บันเทิง

“แอนนี่ บรู๊ค” เล่าฮาวทู “น้องฑีฆายุ” สปีคเก่งเป็นสมาร์ทคิดส์

daradaily
อัพเดต 25 ม.ค. 2563 เวลา 16.12 น. • เผยแพร่ 26 ม.ค. 2563 เวลา 04.30 น.

“แอนนี่ บรู๊ค” เล่าฮาวทู “น้องฑีฆายุ” สปีคเก่งเป็นสมาร์ทคิดส์

                 “แอนนี่ บรู๊ค” อดีตนักแสดง เผยแก่ “ดาราเดลี่” อัปเดตชีวิตช่วงนี้ว่า  ช่วงนี้ขายของ งานโชว์ตัวก็มีบ้าง แล้วมีไปเป็นพิธีกรตามงานต่างๆ เช่น งานเลี้ยง เราไม่ได้เรียกแพงมาก มีให้บูชาพระเครื่อง พวกเครื่องรางของขลัง มีทำอสังหาริมทรัพย์ขายที่ดิน เราทำหมดทุกอย่าง

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

อ่านข่าวต่อ

"แอนนี่ บรู๊ค" ยันไม่คิดกดดัน "น้องฑีฆายุ" เรื่องเรียน ตอบชัดคิดดันเข้าวงการไหม

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

                 เธอเผยถึงวีธีการเลี้ยงลูก หรือ “น้องฑีฆายุ” ที่ตอนนี้กลายเป็นเด็กที่ได้รับความสนใจ เนื่องจากเป็นเด็กฉลาด เขียนแอนิเมชั่น และพูดภาษาอังกฤษได้คล่อง ว่า ลูกตอนนี้ 9 ขวบกว่าแล้ว วิธีการเลี้ยงลูกของเราคือ เราเป็นแม่สมัยใหม่ เราโชคดีที่เกิดมาในยุคคนสมัยก่อน ต่อกับยุคเจเนอเรชั่นใหม่ ทำให้เราคิดว่าอะไรที่คนสมัยก่อนทำแล้วมันดี และอันไหนที่มันไม่ดีเราก็จะไม่เอามาสอนลูกต่อ อันที่ดีเราก็เอามาสอนลูก เอามาปรับเปลี่ยนใช้ให้เข้ากับยุคเข้ากับเจนฯ ของเขา เลี้ยงเหมือนเราเป็นเพื่อนเขา ตอนที่เขาเล็กๆ แรกเกิดจนถึง 5 ขวบ เราใส่หัวโขนความเป็นแม่ มีตี มีดุ อะไรอันตรายเราก็ห้ามเขาทำเพราะเขายังเด็ก แต่พอเขาโต ตั้งแต่ 6 ขวบ จนถึง 9 ขวบ คือเราใช้วิธีการพูดและความเป็นเพื่อน ใส่ความรู้ ใส่ความเข้าใจ ให้กับเขา มีอะไรที่เขาสงสัยเราก็พูดปูพื้นฐานให้เขา สร้างวัคซีนภูมิคุ้มกันชีวิตให้เขาตั้งแต่วันนี้ อย่างเช่น เป็นผู้ชายจะ 10 ขวบ แล้วที่โรงเรียนจะมีสอนเรื่องเพศศึกษา เราก็ใส่ไปได้เลยเต็มที่ ไม่ต้องอายเหมือนสมัยก่อน สมัยก่อนพ่อแม่จะไม่บอกอะไรจะไม่คุยเรื่องนี้กับลูก แต่เราจะคุยกับลูกทุกอย่าง

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

                 เธอเผยอีกสำหรับการสอน “น้องฑีฆายุ” ให้พูดภาษาอังกฤษเก่งว่า เรื่องภาษาอังกฤษตอนเด็กๆ ไม่ใช่ว่าเราได้เกรดดีอะไร เราเพิ่งจะมาพูดภาษาอังกฤษได้แบบจริงจังคือตอนเริ่มทำงานแล้ว เราเรียนรู้จากหนังและเพลง ที่เราอยากจะพูดให้ได้เพราะอยากสื่อสารกับคนต่างชาติ เลยมาไขว่คว้าหาความรู้เองตอนเราโต แล้วที่เราสอนลูกได้ก็คือเท่าที่เราเรียนมาได้ เรื่องจากหนังจากเพลงด้วยซ้ำไป เราเริ่มจากที่ตอนลูกเด็กๆ ถึงแม้เราพูดเก่งหรือไม่เก่งก็ตาม ได้เรียนรู้ไปกับลูก สมมติว่าคำนี้มันผิดเดี๋ยวเด็กเขารู้มากกว่าเราเขาจะกลับมาสอนเราด้วยซ้ำไป ไม่ต้องอายที่จะพูดภาษาอังกฤษกับลูก ตอนลูกเรียนลูกลงเรียนแบบสองภาษานะ เป็นโรงเรียนสองภาษา มีส่วนทำให้เขาเก่งภาษา คือเราไม่อยากให้เขาลืม อย่างน้อยก็มีภาควิชาภาษาอังกฤษให้เขาเรียนด้วย

                 เธอเผยถึงเรื่องการแต่งงานมีครอบครัวใหม่อีกว่า ถ้าเป็นตอนนี้ยังไม่คิด แต่ถามว่าในอนาคตมันก็มีบ้าง เพราะว่าอย่างตอนนี้ลูกหวงเรา มันเป็นวัยของเขา แต่เดี๋ยวพอเขาเข้าสู่วัยรุ่น พอเขามีเพื่อนมีใครที่เขาจะต้องไปใช้ชีวิตอยู่เอง เราก็จะต้องอยู่คนเดียว เราก็เลยมองว่าถ้าในอนาคตข้างหน้ามีคนที่เราอยู่ด้วยแล้วสบายใจ มีความสุข ก็ยังอยากมีเข้ามาในชีวิต

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 8
  • แม่อ้อย
    เก่งค่ะ สู้ชีวิตนะคะไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ
    26 ม.ค. 2563 เวลา 07.46 น.
  • 😛😛minnie😛😛
    น้องน่ารักมาก คุณแม่ก็สู้ๆค่ะ
    26 ม.ค. 2563 เวลา 06.44 น.
  • ผศ.ดร.ศรีเสด็จ
    เก่งค่ะสู้นะ ไม่ต้องสนว่าใครจะว่าอย่างไรเลี้ยงลูกให้ดีที่สุดเป็นกำลังใจให้เสมอนะคะ
    26 ม.ค. 2563 เวลา 06.31 น.
  • Nichapa・✿.*
    เป็นกำลังใจให้นะคะ แม่ลูกสายสตอง ...
    26 ม.ค. 2563 เวลา 06.20 น.
  • พัชรี
    เลยไม่รู้ว่าลูกใครจนบัดนี้ แม่คนเดียว ที่รู้ว่าใครคือพ่อของลูก
    26 ม.ค. 2563 เวลา 06.06 น.
ดูทั้งหมด