ผู้ปกครองกลุ่ม ด.ช.ป.4,ป.6 วอนสังคมให้โอกาสเด็ก

จากกรณีที่มีพ่อของเด็กนักเรียนหญิงวัย 7 ปี ชั้น ป.1 โรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา พาลูกสาวเข้าร้องเรียนต่อมูลนิธิปวีณาหงสกุล เพื่อเด็กและสตรี เพื่อขอความเป็นธรรม เนื่องจากลูกสาวถูกกลุ่มรุ่นพี่เป็นเด็กชายชั้น ป.4 , ป.6 จำนวน 3 คน ทำอนาจารภายในห้องน้ำของโรงเรียนช่วงหลังเลิกเรียน และมีการถ่ายคลิปโพสต์เผยแพร่ลงในโลกโซเชียล โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา
ล่าสุดวันนี้ (21 ก.พ. 63) ผู้ปกครองของเด็กนักเรียนชาย ซึ่งเป็นฝ่ายก่อเหตุได้ออกมาแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกับกล่าวขอโทษกับสิ่งที่เด็กได้กระทำลงไป และอยากให้สังคมให้โอกาสเด็ก เพราะสิ่งที่เด็กทำไปเป็นความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ตอนนี้สภาพจิตใจของเด็กกำลังบอบช้ำอย่างหนัก
นางแก้ว (นามสมสมุติ) แม่ของเด็กนักเรียนชายชั้น ป.6 ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ก่อเหตุเผยว่า ขณะนี้ลูกชายมีอาการเครียดอย่างหนัก เนื่องจากรู้สึกสำนึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไป ในฐานะผู้เป็นแม่ก็ไม่อยากที่จะไปซ้ำเดิมให้สภาพจิตใจของลูกบอบช้ำมากไปกว่านี้ ตนเองก็รู้สึกผิด และเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างมาก อยากขอโทษทางผู้เสียหายแทนลูกชายด้วย
ด้านยายของเด็กนักเรียนชายชั้น ป.6 ผู้ก่อเหตุอีกราย เปิดใจว่า ไม่คาดคิดว่าหลายชายจะก่อเรื่องเช่นนี้ขึ้น เด็กชายกลุ่มนี้เล่นด้วยกันเป็นประจำ เพราะบ้านก็อยู่ใกล้เคียงกัน ไม่นึกว่าจะถึงขั้นกระทำอนาจารกับเด็กหญิงรุ่นน้อง หลังจากที่ข่าวเรื่องนี้แพร่สะพัดออกไป หลานชายรู้สึกเสียใจและเก็บกดอย่างมาก เอาแต่เก็บตัวอยู่ภายในบ้านไม่กล้าออกไปไหน ตนเองก็อยากวอนสังคมช่วยให้โอกาสหลานชายด้วย เพราะคิดว่าสิ่งที่หลานชายทำลงไปเป็นความรู้เท่าไม่ถึงการณ์
หลังจากเกิดเหตุทางกลุ่มผู้ปกครองของเด็กที่ก่อเหตุเจรจาพูดคุยกัน สรุปให้เงินกับแม่ของเด็กหญิงไปแล้ว รวมทั้งหมด 7 หมื่นบาท และแม่ของเด็กก็รับปากว่าจะไม่เอาเรื่อง เพราะเห็นว่าเด็ก ๆ ทำไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ส่วนการดำเนินคดีก็ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ และอยากให้สังคมเห็นใจด้วย เพราะไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น
ส่วนความคืบหน้าของคดี ขณะนี้ทางศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมาได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ และกำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล เพื่อรายงานให้ทางกระทรวงศึกษาธิการทราบในรายละเอียดต่อไป ในส่วนของการดำเนินคดีตามกฎหมาย ทางพนักงานสอบสวน สภ.ครบุรี ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลและนัดหมายกับเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพให้มาสอบปากคำเด็กหญิงผู้เสียหาย และกลุ่มเด็กชายที่ถูกกล่าวหา เพื่อดำเนินการตามขั้นตอน ส่วนเรื่องการจ่ายเงินชดใช้ค่าเสียหายกันนั้นก็เป็นเรื่องของการเยียวยา ไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินคดีตามกฎหมายแต่อย่างใด