ไนโรบี, 16 ก.พ. (ซินหัว) -- เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (15 ก.พ.) ในงานวันตัวนิ่มโลก บรรดานักรณรงค์ออกมาเรียกร้องถึงความจำเป็นที่รัฐบาลประเทศต่างๆ ต้องบังคับใช้กฎหมายและส่งเสริมการรณรงค์ของสาธารณชน เพื่อผลักดันการอนุรักษ์ตัวนิ่มที่กำลังเสี่ยงสูญพันธุ์
“เรากังวลกันว่าการลักลอบล่าตัวนิ่ม ประกอบกับอัตราการขยายพันธุ์ที่เชื่องช้า กำลังทำให้พวกมันใกล้สูญพันธุ์เข้าไปทุกที” องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก (World Animal Protection) องค์กรเพื่อการอนุรักษ์ระหว่างประเทศระบุในถ้อยแถลง ณ กรุงไนโรบี ประเทศเคนยา
วันตัวนิ่มโลกกำหนดขึ้นในทั่วโลก ท่ามกลางความกังวลที่มีต่อการลดลงอย่างรวดเร็วของประชากรนิ่ม อันเกิดจากการลักลอบล่าเพื่อเอาเกล็ดและเนื้อ รวมถึงภาวะช็อกที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศ
บรรดานักรณรงค์อธิบายว่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมมีเกล็ดและออกหากินเวลากลางคืนชนิดนี้ เป็นสัตว์ประจำถิ่นในเกือบ 51 ประเทศ และยังคงเป็นสัตว์ที่ถูกล่าและลักลอบค้ามากที่สุด เนื่องจากเกล็ดของมันมีคุณสมบัติทางยา
องค์กรฯ ระบุว่าระหว่างปี 2000-2013 ตัวนิ่มน่าจะถูกฆ่าและลักลอบค้ามากกว่า 1 ล้านตัว และระหว่างปี 2010-2015 สามารถจับกุมเหตุลักลอบค้าตัวนิ่มได้ถึง 1,270 ครั้ง ในประเทศต่างๆ 67 ประเทศ ใน 6 ทวีปทั่วโลก
องค์กรฯ ระบุว่าของกลางที่ยึดได้ในช่วงครึ่งแรกของทศวรรษที่แล้ว ซึ่งมีทั้งชิ้นส่วนนิ่ม, นิ่มทั้งตัว, เกล็ดนิ่ม และซากตัวนิ่มอีก 46,000 ชิ้น มีน้ำหนักรวม 120 ตัน
*"ขณะนี้มีความจำเป็นต้องบังคับใช้มาตรการเร่งด่วนเพื่อช่วยเจ้าสัตว์กินมดที่มีนิสัยขี้อายและหากินในเวลากลางคืนเหล่านี้" *องค์กรฯ ระบุ
ทั้งนี้ ทวีปแอฟริกาและเอเชีย เป็นที่อยู่ของตัวนิ่ม 8 สายพันธุ์ ซึ่งขณะนี้ถูกลักลอบล่ามากกว่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดยักษ์ อย่างช้างและแรด
ขณะนี้อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ หรือไซเตส (CITES) พิจารณาให้ตัวนิ่มเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ระดับรุนแรง โดยถูกขึ้นบัญชีเลขที่ 1 (Appendix I) ที่ปรากฏรายชื่อสัตว์ใกล้สูญพันธุ์อื่นๆ อาทิ นกแก้วสีเทาแอฟริกา ช้างเอเชีย และเสือ
เอดิท คาเบซิมเม (Edith Kabesiime) ผู้จัดการโครงการรณรงค์ด้านสัตว์ป่าขององค์การฯ ระบุว่าการปราบปรามการลักลอบล่าตัวนิ่มทั่วโลกนั้น ควรมีการให้ความรู้แก่สาธารณชนด้วย เพื่อลบล้างความเชื่อเกี่ยวกับคุณสมบัติทางยาของเกล็ดตัวนิ่ม
เธอกล่าวว่าการค้าเนื้อและเกล็ดตัวนิ่มอย่างผิดกฎหมายนั้นก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อสาธารณสุขทั่วโลก ดังนั้น การสั่งห้ามค้าเกล็ดและเนื้อตัวนิ่ม รวมถึงการส่งเสริมการบำบัดด้วยสมุนไพรทางเลือก คือกุญแจสำคัญที่จะยุติการสูญพันธุ์ของสัตว์ชนิดนี้
กรชนันท์(อ้อ)589 เห็นด้วยค่ะ
18 ก.พ. 2563 เวลา 00.29 น.
กะเพา น่ารักมาก
18 ก.พ. 2563 เวลา 00.09 น.
Good Luck เกล็ดมัน ก็มีคุณค่าพอๆกับเส้นผมและเล็บคนนี่แหละ
ข้ออ้างบ้าบอ ตะบี้ตะบันกินทุกชนิดที่มีชีวิตจริงๆมนุษย์บางคน
17 ก.พ. 2563 เวลา 15.13 น.
Kanokon สงสาร เลี้ยงลูกกว่าจะโต
17 ก.พ. 2563 เวลา 14.54 น.
pui yuttapong มีแต่คนบ้า หรือไม่ใช่คนที่ชอบกินของแบบนี้ ตอนนี้จะติดเชื้อกันทั่วโลกก็เพราะปากคนที่กินของไม่เลือกหน้า
17 ก.พ. 2563 เวลา 14.46 น.
ดูทั้งหมด