ฮัลโหลค่ะสาวซิส ปกติจะคุ้นเคยกับอานิโมเน่ในการเขียนบทความเรื่องความสวยความงาม สาระน่ารู้อะไรแบบนี้กันใช่ไหมคะแต่วันนี้จะขอมาแปลกกันสักหน่อยค่ะ >.< เขินจัง เพราะเราจะมารีวิววิธีลดความอ้วนด้วยตัวเองค่ะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ
ก่อนหน้านี้เราเป็นคนที่หุ่นปานกลางค่ะ แต่ก็ลดความอ้วนมาตลอด เพราะไม่มั่นใจในรูปร่างตัวเอง จะออกแนวอวบๆ มากกว่า เราพยายามออกกำลังกายทุกวันนะคะ ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การวิ่งมากกว่า เมื่อก่อนตอนที่เริ่มวิ่งใหม่ๆ ก็ลดได้ประมาณ 3 - 4 กิโลกรัม แต่วิ่งไปสักพักร่างกายเริ่มชิน น้ำหนักก็กลับมาเท่าเดิม ตอนนั้นปลอบใจตัวเองว่า เอาน่า ดีกว่าอ้วนขึ้นเนาะ
อย่าไปพูดให้มากความค่ะ ให้ภาพเล่าเรื่องดีกว่าเนอะ
หลังจากที่วิ่งมาได้สักพัก แล้วน้ำหนักไม่ลด เราก็เริ่มเครียดค่ะ มีคนทักว่าอ้วนเยอะ ตอนนั้นน้ำหนักประมาณ 56 -57 กิโลกรัมได้ เจอใครก็ทักว่าอ้วนขึ้น ตอนแรกน้ำหนักเราจะประมาณ 52 - 54 กิโลกรัม เราเลยแก้ปัญหาด้วยการไม่กินอะไรเลย ข้าวไม่กินสักมื้อ กินนม Low fat แทน แล้วก็วิ่งเยอะ ๆ วิ่งที 1 ชั่วโมงได้ แต่นั่นก็ไม่ทำให้น้ำหนักเราลดเลย เราชั่งน้ำหนักทุกสัปดาห์ แต่ก็พบว่าน้ำหนักเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เราเลยเพิ่มการเวทด้วย เวทหน้าท้องเป็นประจำเลยค่ะ แต่ว่าก็มีกล้ามขึ้นมาบางๆ เท่านั้น นี่คือภาพตอนที่เราถ่ายก่อนจะลดน้ำหนัก หน้าท้องยุ้ยมาก ดูหุ่นคนที่วิ่งและไม่กินอะไรเลยนะคะ ทำไมมันอ้วนได้ขนาดนี้ T^T
ตอนนั้นเราเริ่มสนใจอาหารคลีน และอ่านข้อมูลเกี่ยวกับอาหารคลีนค่ะ เราคิดว่าเรากินอาหารแบบผิดๆ น้ำหนักเลยพุ่งพรวดทั้งๆ ที่ไม่ได้กินอะไรเลย ตอนที่ลดความอ้วนเราจะกินกาแฟแบบสำเร็จรูปวันละสองซอง กาแฟกินแล้วไม่หิว เราเลยจิบบ่อยๆ กินกับขนมปัง แต่ถ้าตอนบ่ายเพลียๆ เราก็จะกินน้ำหวานเฮลบลูบอยผสมโซดา เราไม่รู้ตัวเลยว่าอาหารพวกนี้คือตัวการที่ทำให้เราอ้วนและน้ำหนักไม่ลดลง จนกระทั่งเรามาติดตามไอจีของคนที่ลดความอ้วน ถ้าเพื่อนๆ เล่นไอจีขอแนะนำเลยค่ะว่าควรติดตามไอจีคนที่ลดความอ้วนแล้วเค้าทำสำเร็จ เค้าจะมีวิธีการมาแชร์บ่อยๆ ว่าเค้าทำยังไงถึงได้หุ่นดี เราเลยหันมาเล่นไอจีบ้าง บันทึกเป็นไดอารี่อาหารที่เรากิน คลิปที่เราออกกำลังกายตามเราไม่ได้เข้าฟิตเนสเลยค่ะ ตั้งใจว่าจะพยายามทำให้ได้ที่บ้านก่อน
จนกระทั่งเวลาผ่านไปเกือบ 5 เดือน ( เราเริ่มลดความอ้วน 28 ตุลาคม 2018 ) จำวันที่ได้แม่นเลย เพราะเป็นวันที่เราบอกกับตัวเองว่า จะเริ่มกินคลีนแล้วนะ !!!
