โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ความทรงจำตัดแต่ง - เพจบันทึกนึกขึ้นได้

TOP PICK TODAY

เผยแพร่ 16 เม.ย. 2563 เวลา 17.00 น. • เพจบันทึกนึกขึ้นได้

1. 

ผมเป็นเด็กติดทะเล

 

ตั้งแต่จำความได้ชีวิตผมก็อยู่กับทะเลมาโดยตลอด

คุณพ่อของผมเป็นชาวประมง พ่อจะออกเรือไปกลางทะเล

ซึ่งตอนนั้นผมก็ไม่รู้หรอกว่ามันไกลแค่ไหน

เพราะพ่อจะหายไปทุก ๆ ครึ่งเดือน หรือเดือนนึงกว่าพ่อจะกลับ

 

ทุกครั้งที่ฟังข่าวว่าช่วงนี้ทะเลมีลมและคลื่นแรง ไม่ควรออกจากฝั่ง

จะเป็นประโยคที่ผมและทุกคนในบ้าน ฟังแล้วจะหันหน้ามามองกัน

แล้วเงียบ แต่ข้างในใจก็หวังว่าพ่อจะปลอดภัย และกลับมากินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากัน

 

หลังบ้านผมมีสวนมะลิ

เป็นของป้าบ้านข้าง ๆ ที่ปลูกเอาไว้สำหรับขายให้คนที่จะเอาไปทำพวงมาลัยขาย

ตอนเด็ก ๆ ผมเลยต้องตื่นแต่เช้า เพื่อที่จะวิ่งเข้าไปในดงมะลิพร้อมกับพี่สาวและน้องสาว

เพื่อที่จะเด็ดออกมะลิ ออกมาชั่งกิโลให้ป้าข้างบ้าน ด้วยกิโลละยี่สิบบาท

ต้องรีบเด็ดก่อนที่ฟ้าจะสาง เพราะไม่งั้นดอกมะลิจะบานหมด ไม่ได้ราคา

 

ได้เงินมาก็เอามาซื้ออาร์ซี เป็นน้ำอัดลมสีดำรสชาติเหมือนโคล่า

ช่วงที่ผมเด็ก ๆ ยี่ห้อนี้ฮิตมาก ซึ่งตอนนี้ก็หากินน่าจะไม่ได้แล้ว

 

ทุกคร้ังที่พ่อกลับมา เราจะมานั่งล้อมวงกัน

เอาปลาหมึก กุ้ง ปู

พร้อมกับเปิดทีวีขาวดำ ที่ระบบเปลี่ยนช่องเป็นแบบมือหมุน

นั่งดูช่องเก้าการ์ตูน พร้อมกับฟังเรื่องที่พ่อไปออกทะเลมาอย่างสนุกสนาน

 

พ่อเป็นคนพูดน้อย

เวลาแกพูดที ทุกคนก็จะตั้งใจฟังเป็นพิเศษ

 

จริง ๆ ทั้งบ้านเป็นคนที่ไม่ค่อยพูด

ยิ่งเป็นเรื่องของการแสดงความรักด้วยแล้ว

ยิ่งน้อยมาก

 

เราไม่เคยพูดว่าคิดถึง รัก หรือการกอด การหอม

ทุกอย่างจะเคอะ ๆ เขิน ๆ เมื่อต้องแสดงออกอะไรแบบนี้ออกไป

แต่ไม่ใช่ว่าเราไม่รักกัน แต่วิธีการแสดงออกของกันและกันมันไม่ใช่แบบนี้

 

มันจะมาในรูปแบบของการบ่น

หรือการถามแบบที่มีนัยยะว่าเป็นห่วงแอบแฝงอยู่ในนั้นซะมากกว่า

 

 

2.

 

ผมเป็นเด็กห้องคิง

แต่เป็นเด็กห้องคิงที่อยู่หลังห้อง

 

ถ้าใครเคยมีเพื่อนห้องคิงจะเข้าใจว่า

เด็กห้องนี้จะเรียนกันอย่างเอาเป็นเอาตาย

ฆ่าได้ แต่คะแนนน้อยกว่าไม่ได้

 

ทุกวันที่เลิกเรียน จะไม่มีใครวิ่งเข้าสนามฟุตบอล

ทุกคนจะวิ่งเข้าโรงเรียนกวดวิชา

อย่าพูดถึงผม นั่งสองแถวไปลงตลาด แล้วหาก๋วยเตี๋ยวอร่อย ๆ

กินกับเพื่อนที่ไม่ได้ร่วมอุดมการณ์กับชนกลุ่มนั้น

 

