โธ่! “กาญจนาภา-วันชัย” บินไปฮ่องกงตั้งแต่ 5 ต.ค. ดีเอสไอเพิ่งตื่นขอศาลคดีทุจริตออกหมายจับล่าตัวแก๊งฟอกเงินคดีกรุงไทย โอ่อายุความไม่มีขาดเพราะหนี อธิบดีอัยการเผยขอเป็นผู้ร้ายข้ามแดนต้องรู้พิกัดแบบชัดๆ
เมื่อวันที่ 16 พ.ย. พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อวันที่ 12 พ.ย. ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางได้อนุมัติหมายจับนางกาญจนาภา หงษ์เหิน เลขานุการส่วนตัวคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร และนายวันชัย หงษ์เหิน สามี สองผู้ต้องหาคดีความผิดฐานฟอกเงินในคดีที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตอนุมัติสินเชื่อของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ให้กับบริษัทในเครือกฤษดามหานคร หลังสองผู้ต้องหาไม่เดินทางเข้ารับฟังคำสั่งฟ้องของอัยการตามนัดเมื่อวันที่ 31 ต.ค. พ.ต.อ.ไพสิฐกล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบของดีเอสไอ พบว่าหลังจากมีการส่งสำนวนพร้อมผู้ต้องหาให้อัยการไปเมื่อวันที่ 25 ก.ค. และอัยการได้ปล่อยตัวโดยไม่มีการกำหนดเงื่อนไขประกันตัว ต่อมาในเดือน ต.ค. ก็พบว่าบุคคลทั้งสองได้เดินทางออกนอกประเทศ ปลายทางคือเกาะฮ่องกง ซึ่งถือเป็นการเดินทางออกนอกประเทศก่อนกำหนดนัดที่อัยการนัดมาฟังคำสั่งฟ้อง โดยหลังจากนี้ดีเอสไอจะเร่งตรวจสอบประเทศปลายทางว่าหลังจากฮ่องกงแล้วได้เดินทางยังประเทศใดอีก เพื่อให้ทราบถิ่นที่อยู่และส่งเรื่องอัยการสูงสุด (อสส.) ประสานเพื่อขอส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาดำเนินคดีในไทย “อายุความคดีจะไม่ขาดลงในเดือน ม.ค.2562 เนื่องจากอัยการยื่นฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ทำให้คดีไม่มีอายุความ แม้ผู้ต้องหาหลบหนี” พ.ต.อ.ไพสิฐกล่าว สำหรับคดีดังกล่าว สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กล่าวโทษให้ดีเอสไอดำเนินคดีกับนางเกศินี จิปิภพ, นางกาญจนาภา, นายวันชัย และนายพานทองแท้ ชินวัตร ในความผิดฐานฟอกเงินและโดยดีเอสไอมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหา และส่งสำนวนไปให้พนักงานอัยการ ซึ่งมีการนัดฟังคำสั่งเมื่อวันที่ 31 ต.ค. แต่ปรากฏว่านางกาญจนาภา และนายวันชัยไม่เดินทางมาตามกำหนดนัด โดยไม่มีเหตุอันควร พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการคดีพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 4 จึงขอให้ดีเอสไอดำเนินการให้ได้ตัวผู้ต้องหาทั้งสองโดยเร็ว จนต่อมาพบว่าบุคคลทั้งสองได้เดินทางออกนอกประเทศไปตั้งแต่วันที่ 5 ต.ค. และเนื่องจากคดีดังกล่าวอยู่ในอำนาจการพิจารณาของศาลอาญาคดีทุจริตฯ เมื่อมีพฤติการณ์หลบหนี ดีเอสไอจึงยื่นคำขอต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯ เพื่อให้ออกหมายจับ กระทั่งนำไปสู่การออกหมายจับเลขที่ จ.115/2561 ลงวันที่ 12 พ.ย. ให้จับตัวนางกาญจนาภา และหมายจับเลขที่ จ.116/2561 ลงวันที่ 12 พ.ย. ให้จับนายวันชัย มาดำเนินคดีตามขั้นตอนตามกฎหมายต่อไป นายชัชชม อรรฆภิญญ์ อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ กล่าวถึงการประสานขอส่งตัวนางกาญจนาภาและนายวันชัยตามหมายจับเป็นผู้ร้ายข้ามแดน ว่าต้องมีการประสานงานมาขอให้ อสส.ในฐานะผู้ประสานงานกลางส่งเรื่องไปที่ฮ่องกง เพื่อจับกุมผู้ต้องหาและผ่านกระบวนการส่งผู้ร้ายข้ามแดนกลับมายังไทย แต่ยังไม่เห็นหนังสือจากพนักงานสอบสวนส่งไปถึง อสส.แต่อย่างใด ปกติแล้วหนังสือจะส่งไปที่ อสส.ก่อนส่งมายังสำนักงานต่างประเทศเพื่อดำเนินการต่อไป “ในคำร้องขอผู้ร้ายข้ามแดนที่จะประสานไปนั้นต้องระบุถิ่นที่อยู่ของผู้ต้องหามากพอสมควร เช่น อยู่ในที่พักเลขที่เท่าไหร่ ตำบล อำเภอ หรือถนนเส้นไหน เพราะถ้าเราไม่ได้ระบุไป ก็ต้องใช้วิธีการร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อสืบหาบุคคลทางความร่วมมือระหว่างประเทศ ก่อนจะใช้ขั้นตอนการส่งผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งตรงนี้ทางพนักงานสอบสวนไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือดีเอสไอต้องรู้จุดพิกัด ก่อนส่งเรื่องมายังอัยการได้” นายชัชชมระบุ เมื่อถามว่า ระหว่างไทยกับฮ่องกงมีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่ นายชัชชมกล่าวว่า เดิมไทยมีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับจีน ซึ่งครอบครองพื้นที่เกาะฮ่องกงอยู่ หากว่ามีการระบุถิ่นที่อยู่และส่งเรื่องมายัง อสส. เราก็จะประสานงานตามขั้นตอนส่งผู้ร้ายข้ามแดน เพื่อขอตัวผู้ต้องหากลับมาดำเนินคดีได้.
surusvadee จะอยู่ให้จับคลานเปนเต่าแบบนี้ ลูกๆรอมันอยู่ทั้งครอกแล้ว นั่งหัวเราะสบายใจไปแล้ว
20 พ.ย. 2561 เวลา 02.05 น.
รู้แผนหมดแล้ว เพิ่งออกหมายจับ
18 พ.ย. 2561 เวลา 13.10 น.
เล็ก บลูยีนส์ เบื่อตระกูลนี้จริงๆไปตายไหนก็ไปซะ.
18 พ.ย. 2561 เวลา 01.40 น.
Kanokon ตัวการลอยนวล มีแต่ขี้ข้าติดคุก คนสั่งการหอบเงินหนีเสวยสุขดั่งราชาอยู่ตปท
17 พ.ย. 2561 เวลา 12.35 น.
ตรีทิพย์ พวกส้นตีนชอบว่าแต่คนอื่น
17 พ.ย. 2561 เวลา 12.13 น.
ดูทั้งหมด