ตอนนี้เราลดน้ำหนักมาได้แค่ประมาณ 6 กิโลกรัมเองค่ะ น้ำหนักปัจจุบัน 50.8-51.2 กิโลกรัม แต่สัดส่วนลดลงเยอะมาก
รูปไม่ชัดขออภัยด้วยนะคะ มันถ่ายผ่านกระจกที่เราไม่ได้เช็ด 5555
ซิสอยากรู้กันแล้วใช่ไหมคะว่าเราลดได้อย่างไร เราจะมาบอกแบบละเอียดเลยค่ะ
1. กินคลีน กินลีน
ข้อแรกที่เราเริ่มเลยก็คือการกินคลีน กินลีน เน้นกินโปรตีนให้ได้ตามน้ำหนักตัวค่ะ ยกตัวอย่างง่ายๆ เราน้ำหนัก 56 กิโลกรัม เราจะต้องกินโปรตีน 56 x 1.5 = 84 กรัม
เมื่อเรารู้แล้วว่าเราต้องกินโปรตีนวันละ 84 กรัม มาดูกันค่ะว่าอาหารอะไรให้โปรตีนเท่าไรกันบ้าง
อกไก่ดิบ 100 กรัม โปรตีน 22.5 กรัม เราก็จัดเลย อกไก่วันละ 300 กรัม เราจะได้โปรตีนจากอกไก่ 67.5 กรัม จะเห็นได้ว่าโปรตีนยังไม่ถึงใช่ไหมคะ เราก็กินอย่างอื่นที่มีโปรตีน เช่น
ไข่ไก่ 1 ฟองประมาณ โปรตีน 7 กรัม เราก็กินวันละ 3 ฟอง ได้โปรตีน 21 กรัม เท่ากับว่าโปรตีนรวมของเราคือ 88.5 กรัมค่ะ เกินได้ไม่เป็นไร อย่าให้ขาดก็พอ
เริ่มจากเอาข่า ตะไคร้ ใบมะกรูดซอยละเอียด จากนั้นเทน้ำมันมะพร้าวครึ่งช้อนโต๊ะลงไป เจียวเครื่องต้มยำจนหอม เทอกไก่หั่นลงไป ผัดจนสุกแล้วปรุงรสด้วยน้ำมะนาวบีบไปครึ่งลูก น้ำตาลปีบปลายหยิบมือ น้ำปลาเมกะเชฟ 2 เหยาะ เราไม่มีพริกเผาเลยใช้พริกป่นแทน ออกมาอร่อย ได้กลิ่นเครื่องต้มยำหอมๆ เผ็ดจากพริกป่น
2. ตัดน้ำตาล ตัดโซเดียม
สำหรับน้ำตาลคนเราไม่ควรได้รับเกินวันละ 16 กรัม เราไม่ได้เป๊ะขนาดนั้น เลยคิดว่าแต่ละวันกินให้น้อยที่สุดจะดีกว่า สิ่งแรกที่เราตัดคือน้ำหวานต่างๆ ค่ะ เฮลบลูบอย ไมโล เลิกหมดเลย น้ำหวานที่ขาย น้ำปั่น ชาเขียวอะไรที่หวานๆ เราเลิกหมด แต่สิ่งที่เรายังเลิกไม่ได้คือกาแฟ เราก็ไม่กินอยู่ดีค่ะ ตัดสินใจหักดิบกาแฟที่เติมครีมเทียมเติมน้ำตาล ดื่มกาแฟดำแทน ความรู้สึกแรกที่ดื่มกาแฟดำคือ ' กาแฟอะไรอ่ะ ขมปี๋ ทั้งขมทั้งเปรี้ยว ' แต่เพื่อลดความอ้วน เรายอมค่ะ 555 เราก็กินไปทุกๆ วันจนชินไปเอง ในที่สุด ผ่านมาเกือบ 5 เดือน เราไม่แตะกาแฟที่มีครีมเทียมอีกเลย
3. อาหารคลีน ปรุงด้วยน้ำมันรำข้าว