คะแนนเต็มสี่สิบ ถ้าได้สามสิบเก้าคือร้องไห้ ว่าทำไมผิด

ผมซึ่ง ได้ยี่สิบกว่า ๆ นั่งดีใจแทบตาย

เพราะผ่านมีนที่ทำให้ปลายภาคไม่ต้องพยายามมากมายเหมือนตอนตกมีน

 

ทั้งห้องมีห้าสิบคน 4.00 กันสามสิบคน

คนที่ได้ 3.98 3.95 จะร้องไห้ตาบวม

สวมกอดกันอย่างกับว่าพรุ่งนี้จะเป็นวันสุดท้าย

และความใฝ่ฝันที่จะได้เป็นหมอจะดับสูญ

เพราะได้เกรดสามวิชาพละ

วิชาที่เด็กห้องคิงถนัดน้อยที่สุด

 

 

3.

ผมเริ่มจดบันทึก เขียนไดอารี่ตอนอยู่มอหก

ช่วงนั้นไปเข้าค่าย แล้วได้เจอเพื่อนคนนึงคนละโรงเรียน

แต่สนิทกันมาก

 

หลังจบค่าย สัญญากันกว่าจะมาเจอกันทุกวันเสาร์

แล้วระหว่างนั้นก็เขียนไดอารี่ว่าแต่ละวันเราเจออะไรกันบ้าง

แล้วพอวันเสาร์ที่มาเจอกัน ก็เอาไดอารี่มาแลกกัน

 

ผมตั้งใจเขียนว่าทุกวันผมเจออะไรมาบ้าง

แน่นอนว่าตอนนั้นอินเตอร์เน็ตไม่ได้แรงเท่าทุกวันนี้

การโทรคุยกันคือการต่อคิวที่ตลาด

รอคุยโทรศัพท์นาทีละบาทที่ล่ามโซ่ยาวกันเราวิ่งเอามันกลับบ้าน

 

ผมเขียนว่าผมคิดยังไงกับสิ่งที่ผมเจอ

แล้วรออ่านว่าเค้าได้เจออะไรมาบ้าง

แล้วคิดยังไงกับมัน

 

เราเขียนสลับกันแบบนี้อยู่เป็นปี

(นั่นอาจเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ผมชอบจดบันทึกจนถึงทุกวันนี้)

ความสุขของการอ่านไดอารี่เขียนมือ

คือตอนที่เราลูบกระดาษสัมผัสถึงรอยขรุขระจากแรงปากกา

เรารู้สึกได้ถึงความตั้งใจของเรื่องราวที่ถูกเล่าลงมาในกระดาษแต่ละหน้า

 

ไม่รู้จะเรียกว่ารักแรกดีมั้ย

แต่เป็นความทรงจำนึงที่ยังเก็บไว้จนกระทั่งวันนี้

 

ไดอารี่เล่มนั้นยังอยู่

ยังรู้สึกดีที่ได้เปิดอ่านมันอยู่ทุกครั้ง

ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะกลับไปเขียนหากันอีก

 

 

———————-

 

ทุกอย่างคือความทรงจำที่ผมมีความสุขที่สุด

มองกลับไปภาพในหัวจะเป็นสีซีเปีย เหมือนหนังสมัยก่อน

ภาพไม่ค่อยชัด แต่บางฉากก็จำแม่น

บางฉากก็คลับคล้ายคลับคา

เป็นความทรงจำตัดแต่งที่ผมเลือกจะจำมันมาแบบนี้มากกว่า

 

ความสุขที่เราอยากจะจำมันแบบนี้

โดยที่ความจริงท่ีเกิดขึ้น ของทุกคนที่เกิดขึ้น

มูดและโทนจะเป็นแบบนี้ไปเหมือนกันทั้งหมดรึเปล่า

ไม่มีใครรู้

 

ในความรู้สึกของพ่อที่ไปออกเรือ กลับบ้านมาเจอเมียและลูก

คือความสุขเหมือนกับที่เรารู้สึกรึเปล่า

ถ้าใช่ ทำไมพ่อถึงเลือกที่จะไปมีใครอีกคน

 

หรือจริง ๆ แล้วตอนนั้นผมขี้เกียจแล้วทำข้อสอบไม่ได้

เลยเลือกที่จะมีความสุขกับคะแนนน้อย ๆ

แล้วเอาความตั้งใจของคนอื่น ๆ มาบอกกว่ามันมากเกินไป

ทดแทนความไม่เอาไหนของตัวเองมากกว่า

 

