เพชรบุรี-สืบภาค 7 ตามเเกะรอย รวบแจ็คที่แต่งตัวเลียนแบบตำรวจ พร้อมภรรยาที่แต่งตัวเลียนแบบครู ร่วมกันฉ้อโกงเงินญาติและยักยอกทรัพย์ ของผู้ให้เช่ารถชายหาดอีก กว่า 10 คัน แล้วนำไปจำนำต่อ
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 28 มกราคม 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรภาค 7 นำโดย พล ต.ต.พงษ์อานันท์ คล้ายคลึง ผบก.สส.ภาค 7 พร้อมด้วย งานสืบสวน กองกำกับการ 1 กองบังการตำรวจท่องเที่ยว 3 นำโดย พ.ต.ต.ธนวิทย์ วิจิตรจริยา สารวัตรกองกำกับตำรวจท่องเที่ยว 3 ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หัวหิน ,สภ.ท่าไม้รวก และ สภ.แก่งกระจาน
ทั้งหมดได้ร่วมกันนำหมายศาลจังหวัดหัวหิน เข้าจับกุมตัว นายภาคิไนย ป่าไลย์ หรือแจ็ค อายุ 30 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 84/1 หมู่ 1 ต.ยางหย่อง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี พร้อมด น.ส.ชุติกาญจน์ เริงรมย์ อายุ 28 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 80 ม.4 ต.ศาลาลัย อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธิ์ ได้ที่บ้านพักของญาติรายหนึ่งซึ่งตั้งภายในสวนปาล์ม หมู่ 9 บ้านวังมะละกอ ต.กลัดหลวง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี โดยทั้งคู่ได้หลบหนี มาช่วยงานเลี้ยงไก่ให้กับเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว มาเป็นเวลา 1 อาทิตย์แล้ว
สำหรับสองสามีภรรยาดังกล่าว ได้ร่วมกันก่อเหตุฉ้อโกงทรัพย์มาหลายคดี เริ่มตั้งแต่เมื่อช่วงกลางปี 2559 นายแจ็ค ได้ยืมเงินจากญาติรายหนึ่งภายในหมู่บ้านยางหย่อง โดยหลอกลวงญาติ ว่าตนเองสอบข้อเขียนเข้ารับราชการตำรวจได้ จึงขอยืมเงินไปเพื่อวิ่งเต้นในขั้นตอนต่อไป ทำให้ญาติหลงเชื่อจึงไปกู้เงินมาให้นายแจ็คยืม จำนวนหลายแสนบาท
ยังไม่พอเท่านั้น ต่อมานายแจ็คได้แต่งกายเลียนแบบเป็นตำรวจ แล้วโพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวพร้อมอ้างถึงการปฎิบัติหน้าที่ระหว่างเป็นตำรวจ เพื่อเพิ่มน้ำหนักให้ญาติหลงเชื่อ จากนั้นได้แต่งกายเลียนแบบเป็นตำรวจเดินทางมาหาญาติพร้อมกับขอยืมเงินจากญาติเพิ่มอีกหลายแสนบาท โดยนายแจ็คอ้างว่าต้องการเงิน ไปวิ่งเต้นในการสอบเข้าเป็นนายตำรวจ
นอกจากนั้นยังให้ น.ส.ชุติกาญจน์ ภรรยาแต่งกายเลียนแบบเป็นข้าราชการแล้วหลอกลวงว่าภรรยารับราชการครู ทำให้ญาติหลงเชื่อพร้อมกับให้เงินนายแจ็คไปอีกหลายแสนบาท เมื่อได้เงินแล้วนายแจ๊คอ้างว่าจะรีบใข้หนี้ตามกำหนดที่ตกลงไว้ แต่เมื่อเวลาผ่านมาทางฝ่ายญาติจับได้ว่านายแจ้คปั้นเรื่องมาหลอกลวงและฉ้อโกงทรัพย์ทั้งหมด ทำให้ฝ่ายญาติเดินทางไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.ท่ายาง
ส่วนนายแจ๊คพร้อมกับภรรยาได้หลบหนีหนี้และไม่ยอมกลับเข้ามาบ้านยางหย่องอีกเลย กระทั่งเมื่อปี 2561 นายแจ็คพร้อมกับภรรยา ได้ร่วมกันก่อเหตุทำทีเช่ารถจักรยานยนต์จากผู้ประกอบการชายหาดชะอำคันละ 250 บาท ต่อวัน จำนวน 2 คัน จากนั้นทั้งคู่ได้นำรถไปจำนำ โดยอ้างว่านำรถทั้งสองคันไปจำนำกับนายน้อย ชาวอำเภอหัวหิน ได้ค่าจำนำคันละ 13,000 บาท
ตำรวจได้สอบสวนและพบว่า ทั้งคู่ยังได้ร่วมกันก่อเหตุในลักษณะเดียวกันในเขตพื้นที่ชายหาดหัวหินอีกนับสิบคัน แล้วนำไปจำนำกับนายน้อยเช่นเคย โดยนายแจ้ค เล่าว่า บางคันนายน้อยให้ราคาสูงถึงคันละ 17,000 บาท จนทำให้ตนเองก่อเหตุบ่อย
จนกระทั่งมีเจ้าทุกข์รายหนึ่งโพสต์เตือนภัยในเฟชบุ๊ก จนเกิดเป็นกระแสตามหาตัวในโลกออนไลน์อย่างกว้างขวาง นอกจากนั้นยังเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.หัวหิน จนศาลจังหวัดหัวหินออกหมายจับเลขที่ 236/2562 เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2562 และถูกจับกุมตัวได้ในที่สุด
ทั้งนี้ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ทำการขยายผลเข้าตรวจสอบแหล่งที่นายแจ็คอ้างว่านำของกลางทั้งหมดไปจำนำบ้านที่นายน้อย ชาวหัวหินต่อไป.///
Supot khongtong อัปรีย์จัญไรเจออัปรีย์จัญไรด้วยกัน โลกช่างสร้างสรรค์ดีเนอะ
28 ม.ค. 2563 เวลา 10.57 น.
ก้อ..ไอ้ฝ่ายผัวไม่ปรึกษาจ่าเฉยก่อนนี่น๊าก่อนจะคิดการณ์อะไรๆไม่งั้นฝ่ายเมียคงให้ผัวถ่ายคลิปแก้ผ้าอาบน้ำแลกค่าเข้าชมกับพรรคพวกในกลุ่มแถมมาด้วยก็ได้นี่นา
28 ม.ค. 2563 เวลา 12.57 น.
ประทุมพร. หน้าก็โจรใจก็โจร
28 ม.ค. 2563 เวลา 12.17 น.
Archangel Que รูปเมียเซลฟี่ กับรูปเมียจากนักข่าว ... คนละโลกกันเลย
29 ม.ค. 2563 เวลา 01.34 น.
PTD ไปคาดตาทำไม
ชาวบ้านเขาจะได้รู้
ว่ามันไปหลอกใครที่ไหนอีก
28 ม.ค. 2563 เวลา 23.35 น.
ดูทั้งหมด