาสูบทำให้ไม่เกิดเขม่าหรือมีกลิ่นติดตัว”

บุหรี่ไฟฟ้าอันตรายน้อยกว่าบุหรี่ปกติจริงหรือ?

ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันไม่รู้จบเช่นกันว่า บุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัยกว่าบุหรี่ปกติ เนื่องจากเจ้าบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่งถูกประดิษฐ์ขึ้นมาเพียง 10 กว่าปีเท่านั้น ทำให้ยังไม่มีการวิจัยที่สามารถฟันธงได้อย่างชัดเจนในคำถามนี้ 

มีการศึกษาของ ด๊อกเตอร์ ลีออน ชาฮับ นักวิทยาศาสตร์สถาบันวิจัยมะเร็งของประเทศอังกฤษและทีม ซึ่งได้ตีพิมพ์ลงในวารสาร Annals of Internal Medicine พูดถึงการศึกษาเกี่ยวกับผลกระทบของบุหรี่ไฟฟ้า โดยศึกษาในกลุ่มตัวอย่างที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้ามาแล้วเป็นเวลา 17 เดือน ทำการวัดระดับนิโคตินและสารอันตรายในร่างกายโดยใช้ปัสสาวะและน้ำลายของกลุ่มตัวอย่าง ทางทีมนักวิทยาศาสตร์ได้เปรียบเทียบผลการศึกษาของ

ผู้ที่สูบบุหรี่ปกติ, ผู้ที่เลิกสูบบุหรี่ปกติ และหันมาสูบบุหรี่ไฟฟ้าแทน และผู้ใช้วิธีให้นิโคตินทดแทน (Nicotine Replacement Therapy หรือ NRT) สำหรับผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่

ด๊อกเตอร์ชาฮับกล่าวว่า จุดสำคัญที่ทางทีมของเขาค้นพบคือ ระดับที่ต่างกันของสารพิษที่พบในแต่ละกลุ่มตัวอย่างมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยสารพิษที่ชื่อว่า NNAL (สารก่อมะเร็งปอด) ในบุหรี่ไฟฟ้ามีน้อยกว่าบุหรี่ปกติถึง 97% 

ถ้าเทียบกับกลุ่มที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้าหรือใช้วิธี NRT พบว่าปริมาณสารพิษในร่างกายน้อยกว่าผู้สูบบุหรี่แบบปกติด้วย แต่อย่างไรก็ตามหากผู้ที่ใ้ช้บุหรี่ไฟฟ้าหรือใช้วิธี NRT ยังคงสูบบุหรี่ปกติควบคู่ไปด้วย ระดับสารพิษก็จะไม่แตกต่างจากผู้ที่สูบบุหรี่ปกติอยู่แล้ว

ทางฟากฝั่งไทยเอง ด้าน รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัวมหาวิทยาลัยมหิดล ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการเจาะลึกข่าวร้อน ทางช่อง TNN24 กล่าวถึงบุหรี่ไฟฟ้าไว้อย่างน่าสนใจว่า ตัวบุหรี่ไฟฟ้ามีโลหะหนักที่เป็นองค์ประกอบอยู่ด้วย เช่น ฟอมอลดีไฮด์ ซึ่งเป็นสารที่เป็นโทษต่อร่างกาย และในบุหรี่ไฟฟ้าก็มีนิโคติน ซึ่ง

1.ไม่มีนิโคตินใดๆในโลกนี้ที่เป็นมิตรต่อร่างกาย ถึงแม้จะเป็นนิโคตินระดับอ่อนๆ 

2.การสูบบุหรี่ไฟฟ้าที่มีนิโคตินอยู่ก็ไม่ได้มีจุดประสงค์ไว้เพื่อให้เลิกบุหรี่ แต่เป็นการทำให้เริ่มใช้บุหรี่มากกว่า 

3.ในแต่ละการพัฒนาของบุหรี่ไฟฟ้าที่มีการปรับรูปร่างหน้าตาของบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยานั้น ไม่ได้เจตนาให้เลิก แต่เจตนาให้ใช้ตัวบุหรี่ไฟฟ้ามากขึ้น แม้สารประกอบในบุหรี่ไฟฟ้า จะมีสารที่ปลอดภัยต่อร่างกายที่สามารถนำมาใช้เป็นสารประกอบในสินค้าอื่นๆในชีวิตประจำวันได้ แต่บุหรี่ไฟฟ้าก็ยังคงมีนิโคตินอยู่ ซึ่งไม่ได้ช่วยในการเลิกบุหรี่แต่อย่างใด 

สรุปว่าบุหรี่ไฟฟ้าช่วยให้เลิกบุหรี่ปกติได้หรือไม่?

เป็นเรื่องที่เป็นปัจเจกมากว่า บุหรี่ไฟฟ้าจะช่วยให้เลิกสูบหรือลดปริมาณการสูบบุหรี่ปกติได้ เพราะเรื่องนี้ต้องอาศัยวินัยและจิตใจที่เข้มแข็งมากพอสมควร บุหรี่ไฟฟ้าจึงอาจกลายมาเป็นอีกตัวช่วยให้ผู้ที่อยากจะลดหรือเลิกบุหรี่แบบปกติหรือในอีกทางอาจจะทำให้ใช้บุหรี่ทั้งสองแบบไปเลยก็ได้ แต่อย่างไรก็ตาม 

“ทั้งบุหรี่ไฟฟ้าและบุหรี่แบบปกติก็ยังคงมีนิโคติน” 

ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เกิดการเสพติดอยู่ดี หากผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้ายังคงเลือกน้ำยาที่มีปริมาณนิโคตินสูงหรือดูดบุหรี่แบบปกติควบคู่ไปด้วย ก็คงจะไม่ง่ายนักที่จะเลิกบุหรี่ได้ แต่หากค่อยๆลดปริมาณนิโคตินลงก็จะสามารถเลิกบุหรี่ได้ในที่สุด 

ความผิดตามกฎหมายจากการครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า

ตามประกาศกระทรวงพานิชย์ กำหนดให้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค. 2557 

"หากนำเข้ามามีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับเป็นเงิน 5 เท่าของราคาสินค้า หรือทั้งจำทั้งปรับ" 

และตามคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ฉบับที่ 9/2558 มีคำสั่ง

"ห้ามขายหรือให้บริการ บารากุ บารากุไฟฟ้า บุหรี่ไฟฟ้า หรือน้ำยาเติม โทษสำหรับผู้ขายหรือให้บริการคือ จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ"

หากเป็น "ผู้ผลิต ผู้สั่ง ผู้นำเข้ามาเพื่อขาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 1,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ"

ไม่ว่าอย่างไร ชีวิตก็เป็นของเราอยู่ดี เลือกทางที่ดีที่สุดในการรักษาสุขภาพ ตัวเราเท่านั้นที่จะอยู่กับเราไปตลอด การไม่มีโรคย่อมเป็นลาภอันประเสริฐสูงสุดอยู่แล้ว

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0