ความสุขของการเขียนไดอารี่

มันคือความสุขของเราสองคนรึเปล่า

ถ้าใช่ ทำไมเค้าถึงเลือกที่จะหยุดเขียน

แล้วหายจากไปหลังจากนั้นได้หนึ่งปี

 

เราต่างก็มีความทรงจำที่เราอยากจำกันทั้งนั้นใช่มั้ย

แต่ทั้งหมดทั้งมวล มันก็เป็นความทรงจำตัดแต่ง

ที่เราเลือกที่จะจำในสิ่งที่เราอยากจะจำมันไว้

 

เราพบเจอเรื่องราวมากมาย

เรื่องที่กระทบจิตใจให้ได้เก็บมันเอามาเป็นความทรงจำ

แต่เหตุการณ์เดียวกัน

คนที่อยู่ในสถานการณ์เหล่านั้น เลือกที่จะเก็บอารมณ์ และความรู้สึกแตกต่างกันออกไป

 

ความจริงคือสิ่งที่เราเชื่อ

ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ ตอนนั้น

 

ความจริงคือสิ่งที่เราเข้าใจว่ามันเป็นแบบนั้น

ไม่ใช่สิ่งที่มันเป็น

เพราะตอนนั้น อาจไม่มีใครเข้าใจในแบบที่มันแบบ

ทุกคนเข้าใจ ในแบบที่ตัวเองรู้สึกกับมัน

 

 

นั่นทำให้ผมรู้สึกว่า

ที่บางครั้งเจ็บปวดกับบางความทรงจำอยู่

เพียงเพราะเราเลือกที่จะจำในแบบที่เราเป็นผู้ถูกกระทำใช่มั้ย

เราเลือกที่จะเข้าข้างตัวเอง และมองว่ามันเป็นสิ่งที่มันเกิดขึ้นกับเราจริงๆ มากกว่า

 

โดยที่ในมุมของใครอีกคน หรืออีกหลายๆคน

อาจไม่ใช่แบบนั้น

 

ไม่มีใครรู้ว่าความจริงคืออะไร

หรือจริง ๆ แล้วมันอาจไม่มีความจริงเลยก็ได้ในโลกใบนี้

 

ถ้าเป็นความทรงจำตัดแต่ง

ที่แต่งแล้วมันทำให้เรามีความสุข

ก็น่าจะเป็นความทรงจำที่ดี

 

แต่ถ้าเป็นความทรงจำตัดแต่ง

ที่เราแต่งมันขึ้นมาเอง โดยที่ไม่รู้ตัว หรือรู้ตัว แต่เลือกที่จะจำแบบนี้

 

ก็ต้องมานั่งคลี่ดูให้ดี

ว่าที่ตัดมันออก แล้วแต่งเติมบางอย่างเข้ามา

ทำให้ทุกวันที่ต้องมีอยู่ ยังเดินต่อไปได้มั้ย

 

ถ้ามันเดินแล้วลำบาก

ลองตัดมันใหม่

แต่งเรื่องราวดี ๆ ที่ทำให้ชีวิตไปต่อ

 

ไม่ได้มาบอกให้โกหกตัวเอง

เพราะสุดท้ายแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่า

ความทรงจำของใคร จริงกว่าใครกันแน่

 

เลือกที่จะตัดแต่งความทรงจำที่ดีที่สุด

ให้ตัวเองมีกำลังใจในการใช้ชีวิตต่อไป

 

เรื่องราวเดียวกัน

อยู่ที่คนจะมอง คนจะจำ

จะจำแต่เรื่องที่ทำให้ตัวเองบอบช้ำก็ทำได้

เพราะสุดท้ายก็เป็นเรื่องที่เรากุขึ้นมาเองด้วยกันทั้งหมด

 

ขึ้นอยู่ว่าสุดท้ายแล้วอยากมีความทรงจำอะไร

 

ส่วนตัวผมแล้ว ผมรู้ว่าความจริงคืออะไร

แต่ความทรงจำตัดแต่งของผม

คือเรื่องที่คุณได้ยินมาทั้งหมดนั่นแหละ

 

จำแบบนี้

ก็มีความสุข

ติดตามบทความใหม่ ๆ จาก เพจบันทึกนึกขึ้นได้ บน LINE TODAY ทุกวันศุกร์

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0