อาหารคลีนที่เห็นเราปรุงด้วยน้ำมันรำข้าวค่ะ ใส่แค่หนึ่งช้อนโต๊ะพอ ส่วนน้ำปลาเราใช้เมกาเชฟ เพราะว่าราคาไม่แพงเกิน เน้นใส่น้อยๆ สองเหยาะบ้าง เหยาะเดียวบ้าง น้ำตาลเลือกเป็นน้ำตาลมะพร้าว หยิบมาปลายนิ้ว มันก็จะจืดๆ แต่กินไปนานๆ จะชินเองค่ะ
4. ดื่มน้ำวันละประมาณ 2 - 3 ลิตร
เรื่องน้ำก็สำคัญค่ะ เราดื่มน้ำวันละประมาณ 2-3 ลิตร จะทำให้พุงไม่บวม ไม่อืด ผิวพรรณดีขึ้นด้วย
5. ออกกำลังกาย
มาถึงเรื่องที่เราคิดว่าก็สำคัญไม่แพ้อย่างอื่น คือการออกกำลังกายค่ะ เราเลิกวิ่งแบบบ้าคลั่งแล้ว หันมาเดินเร็วแทน เดินครั้งละ 30 นาที สัปดาห์หนึ่งพยายามเดินเร็วให้ได้ 3 - 5 วันค่ะ ส่วนการออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่ง เราเลือกเป็นเน้นที่ละส่วนมากกว่า วันอาทิตย์เวทแขน วันจันทร์เวทขา วันอังคารเวทหลัง วันพุธเวทหน้าท้องวันพฤหัสบดีเวทสะโพกและก้น วันศุกร์กับเสาร์คือพักร่างกายค่ะ ให้กล้ามเนื้อได้ฟื้นฟูตัวเอง เดี๋ยวจะเอาคลิปที่ทำประจำมาแปะให้นะคะ
ตอนนี้เป้าหมายของเราก็คือลีนร่างกายให้ได้มากกว่านี้ บิลท์กล้ามเนื้อให้ได้มากกว่านี้ค่ะเราอยากจะแชร์เรื่องราวการลดความอ้วนของเราให้สาวๆ ได้รู้บ้าง เพราะไม่อยากให้ใครลดน้ำหนักแบบผิดๆ เหมือนเรา ซึ่งในที่สุดน้ำหนักไม่ลด เสียสุขภาพ โยโย่เอฟเฟ็กต์ เป็นโรคกระเพาะ บลาๆแต่การดูแลหุ่นแบบที่เราแชร์ กินอิ่มมาก อิ่มไม่มีอด สุขภาพดีขึ้น ผิวสวยขึ้น เราป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ บายๆ ค่ะ
ส่วนใครเล่นไอจีอยากจะแชร์ไอเดียเมนูอาหารคลีนก็มากดติดตามเรากันนะคะ
ติดตามบทความใหม่ๆได้ที่ SistaCafe Facebook
SistaCafe เว็บไซต์รวบรวมบทความสำหรับผู้หญิง https://sistacafe.com
♥ ดาวน์โหลด App SistaCafe ฟรีได้แล้ววันนี้! ♥
iOS : AppStore
Android : PlayStore
OH_OH มีประโยชน์มากค่ะ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ
21 มี.ค. 2562 เวลา 03.20 น.
-KAZÉ-(เกษ) 🙏ขอคนที่มีน้ำหนักตัวเกิน 52 ขึ้นไปสูงเท่าไหร่ก็ได้พอดีจะแนะนำวิธีลด นน. 2 อาทิตย์ลงประมาณ 6-7 โลแบบไม่ใช้ยา พร้อมให้คำปรึกษาฟรีจนเห็นผล ขอคนที่อยากลดจริงๆนะคะ
#สนใจเเอดไลน์สอบถามก่อนได้ค่ะ
ID 0935242843 (k.เกษ) 📌📌
12 มี.ค. 2564 เวลา 13.51 น.
ดูทั้งหมด